การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2565
ข้อสอบกระบวนวิชา POL 2302 ระเบียบปฏิบัติราชการ
คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว
1.การจัดระเบียบข้าราชการพลเรือนตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบันในส่วนที่เกี่ยวกับ การรับสมัครบุคคลเพื่อบรรจุเข้ารับราชการและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งต้องคํานึงถึง
(1) ความรู้ความสามารถ
(2) ความเสมอภาค ความเป็นธรรม
(3) ประโยชน์ของตัวข้าราชการ
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 4(เอกสารประกอบการสอน หน้า 4), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 42 (1)) การจัดระเบียบข้าราชการพลเรือนตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบันในส่วนที่เกี่ยวกับการรับสมัครบุคคลเพื่อบรรจุเข้ารับราชการและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งต้องคํานึงถึงความรู้ความสามารถของบุคคล ความเสมอภาค ความเป็นธรรม และประโยชน์ของทางราชการ
2. ผู้มีสิทธิสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญต้องเป็นไปตาม
ระเบียบข้าราชการพลเรือน คือ
(1) มีคุณสมบัติทั่วไป
(2) ไม่มีลักษณะต้องห้ามของการเป็นข้าราชการพลเรือน
(3) ก.พ. ต้องรับรอง
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 4 (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 54), (คําบรรยาย) ผู้มีสิทธิ สมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญนั้น ต้องมีคุณสมบัติ
2 ประการ คือ
1. มีคุณสมบัติทั่วไปของข้าราชการพลเรือนและไม่มีลักษณะต้องห้ามของ ข้าราชการพลเรือนตามที่กําหนดไว้ใน พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 36
2. มีคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งตามที่กําหนดไว้ในมาตรฐานกําหนดตําแหน่งสําหรับตําแหน่งที่รับสมัครสอบ
3.ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ลักษณะของระบบราชการ
(1) ฝ่ายจัดการไม่ใช่เจ้าของกิจการ
(2) มีลําดับขั้นการบังคับบัญชา
(3) มีการกําหนดนโยบายสาธารณะเป็นระยะ ๆ
(4) มีการกําหนดโครงสร้างของงาน
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 3 หน้า 1 – 7 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 1 – 2) ระบบราชการมีลักษณะดังนี้
1. เป็นการค้นหาความสมเหตุสมผล
2. มีลําดับขั้นการบังคับบัญชา
3. มีการกําหนดโครงสร้างของงานที่สมเหตุสมผล
4. มีการแบ่งงานกันทําตามความชํานาญเฉพาะด้าน
5. เป็นการทํางานภายในกรอบของกฎหมาย
6. เป็นระบบค่านิยมอย่างหนึ่ง
7. ฝ่ายจัดการไม่ใช่เจ้าของกิจการ ฯลฯ
4.กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมมีวาระดํารงตําแหน่งกี่ปีนับแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
(1) 2 ปี
(2) 4 ปี
(3) 5 ปี
(4) 6 ปี
(5) 7 ปี
ตอบ 4 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 11), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 24 และมาตรา 29), (คําบรรยาย) คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม เรียกโดยย่อว่า “ก.พ.ค.” ประกอบด้วยกรรมการจํานวน 7 คน ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และ ให้เลขาธิการ ก.พ. เป็นเลขานุการของ ก.พ.ค. โดยตําแหน่ง โดยกรรมการ ก.พ.ค. ต้องทํางาน เต็มเวลา และมีวาระการดํารงตําแหน่ง 6 ปีนับแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และให้ดํารงตําแหน่งได้เพียงวาระเดียว ดังนั้นกรรมการ ก.พ.ค. ซึ่งพ้นจากตําแหน่งตามวาระ จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นกรรมการ ก.พ.ค. อีกมิได้ แต่ให้กรรมการ ก.พ.ค. ซึ่งพ้นจากตําแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตําแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะได้ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการ ก.พ.ค. ใหม่
5. ผู้ว่าราชการจังหวัด
(1) เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ
(2) เป็นตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
(3) เป็นตําแหน่งที่มีระดับเดียวกับปลัดกระทรวง
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 5 (คําบรรยาย) ตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารตาม พ.ร.บ. ระเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มี 2 ระดับ คือ
1. บริหารระดับต้น ได้แก่ รองหัวหน้าส่วนราชการระดับกรม (รองอธิบดี), รองผู้ว่าราชการ จังหวัด, อัครราชทูต เป็นต้น
2. บริหารระดับสูง ได้แก่ หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง (ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีและ ปลัดกระทรวง), รองหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง (รองปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีและ รองปลัดกระทรวง), หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม (อธิบดี), หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม ที่อยู่ในบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีตามกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (เช่น เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ เลขาธิการ ก.พ. เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฯลฯ), ผู้ว่าราชการจังหวัด เอกอัครราชทูต เป็นต้น
6. ตําแหน่งใดต่อไปนี้เป็นประธาน อ.ก.พ. กรม
(1) ผู้ว่าราชการจังหวัด
(2) ปลัดกระทรวง
(3) อธิบดี
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 3(เอกสารประกอบการสอน หน้า 9), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 17), (คําบรรยาย) อ.ก.พ. กรม ประกอบด้วย
1. อนุกรรมการโดยตําแหน่ง ได้แก่ อธิบดี เป็นประธาน รองอธิบดีที่อธิบดีมอบหมาย 1 คน เป็นรองประธาน
2. อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งอธิบดีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ด้านการบริหารและการจัดการ และด้านกฎหมายที่มิได้เป็นข้าราชการในกรมนั้น จํานวนไม่เกิน 3 คน
3. อนุกรรมการผู้แทนข้าราชการ ซึ่งอธิบดีแต่งตั้งจากข้าราชการพลเรือนผู้ดํารงตําแหน่งประเภท บริหารหรือประเภทอํานวยการในกรมนั้น จํานวนไม่เกิน 6 คน
4. เลขานุการ ซึ่ง อ.ก.พ. กรม แต่งตั้ง จํานวน 1 คน
7. ข้อใดเป็นโทษผิดวินัยของข้าราชการพลเรือนสามัญอย่างไม่ร้ายแรง
(1) ว่ากล่าวตักเตือน
(2) ทําทัณฑ์บน
(3) ภาคทัณฑ์
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 3 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 22 – 23), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 88), (คําบรรยาย) ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดกระทําผิดวินัยจะต้องได้รับโทษ ทางวินัย เว้นแต่มีเหตุอันควรงดโทษตามที่บัญญัติไว้ในหมวด 7 การดําเนินการทางวินัย โดยโทษทางวินัยมี 5 สถาน ซึ่งแบ่งออกเป็น
1. โทษผิดวินัยประเภทไม่ร้ายแรง มี 3 สถาน ได้แก่ ภาคทัณฑ์ (เบาที่สุด) ตัดเงินเดือน และลดเงินเดือน
2. โทษผิดวินัยประเภทร้ายแรง มี 2 สถาน ได้แก่ ปลดออก และไล่ออก (หนักที่สุด)
8. เกี่ยวกับระบบชั้นยศในการกําหนดตําแหน่งของข้าราชการพลเรือนที่เคยมีมา
(1) เป็นวิธีการบริหารงานบุคคลระบบหนึ่ง
(2) เป็นระบบที่ตรงข้ามกับระบบธรรมาภิบาล
(3) ถือเอาความสําคัญของบุคคลเป็นหลัก
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 5 หน้า 78 – 80, (คําบรรยาย) ระบบชั้นยศ (Rank Classification) ในการกําหนดตําแหน่ง ข้าราชการพลเรือน มีลักษณะสําคัญดังนี้
1. เป็นวิธีการกําหนดตําแหน่งของข้าราชการพลเรือนระบบหนึ่ง
2. เป็นการกําหนดตําแหน่งโดยคํานึงถึงโครงสร้างตามสายการบังคับบัญชาหรือระดับ
การบังคับบัญชาเพียงประการเดียว
3. เป็นการกําหนดตําแหน่งโดยถือเอาความสําคัญของบุคคลเป็นหลัก
4. เป็นระบบที่ตรงข้ามกับระบบจําแนกตําแหน่งที่กําหนดตําแหน่งโดยคํานึงถึงสายงาน หรือประเภทอาชีพและระดับความยากง่ายและความรับผิดชอบของงานเป็นหลัก
5. เป็นระบบที่ขัดแย้งกับหลักธรรมาภิบาลและระบบคุณธรรม เนื่องจากการบริหารบุคคล ในระบบนี้จะยึดถือตัวบุคคลเป็นหลัก อาจทําให้การบริหารงานไม่ได้ดําเนินการด้วย ความยุติธรรมและมีประสิทธิภาพ และยังอาจก่อให้เกิดระบบอุปถัมภ์มากขึ้นในวงราชการ
9.ระดับตําแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญประเภททั่วไปตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบันมีกี่ระดับ
(1) ระดับเดียว
(2) 2 ระดับ
(3) 3 ระดับ
(4) 4 ระดับ
(5) 5 ระดับ
ตอบ 4(เอกสารประกอบการสอน หน้า 13 – 14), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 46) ระดับตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีดังนี้
1. ตําแหน่งประเภทบริหาร มี 2 ระดับ คือ ระดับต้น และระดับสูง
2. ตําแหน่งประเภทอํานวยการ มี 2 ระดับ คือ ระดับต้น และระดับสูง
3. ตําแหน่งประเภทวิชาการ มี 5 ระดับ คือ ระดับปฏิบัติการ ระดับชํานาญการ ระดับชํานาญการพิเศษ ระดับเชี่ยวชาญ และระดับทรงคุณวุฒิ
4. ตําแหน่งประเภททั่วไป มี 4 ระดับ คือ ระดับปฏิบัติงาน ระดับชํานาญงาน ระดับอาวุโส และระดับทักษะพิเศษ ทั้งนี้การจัดประเภทตําแหน่งและระดับตําแหน่งให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ์ที่กําหนดในกฎ ก.พ.
10. ตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบัน องค์กรใดต่อไปนี้อาจกําหนดตําแหน่งที่มีชื่ออย่างอื่น เพื่อประโยชน์ในการบริหารงาน
(1) ก.พ.
(2) อ.ก.พ. กระทรวง
(3) อ.ก.พ. กรม
(4) อ.ก.พ. จังหวัด
(5) ก.พ.ค.
ตอบ 2 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 13), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 44) นอกจากตําแหน่งที่กําหนดในกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินแล้ว อ.ก.พ.กระทรวง อาจกําหนดตําแหน่งที่มีชื่ออย่างอื่นเพื่อประโยชน์ในการบริหารงาน และแจ้งให้ ก.พ.ทราบด้วย
11. ราชการคืองานที่เกี่ยวกับ
(1) การรักษาความยุติธรรมในสังคม
(2) การจัดทําประกันสังคม
(3) การจัดทําบริการสาธารณะ
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 5 หน้า 1, (คําบรรยาย, ราชการ คือ การงานของประเทศที่เกี่ยวกับการจัดทําบริการสาธารณะ ประเภทต่าง ๆ เช่น การรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน การรักษาความยุติธรรมในสังคม การดูแลสิ่งแวดล้อม การจัดสวัสดิการ การจัดทําประกันสังคม เป็นต้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อ บําบัดทุกข์บํารุงสุขของประชาชน ซึ่งการกําหนดนโยบายในการจัดทําบริการสาธารณะนั้น เป็นหน้าที่ของรัฐบาล โดยมีข้าราชการประจําเป็นเครื่องมือหรือผู้ปฏิบัติการให้เป็นไปตามนโยบายและแผนงานที่กําหนดของฝ่ายการเมือง และจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายหรือระเบียบแบบแผนของทางราชการ
12. ระดับทักษะพิเศษเป็นระดับตําแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทใด
(1) พิเศษ
(2) บริหาร
(3) วิชาการ
(4) อํานวยการ
(5) ทั่วไป
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 9. ประกอบ
13. ปัจจุบันบัญชีผู้สอบแข่งขันได้เพื่อใช้บรรจุบุคคลเข้ารับราชการให้ใช้ได้ไม่เกินกี่ปีนับแต่วันขึ้นบัญชี
(1) 5 ปี
(2) 4 ปี
(3) 3 ปี
(4) 2 ปี
(5) 1 ปี
ตอบ 4 (คําบรรยาย) ปัจจุบัน ก.พ. ได้กําหนดหลักเกณฑ์การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้เพื่อใช้ในการบรรจุ บุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญว่าให้ใช้ได้ไม่เกิน 2 ปีนับแต่วันขึ้นบัญชี
14. ตําแหน่งใดต่อไปนี้เป็นรองประธาน อ.ก.พ. กระทรวง
(1) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง
(2) ปลัดกระทรวง
(3) รองปลัดกระทรวง
(4) อธิบดี
(5) รองอธิบดี
ตอบ 2 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 9), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 15), (คําบรรยาย) อ.ก.พ. กระทรวง ประกอบด้วย
1. อนุกรรมการโดยตําแหน่ง ได้แก่ รัฐมนตรีเจ้าสังกัด (รัฐมนตรีว่าการกระทรวง) เป็นประธาน ปลัดกระทรวง เป็นรองประธาน และผู้แทน ก.พ. 1 คน
2. อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งรัฐมนตรีเจ้าสังกัดแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหาร ทรัพยากรบุคคล ด้านการบริหารและการจัดการ และด้านกฎหมายที่มิได้เป็นข้าราชการ ในกระทรวงนั้น จํานวนไม่เกิน 3 คน
3. อนุกรรมการผู้แทนข้าราชการ ซึ่งรัฐมนตรีเจ้าสังกัดแต่งตั้งจากข้าราชการพลเรือน ผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูงในกระทรวงนั้น จํานวนไม่เกิน 5 คน
4. เลขานุการ ซึ่ง อ.ก.พ. กระทรวง แต่งตั้ง จํานวน 1 คน
15. ข้าราชการประจํามีขอบเขตแห่งอํานาจหน้าที่ที่สําคัญอย่างไร
(1) มีความรับผิดชอบตามกลไกของระบบงานประจํา
(2) มีหน้าที่เสนอแนะแนวปฏิบัติตามนโยบายของฝ่ายการเมือง
(3) มีการควบคุมการปฏิบัติงานตามสายการบังคับบัญชา
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 5 หน้า 8 (คําบรรยาย) ข้าราชการประจํามีขอบเขตแห่งอํานาจหน้าที่ที่สําคัญ คือ การมี ความรับผิดชอบตามกลไกของระบบงานประจําหรือระบบราชการ นั่นคือ มีการควบคุมการปฏิบัติงานตามสายการบังคับบัญชา และมีหน้าที่ต้องรายงานและเสนอแนะนโยบาย สาธารณะต่อฝ่ายข้าราชการการเมือง รวมทั้งมีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายของข้าราชการการเมือง และเสนอแนวปฏิบัติตามนโยบายของข้าราชการการเมือง ในส่วนข้าราชการ การเมืองนั้นจะมีหน้าที่รับผิดชอบตามกลไกของรัฐธรรมนูญ
16. ตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบันมีวิธีการกําหนดตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ
โดยใช้ระบบ
(1) ชั้นยศ
(2) อุปถัมภ์
(3) คุณธรรม
(4) จําแนกตําแหน่ง
(5) ธรรมาภิบาล
ตอบ 4 หน้า 77 – 78, (คําบรรยาย) วิธีการกําหนดตําแหน่งข้าราชการพลเรือนโดยทั่วไปมี 2 ระบบ คือ ระบบชั้นยศ (R.C.) และระบบจําแนกตําแหน่ง (P.C.) ซึ่งตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการ พลเรือน พ.ศ. 2551 จะมีวิธีการกําหนดตําแหน่งโดยใช้ระบบจําแนกตําแหน่งแบบแบ่งเป็น ประเภทตําแหน่งตามลักษณะงาน 4 ประเภท คือ ตําแหน่งประเภทบริหาร ตําแหน่งประเภท อํานวยการ ตําแหน่งประเภทวิชาการ และตําแหน่งประเภททั่วไป
17. ข้อใดเป็นคุณสมบัติทั่วไปของข้าราชการพลเรือน
(1) มีสัญชาติไทย
(2) อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
(3) ไม่เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 4 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 4 – 5), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 36) คุณสมบัติทั่วไปของข้าราชการพลเรือน ได้แก่
1. มีสัญชาติไทย
2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
3. เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ
18. ตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญที่กําหนดในกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ได้แก่ตําแหน่ง
(1) ผู้ว่าราชการจังหวัด
(2) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
(3) นายกเทศมนตรี
(4) นายก อ.บ.ต.
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 1(เอกสารประกอบการสอน หน้า 13) ตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญที่มีการกําหนดตําแหน่ง ใน พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ได้แก่ ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง อธิบดี รองอธิบดี ผู้อํานวยการกอง ผู้อํานวยการสํานัก ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอําเภอ ปลัดอําเภอ เป็นต้น
19. การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญที่ระเบียบฯ กําหนดให้ต้องนําความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ
แต่งตั้ง ได้แก่
(1) ประเภทบริหารระดับสูง
(2) ประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ
(3) ประเภททั่วไประดับทักษะพิเศษ
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 4 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 17 – 18), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 57 (1) (2) (7)), (คําบรรยาย) ตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญที่มีขั้นตอนการบรรจุและแต่งตั้งโดยต้องขออนุมัติหรือขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและนําความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง หรือต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ได้แก่
1. ตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เช่น ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นต้น 2. ตําแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ
20. ระดับตําแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบัน
มีกี่ระดับ
(1) 2 ระดับ
(2) 4 ระดับ
(3) 5 ระดับ
(4) 6 ระดับ
(5) 11 ระดับ
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 9. ประกอบ
21. ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังนี้
(1) เป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
(2) เป็นโรคตามที่กําหนดในกฎ ก.พ.
(3) เป็นบุคคลล้มละลาย
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 5 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 4 – 6), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 36) ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
1. เป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
2. เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กําหนดในกฎ ก.พ.
3. เป็นกรรมการหรือผู้ดํารงตําแหน่งที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
4. เป็นบุคคลล้มละลาย ฯลฯ
22. ตําแหน่งใดต่อไปนี้ไม่ได้เป็นกรรมการ ก.พ. โดยตําแหน่ง
(1) นายกรัฐมนตรี
(2) ปลัดกระทรวงการคลัง
(3) ผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ
(4) เลขาธิการคณะรัฐมนตรี
(5) เลขาธิการ ก.พ.
ตอบ 4 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 7 – 8), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 6 และมาตรา 7), (คําบรรยาย) คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เรียกโดยย่อว่า “ก.พ.” เป็นองค์กรกลางในการบริหารงานบุคคล ประกอบด้วย
1. กรรมการโดยตําแหน่ง จํานวน 5 คน ได้แก่ นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธาน ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเลขาธิการ ก.พ. เป็นกรรมการและเลขานุการ
2. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหาร ทรัพยากรบุคคล ด้านการบริหารและการจัดการ และด้านกฎหมาย จํานวนไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 7 คน โดยอยู่ในตําแหน่งคราวละ 3 ปี
23. กรรมการ ก.พ. ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้สรรหาจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านใด
(1) การบริหารและการจัดการ
(2) กฎหมาย
(3) รัฐศาสตร์
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 22. ประกอบ
24. ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบันตราขึ้นโดยอาศัยหลักการบริหารงานบุคคลตามระบบ
(1) อุปถัมภ์
(2) ชั้นยศ
(3) จําแนกตําแหน่ง
(4) คุณธรรม
(5) ธรรมาภิบาล
ตอบ 4 หน้า 15, (คําบรรยาย) ระเบียบข้าราชการพลเรือนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการบริหารงานบุคคลหรือการบริหารทรัพยากรมนุษย์ภาครัฐ โดยระเบียบข้าราชการพลเรือนแต่ละฉบับจะตราขึ้นโดยอาศัยหลักวิชาการในทางการบริหารงานบุคคลตามระบบคุณธรรม เป็นเกณฑ์ ดังนั้นการที่จะศึกษาทําความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบข้าราชการพลเรือนจึงจําเป็นต้องมีความรู้ในหลักวิชาของการบริหารงานบุคคลเป็นพื้นฐานที่สําคัญ
25. ตําแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบันแบ่งเป็นประเภท
(1) 2 ประเภท
(2) 3 ประเภท
(3) 4 ประเภท
(4) 5 ประเภท
(5) 6 ประเภท
ตอบ 3 (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 45), (คําบรรยาย) ตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญแบ่งตามลักษณะงาน ได้เป็น 4 ประเภท คือ
1. ตําแหน่งประเภทบริหาร ได้แก่ ตําแหน่งหัวหน้าส่วนราชการและรองหัวหน้าส่วนราชการ ระดับกระทรวง กรม และตําแหน่งอื่นที่ ก.พ. กําหนดเป็นตําแหน่งประเภทบริหาร
2. ตําแหน่งประเภทอํานวยการ ได้แก่ ตําแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่ต่ํากว่าระดับกรม และตําแหน่งอื่นที่ ก.พ. กําหนดเป็นตําแหน่งประเภทอํานวยการ เช่น หัวหน้าส่วนราชการ ระดับจังหวัดในราชการส่วนภูมิภาค เป็นต้น
3. ตําแหน่งประเภทวิชาการ ได้แก่ ตําแหน่งที่จําเป็นต้องใช้ผู้สําเร็จการศึกษาระดับปริญญา ตามที่ ก.พ. กําหนด (ระดับปริญญาตรีขึ้นไป) เพื่อปฏิบัติงานในหน้าที่ของตําแหน่งนั้น
4. ตําแหน่งประเภททั่วไป ได้แก่ ตําแหน่งที่ไม่ใช่ตําแหน่งประเภทตามข้อ 1, 2 และ 3 ทั้งนี้ตามที่ ก.พ. กําหนด
26. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนต้อง
(1) ไม่เป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
(3) ไม่เป็นเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(2) ไม่เป็นผู้ดํารงตําแหน่งบริหารในพรรคการเมือง
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 5 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 7 – 8), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 6 วรรคสอง) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนต้องไม่เป็นผู้ดํารงตําแหน่ง ทางการเมือง กรรมการหรือผู้ดํารงตําแหน่งที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมือง หรือ เจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง และมิได้เป็นกรรมการ ก.พ. โดยตําแหน่งอยู่แล้ว
27. ข้อใดเป็นหลักการของระบบคุณธรรม
(1) หลักความรู้ความสามารถ
(2) หลักความเสมอภาค
(3) หลักความมั่นคง
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 5 หน้า 17 – 18 หลักการสําคัญของระบบคุณธรรม (Merit System) ในการบริหารงานบุคคล หรือการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ภาครัฐ มี 4 ประการ คือ
1. หลักความเสมอภาค (Equality)
2. หลักความรู้ความสามารถ (Competence)
3. หลักความมั่นคง (Security)
4. หลักความเป็นกลางทางการเมือง (Political Neutrality)
28. ตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบัน องค์กรใดต่อไปนี้เป็นผู้จัดทํามาตรฐานกําหนดตําแหน่ง
(1) ก.พ.ศ
(2) ก.พ.ร.
(3) ก.พ.
(4) อ.ก.พ. กระทรวง
(5) อ.ก.พ. กรม
ตอบ 3 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 14), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 48) ก.พ. เป็นผู้จัดทํามาตรฐานกําหนดตําแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญ โดยจําแนกตําแหน่งเป็นประเภทและสายงานตามลักษณะงาน และจัดตําแหน่งในประเภทเดียวกันและสายงานเดียวกันที่คุณภาพของงานเท่ากันโดยประมาณเป็นระดับเดียวกัน ทั้งนี้โดยคํานึงถึงลักษณะหน้าที่ความรับผิดชอบและคุณภาพของงาน โดยในมาตรฐานกําหนดตําแหน่งให้ระบุชื่อตําแหน่ง ในสายงาน หน้าที่ความรับผิดชอบหลัก และคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งไว้ด้วย
29. การบริหารงานบุคคลตามระบบอุปถัมภ์ในส่วนที่เกี่ยวกับการบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้าดํารงตําแหน่ง
ทางราชการเป็นวิธีที่ดําเนินการโดยคํานึงถึง
(1) ความไว้วางใจ
(2) ความจงรักภักดี
(3) ความเป็นพวกพ้อง
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 5 หน้า 19, (เอกสารประกอบการสอน หน้า 2) ระบบอุปถัมภ์ (Patronage System) เป็นวิธี การบริหารงานบุคคลที่มุ่งบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้าดํารงตําแหน่งทางราชการโดยมิได้คํานึงถึงความรู้ความสามารถของบุคคลว่าเหมาะสมกับตําแหน่งหรือไม่ แต่จะคํานึงถึงเฉพาะเหตุผล และวิธีการอื่น ๆ อันเป็นการนอกเหนือจากระบบคุณธรรม เช่น ความจงรักภักดี ความไว้วางใจ ความเป็นพวกพ้อง ความเป็นญาติพี่น้อง ความเป็นเพื่อนหรือเป็นที่ชื่นชอบ รวมถึงความผูกพันอื่น ๆ ด้วย
30. ข้อใดเป็นโทษผิดวินัยขั้นร้ายแรงตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบัน
(1) ไล่ออก
(2) ปลดออก
(3) ให้ออก
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 7. ประกอบ
31. เรื่องใดต่อไปนี้ที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบัน
(1) ศาลปกครอง
(2) ศาลรัฐธรรมนูญ
(3) คณะกรรมการการเลือกตั้ง
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
ตอบ 5 (คําบรรยาย) พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ได้บัญญัติเกี่ยวกับการบริหาร งานบุคคลของข้าราชการพลเรือนไว้หลายเรื่อง เช่น การบรรจุและแต่งตั้ง การย้าย การโอน การสับเปลี่ยนหน้าที่ การออกจากราชการ การอุทธรณ์ การร้องทุกข์ คณะกรรมการพิทักษ์ ระบบคุณธรรม ฯลฯ ส่วนเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ศาลปกครอง ศาลทหาร ข้าราชการประจําต่างประเทศพิเศษ รัฐพาณิชย์ เป็นเรื่องที่ไม่ได้บัญญัติไว้ใน ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบัน
32. ปัจจุบันกรรมการ ก.พ. ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งอยู่ในตําแหน่งคราวละกี่ปี
(1) 5 ปี
(2) 4 ปี
(3) 3 ปี
(4) 2 ปี
(5) 1 ปี
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 22. ประกอบ
33. ข้อใดไม่ใช่โทษผิดวินัยข้าราชการพลเรือนสามัญขั้นร้ายแรงตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบัน
(1) ตัดเงินเดือน
(2) ลดเงินเดือน
(3) ให้ออก
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 7. ประกอบ
34. การแต่งตั้งให้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบัน
(1) เป็นขั้นตอนก่อนบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ
(2) เป็นระยะเวลาที่ผู้ทดลองฯ ยังไม่มีสถานภาพเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ
(3) ต้องทดลองฯ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎ ก.พ.
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 3 (คําบรรยาย) พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 กําหนดว่า การแต่งตั้งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการนั้น เป็นระยะเวลาที่ผู้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการมีสถานภาพเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญนับตั้งแต่วันที่ได้รับการบรรจุให้เข้ารับราชการ แต่ทั้งนี้ ต้องทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎ ก.พ.
35. การจัดระเบียบข้าราชการพลเรือนตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบันในส่วนที่เกี่ยวกับ การพิจารณาความดีความชอบต้องเป็นไปอย่างเป็นธรรมโดยพิจารณาจาก
(1) ความประพฤติ
(2) ผลงาน ศักยภาพ
(3) ความคิดเห็นทางการเมือง
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 4 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 4), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 42 (3)) การจัดระเบียบข้าราชการพลเรือนตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน ฉบับปัจจุบันในส่วนที่เกี่ยวกับการพิจารณาความดีความชอบ การเลื่อนตําแหน่ง และการให้ ประโยชน์อื่นแก่ข้าราชการต้องเป็นไปอย่างเป็นธรรมโดยพิจารณาจากผลงาน ศักยภาพ และความประพฤติ แต่จะนําความคิดเห็นทางการเมืองหรือการสังกัดพรรคการเมืองมาประกอบ การพิจารณามิได้
36. ข้อใดเป็นหนังสือประชาสัมพันธ์ตามระเบียบงานสารบรรณฉบับปัจจุบัน
(1) ระเบียบ
(2) คําสั่ง
(3) แถลงการณ์
(4) ข้อบังคับ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 3 หน้า 403, 416, 422, 428, (เอกสารประกอบการสอน หน้า 26 – 27), (คําบรรยาย) หนังสือราชการตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 แก้ไข เพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2548 (ฉบับปัจจุบัน) มี 6 ชนิด คือ
1. หนังสือภายนอก
2. หนังสือภายใน
3. หนังสือประทับตรา
4. หนังสือสั่งการ มี 3 ชนิด ได้แก่ คําสั่ง ระเบียบ และข้อบังคับ
5. หนังสือประชาสัมพันธ์ มี 3 ชนิด ได้แก่ ประกาศ แถลงการณ์ และข่าว
6. หนังสือที่เจ้าหน้าที่ทําขึ้นหรือรับไว้เป็นหลักฐานในราชการ มี 4 ชนิด ได้แก่ หนังสือรับรอง รายงานการประชุม บันทึก และหนังสืออื่น
37. ข้อใดเป็นลักษณะบางประการของข้าราชการการเมือง
(1) มีวาระในการดํารงตําแหน่ง
(2) ต้องสังกัดพรรคการเมือง
(3) ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมือง
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 1 หน้า 391, (คําบรรยาย) ลักษณะของข้าราชการการเมือง มีดังนี้
1. เป็นข้าราชการการเมืองฝ่ายบริหารตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535 (ฉบับปัจจุบัน)
2. มีอัตราเงินเดือนหรือค่าตอบแทนรายเดือนคงที่ ซึ่งกําหนดตามตําแหน่งและไม่มีขั้นวิ่ง
3. การเข้าดํารงตําแหน่งเป็นไปตามเหตุผลทางการเมืองหรือตามระบบอุปถัมภ์ (ไม่เน้นเรื่องคุณวุฒิหรือความรู้ความสามารถ)
4. การออกจากตําแหน่งในกรณีปกติเป็นไปตามวาระหรือมีวาระในการดํารงตําแหน่งหรือ
เป็นไปตามเหตุผลทางการเมือง
5. ไม่จําเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง ฯลฯ
38. ข้าราชการพลเรือนที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลโดยตรงของ ก.พ. ตามระเบียบข้าราชการพลเรือน
ฉบับปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ
(1) ในพระองค์
(2) พลเรือนวิสามัญ
(3) พลเรือนสามัญ
(4) ครู
(5) ส่วนท้องถิ่น
ตอบ 3 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 3), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 35),
(คําบรรยาย) ข้าราชการพลเรือนที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลโดยตรงของ ก.พ. มี 2 ประเภท คือ
1. ข้าราชการพลเรือนสามัญ ได้แก่ ข้าราชการพลเรือนซึ่งรับราชการโดยได้รับบรรจุแต่งตั้ง ตามที่บัญญัติไว้ในลักษณะ 4 ข้าราชการพลเรือนสามัญ ซึ่งข้าราชการประเภทนี้ถือเป็น ข้าราชการส่วนใหญ่ที่มีจํานวนมากที่สุดตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้
2. ข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ได้แก่ ข้าราชการพลเรือนซึ่งรับราชการโดยได้รับบรรจุแต่งตั้ง ให้ดํารงตําแหน่งในพระองค์พระมหากษัตริย์ตามที่กําหนดในพระราชกฤษฎีกา
39. ระดับใดต่อไปนี้เป็นระดับตําแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทอํานวยการตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบัน
(1) ระดับสูง
(2) ระดับต้น
(3) ระดับทรงคุณวุฒิ
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 9. ประกอบ
40. ตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตําแหน่งใดต่อไปนี้เป็นตําแหน่งประเภทบริหารตามระเบียบข้าราชการ
พลเรือนฉบับปัจจุบัน
(1) รองปลัดกระทรวง
(2) อธิบดี
(3) รองผู้ว่าราชการจังหวัด
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 5. ประกอบ
41. ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ถูกคําสั่งลงโทษทางวินัยขั้นไล่ออกจากราชการมีผลดังนี้
(1) ทําให้ขาดสิทธิขอรับบําเหน็จ
(2) ทําให้ขาดสิทธิขอรับบํานาญ
(3) ทําให้ขาดสิทธิในการขออุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค.
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 4 หน้า 267, (เอกสารประกอบการสอน หน้า 23 – 25), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 97 วรรคสี่ และมาตรา 114), (คําบรรยาย) ข้าราชการพลเรือนสามัญ ที่ถูกสั่งลงโทษทางวินัยไม่ว่าจะเป็นโทษทางวินัยสถานใดมีสิทธิขออุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ พิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ภายใน 30 วันนับแต่วันทราบหรือถือว่าทราบคําสั่ง ในกรณี ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดถูกสั่งลงโทษทางวินัยขั้นปลดออกจากราชการมีสิทธิได้รับบําเหน็จบํานาญตามกฎหมายว่าด้วยบําเหน็จบํานาญข้าราชการ โดยถือเสมือนว่าผู้นั้นลาออกจากราชการ ส่วนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดถูกสั่งลงโทษทางวินัยขั้นไล่ออกจากราชการจะไม่มีสิทธิได้รับบําเหน็จบํานาญตามกฎหมายว่าด้วยบําเหน็จบํานาญข้าราชการ
42. ระดับใดต่อไปนี้เป็นระดับของตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหาร
(1) ระดับเชี่ยวชาญ
(2) ระดับทรงคุณวุฒิ
(3) ระดับอาวุโส
(4) ระดับทักษะพิเศษ
(5) ระดับต้น
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 9. ประกอบ
43. ตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบันประเภทอํานวยการ
ได้แก่ตําแหน่ง
(1) หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง
(2) หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม
(3) หัวหน้าส่วนราชการที่ต่ำกว่าระดับกรม
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 25. ประกอบ
44. ระเบียบข้าราชการพลเรือนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ
(1) ก.พ.
(2) การบริหารงานบุคคลในส่วนราชการ
(3) การจัดส่วนราชการ
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 24. ประกอบ
45. ระดับทักษะพิเศษเป็นระดับตําแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทใด
(1) บริหาร
(2) วิชาการ
(3) พิเศษ
(4) อํานวยการ
(5) ทั่วไป
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 9. ประกอบ
46. ปกติการยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการ ระเบียบฯ กําหนดว่าข้าราชการพลเรือนสามัญผู้นั้นจะต้องยื่น ขอลาออกต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปชั้นหนึ่งล่วงหน้าก่อนวันขอลาออกไม่น้อยกว่ากี่วัน
(1) 15 วัน
(2) 30 วัน
(3) 60 วัน
(4) 75 วัน
(5) 90 วัน
ตอบ 2(เอกสารประกอบการสอน หน้า 23 – 24), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 109) ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดประสงค์จะลาออกจากราชการ ให้ยื่นหนังสือขอลาออกต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปชั้นหนึ่ง โดยยื่นล่วงหน้าก่อนวันขอลาออกไม่น้อยกว่า 30 วัน ถ้าผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 (ผู้บังคับบัญชาที่มีอํานาจสั่งอนุญาต ให้ลาออก) เห็นว่าจําเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการ จะยับยั้งการลาออกไว้เป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน นับแต่วันขอลาออกก็ได้ แต่ถ้าผู้มีอํานาจสั่งบรรจุฯ ไม่ได้สั่งอนุญาตให้ลาออก หรือไม่ได้ยับยั้ง การอนุญาตให้ลาออก การลาออกจะมีผลโดยอัตโนมัตินับตั้งแต่วันขอลาออก ทั้งนี้ให้เป็นไปตาม ระเบียบที่ ก.พ. กําหนด
47. การสับเปลี่ยนหน้าที่ ย้าย หรือโอนไปปฏิบัติหน้าที่อื่น โดยปกติกําหนดสําหรับข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทใด และเป็นกรณีปฏิบัติหน้าที่เดียวติดต่อกันเป็นเวลาครบกี่ปี
(1) บริหารระดับสูงเป็นเวลาครบ 4 ปี
(2) อํานวยการระดับสูงเป็นเวลาครบ 4 ปี
(3) อํานวยการระดับต้น เป็นเวลาครบ 4 ปี
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 1 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 18), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง) ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหาร (ระดับสูงและระดับต้น) ผู้ใดปฏิบัติหน้าที่เดียวติดต่อกันเป็นเวลาครบ 4 ปี ให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอํานาจสั่งบรรจุตาม มาตรา 57 ดําเนินการให้มีการสับเปลี่ยนหน้าที่ ย้าย หรือโอนไปปฏิบัติหน้าที่อื่น เว้นแต่มีความ จําเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการจะขออนุมัติคณะรัฐมนตรีให้คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่เดิมต่อไป เป็นเวลาไม่เกิน 2 ปีก็ได้ ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ. กําหนด
48. ผู้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในกรณีใดที่ต้องให้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการตามที่กําหนดในกฎ ก.พ.
(1) กรณีจากผู้สอบแข่งขันได้
(2) กรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่ต้องดําเนินการสอบแข่งขันตามที่ ก.พ. กําหนด
(3) กรณีที่มีเหตุผลและความจําเป็นอย่างยิ่ง
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 4 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 18), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 53 วรรคหนึ่ง, มาตรา 55 และมาตรา 59), (คําบรรยาย) ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ได้รับการบรรจุ ในกรณีต่อไปนี้ต้องแต่งตั้งให้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการและให้ได้รับการพัฒนาเพื่อให้รู้ ระเบียบแบบแผนของทางราชการ และเป็นข้าราชการที่ดีตามที่กําหนดในกฎก.พ. ได้แก่
1. ผู้ที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งจากการสอบแข่งขันได้
2. ผู้ที่ได้รับการบรรจุในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่ต้องดําเนินการสอบแข่งขันตามที่ ก.พ. กําหนด
49. ตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญระดับทรงคุณวุฒิเป็นตําแหน่งประเภท
(1) บริหารระดับต้น
(2) บริหารระดับสูง
(3) วิชาการระดับสูง
(5) วิชาการ
(4) อํานวยการระดับสูง
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 9. ประกอบ
50. ระดับตําแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการมีกี่ระดับ
(1) ระดับเดียว
(2) 2 ระดับ
(3) 3 ระดับ
(4) 4 ระดับ
(5) 5 ระดับ
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 9. ประกอบ
51. หนังสือราชการตามระเบียบงานสารบรรณฉบับปัจจุบันมีกี่ชนิด
(1) 2 ชนิด
(2) 3 ชนิด
(3) 4. ชนิด
(4) 5 ชนิด
(5) 6 ชนิด
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 36. ประกอบ
52. ตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบัน ระยะเวลาของการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการของผู้ที่ได้รับ การบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตามปกติกําหนด
(1) 6 เดือน
(2) ไม่เกิน 6 เดือน
(3) ไม่น้อยกว่า 6 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี
(4) 1 ปี
(5) 1 ปี 6 เดือน
ตอบ 3 หน้า 100 – 101, (เอกสารประกอบการสอน หน้า 18) ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 บุคคลเมื่อได้รับการบรรจุเข้าเป็นข้าราชการแล้ว ในทางปฏิบัติมักจะได้รับการแต่งตั้ง ให้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการก่อน เพื่อทดสอบความเหมาะสมกับงานในตําแหน่งหน้าที่ก่อน การแต่งตั้งให้เป็นข้าราชการประจําโดยสมบูรณ์ต่อไป ซึ่งระยะเวลาของการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการของผู้ที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญนั้นตามปกติกําหนด ไว้ไม่น้อยกว่า 6 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี ทั้งนี้ให้เป็นไปตามกฎ ก.พ.ว่าด้วยการทดลองปฏิบัติ หน้าที่ราชการและการพัฒนาข้าราชการที่อยู่ระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ พ.ศ. 2553
53. ระดับใดต่อไปนี้ที่ไม่ใช่ระดับตําแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการ
(1) ปฏิบัติการ
(2) ชํานาญการ
(3) เชี่ยวชาญ
(4) ทรงคุณวุฒิ
(5) ทักษะพิเศษ
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 9. ประกอบ
54. หนังสือสั่งการตามระเบียบงานสารบรรณฉบับปัจจุบันมีกี่ชนิด
(1) ชนิดเดียว
(2) 2 ชนิด
(3) 3 ชนิด
(4) 4 ชนิด
(5) 6 ชนิด
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 36. ประกอบ
55. ตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบันมีกี่ประเภท
(1) 2 ประเภท
(2) 3 ประเภท
(3) 4 ประเภท
(4) 5 ประเภท
(5) 6 ประเภท
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 25. ประกอบ
56. ข้อใดต่อไปนี้ที่ไม่ใช่หลักการสําคัญของระบบคุณธรรมในการบริหารทรัพยากรมนุษย์
(1) หลักความเสมอภาค
(2) หลักความรู้ความสามารถ
(3) หลักความมั่นคง
(4) หลักอาวุโส
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 27. ประกอบ
57.พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับแรก คือฉบับ พ.ศ.
(1) 2551
(2) 2535
(3) 2475
(4) 2472
(5) 2471
ตอบ 5 หน้า 29 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 3) พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2471 เป็นกฎหมายระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับแรก ซึ่งประกาศเป็นกฎหมายในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2471 แต่มิได้มีผลใช้บังคับทันทีนับแต่วันประกาศในราชกิจจา นุเบกษา โดย พ.ร.บ. ฉบับนี้เริ่มมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2472 หรืออีกราวปีเศษให้หลัง
58.คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนที่เป็นกรรมการโดยตําแหน่งมีจํานวนกี่คน
(1) 2 คน
(2) 3 คน
(3) 4 คน
(4) 5 คน
(5) 6 คน
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 22. ประกอบ
59. การมอบหมายให้ข้าราชการพลเรือนสามัญรับผิดชอบทําเป็นกิจจะลักษณะในทางราชการ เรียกว่า
(1) การกําหนดตําแหน่ง
(2) การจําแนกตําแหน่ง
(3) การแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่ง
(4) การบรรจุตําแหน่ง
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 3 หน้า 77 เมื่อบุคคลใดได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือนแล้วจะต้องถูกจัดเข้าไป ในตําแหน่งใดตําแหน่งหนึ่งเสมอ จะอยู่ลอย ๆ มิได้ และการที่จะให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ ทํางานตามระเบียบของทางราชการนั้น ก็จะต้องมีการมอบหมายงานให้ทําเป็นกิจจะลักษณะซึ่งการมอบหมายให้ข้าราชการพลเรือนสามัญรับผิดชอบทําเป็นกิจจะลักษณะในทางราชการเรียกว่า “การแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่ง”
60. การขอลาออกจากราชการกรณีใดที่ผู้บังคับบัญชาที่มีอํานาจสั่งอนุญาตการลาออกไม่อาจยับยั้งการขอ
ลาออกนั้นได้
(1) ลาออกไปเป็นกรรมการการเลือกตั้งตามที่กําหนดในรัฐธรรมนูญ
(2) ลาออกไปเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
(3) ลาออกไปสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 กับ 2
(5) ถูกทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 5 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 24), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 109 วรรคห้า), (คําบรรยาย) ในกรณีที่ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดประสงค์จะลาออกจากราชการ เพื่อไปดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ (เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)) ตําแหน่งทางการเมือง (เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวง, เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง) หรือตําแหน่งอื่นที่ ก.พ. กําหนด หรือตําแหน่ง กรรมการในคณะกรรมการใดที่กฎหมายกําหนดว่าไม่ต้องเป็นข้าราชการ (เช่น นายกสภา มหาวิทยาลัยของรัฐ) หรือเพื่อสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกรัฐสภา (ส.ส. และ ส.ว.) สมาชิก สภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น (เช่น นายก อบต.) ผู้บังคับบัญชาที่มีอํานาจสั่งอนุญาต การลาออก (ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอํานาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งตามมาตรา 57) ไม่อาจยับยั้ง การขอลาออกได้ และให้การลาออกมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้นั้นขอลาออก
ตั้งแต่ข้อ 61. – 100. ข้อใดถูกให้ระบายในช่อง 1 ข้อใดผิดให้ระบายในช่อง 2
61. เอกสารที่ทางราชการจัดทําขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานในราชการหรือเอกสารที่บุคคลภายนอกมีถึงส่วนราชการ และส่วนราชการรับไว้ ตามระเบียบฯ ราชการแล้วถือว่าเป็นหนังสือราชการ
ตอบ 1 หน้า 403, (คําบรรยาย) ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2548 กําหนดว่า หนังสือราชการ คือ เอกสารที่เป็นหลักฐาน ในราชการ ได้แก่
1. หนังสือที่มีไปมาระหว่างส่วนราชการ
2. หนังสือที่ส่วนราชการมีไปถึงหน่วยงานอื่นใดซึ่งมิใช่ส่วนราชการ หรือที่มีไปถึงบุคคลภายนอก
3. หนังสือที่หน่วยงานอื่นใดซึ่งมิใช่ส่วนราชการ หรือบุคคลภายนอกมีมาถึงส่วนราชการ
4. เอกสารที่ทางราชการจัดทําขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานในราชการ
5. เอกสารที่ทางราชการจัดทําขึ้นตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับ
6. ข้อมูลข่าวสารหรือหนังสือที่ได้รับจากระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์
62. “บํานาญ” หมายถึง เงินตอบแทนความชอบที่ได้รับราชการมาตามกฎหมายบําเหน็จบํานาญข้าราชการ เมื่อพ้นจากหน้าที่ราชการซึ่งจ่ายให้ครั้งเดียว
ตอบ 2 หน้า 69 – 70, (คําบรรยาย) บํานาญ หมายถึง เงินตอบแทนความชอบที่ได้รับราชการมาเมื่อพ้นจากหน้าที่ราชการแล้ว ซึ่งผู้ที่จะได้รับบํานาญนี้จะต้องเป็นผู้มีสิทธิได้รับตามกฎหมาย ว่าด้วยบําเหน็จบํานาญข้าราชการ โดยบํานาญจ่ายให้เป็นรายเดือน
63. ตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตําแหน่งประเภทวิชาการ ได้แก่ ตําแหน่งที่จําเป็นต้องใช้ผู้สําเร็จการศึกษา ระดับปริญญาตามที่ ก.พ. กําหนด เพื่อปฏิบัติงานในหน้าที่ตําแหน่งนั้น
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 25. ประกอบ
64. การแต่งตั้งตําแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีให้นายกรัฐมนตรีมีอํานาจแต่งตั้ง
ตอบ 2 (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 57 (1) (2) (7)), (คําบรรยาย) ตําแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าส่วนราชการระดับกรม สังกัดสํานักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จึงต้องขออนุมัติหรือขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และนําความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง หรือต้องมีพระบรมราชโองการ
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
65. ผู้ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่จําเป็นต้องดําเนินการสอบแข่งขันนั้น ระเบียบฯ
กําหนดว่าไม่ต้องแต่งตั้งให้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการตามกฎ ก.พ.
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 48. ประกอบ
66. การโอนข้าราชการอื่นมาเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบันกําหนดให้ ก.พ. พิจารณาอนุมัติหรือให้ความเห็นชอบโดยคํานึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นหลัก
ตอบ 1 (คําบรรยาย) พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 บัญญัติว่า การโอนพนักงาน ส่วนท้องถิ่น หรือข้าราชการอื่นมาบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญต้องเกิดจากความสมัครใจ ของตัวผู้ขอโอนเอง โดยเมื่อผู้มีอํานาจสั่งบรรจุของทั้ง 2 หน่วยงานตกลงกันได้แล้ว ให้เสนอเรื่อง ไปยัง ก.พ. เพื่อพิจารณาอนุมัติหรือให้ความเห็นชอบ ซึ่ง ก.พ. จะพิจารณาอนุมัติโดยคํานึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นหลัก
67. ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับแรกได้มุ่งวางหลักการสําคัญประการหนึ่งคือ การให้ข้าราชการประจํา
วางตนเป็นกลางทางการเมือง
ตอบ 2 หน้า 30 – 31, (เอกสารประกอบการสอน หน้า 3) วัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ. ระเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2471 (ฉบับแรก) มีดังนี้
1. เพื่อความเป็นระเบียบและมาตรฐาน
2. เพื่อความเสมอภาคและยุติธรรมแก่ผู้ที่ประสงค์จะเข้ารับราชการและผู้ที่เป็นข้าราชการอยู่แล้ว
3. เพื่อให้หลักประกันความมั่นคงแก่ข้าราชการ
4. เพื่อรักษาประโยชน์ของทางราชการ
ทั้งนี้ในขณะที่ใช้ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับแรกนั้นยังไม่มีการแบ่งข้าราชการพลเรือนออกเป็นข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจํา จึงไม่ได้กําหนดวัตถุประสงค์ที่มุ่งวางหลักการ ให้ข้าราชการประจําวางตัวเป็นกลางในทางการเมือง
68. โดยปกติการบรรจุและแต่งตั้งผู้สําเร็จปริญญาจากต่างประเทศเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญจะต้องผ่านการสอบแข่งขัน
ตอบ 1 หน้า 93 – 95 การบรรจุและแต่งตั้งผู้ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรจากสถาบันการศึกษา ต่างประเทศที่ ก.พ. รับรองเข้ารับราชการนั้น โดยปกติจะต้องผ่านการสอบแข่งขันเช่นเดียวกับผู้สําเร็จการศึกษาในประเทศหรือบุคคลทั่วไปที่มีคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งที่เปิด สอบแข่งขันนั้น แต่ต้องเสนอคุณวุฒิให้ ก.พ. พิจารณารับรองเพื่อตีราคาหรือตีค่าคุณวุฒิ และ กําหนดหลักเกณฑ์การบรรจุเป็นราย ๆ ทุกรายไป โดย ก.พ. จะพิจารณาจากหลักสูตรการศึกษา และความน่าเชื่อถือของสถาบันที่ประสาทปริญญาหรือประกาศนียบัตรนั้นด้วย แต่ ก.พ. จะไม่มีอํานาจในการบรรจุและแต่งตั้ง
69. การสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญไปประจํากระทรวง ประจํากรม หรือประจําจังหวัด ทําให้ขาดจาก
อัตราเงินเดือนเดิม
ตอบ 2 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 19), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 69), (คําบรรยาย) การสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญไปประจําส่วนราชการ (ประจํา กระทรวง ประจํากรม ประจํากอง หรือประจําจังหวัด) ซึ่งเป็นการสั่งให้พ้นจากตําแหน่งหน้าที่เดิม เป็นการชั่วคราว จะไม่ทําให้ขาดจากอัตราเงินเดือนเดิม ยังคงรับเงินเดือนในอัตราเดิมอยู่ จึงไม่ทําให้อัตราเงินเดือนว่าง ฉะนั้นการที่จะแต่งตั้งผู้อื่นให้มาดํารงตําแหน่งแทนจะกระทําไม่ได้คงทําได้แต่เพียงสั่งให้ผู้อื่นรักษาการในตําแหน่งได้เท่านั้น
70.ก.พ. มีอํานาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวิสามัญ เรียกโดยย่อว่า “อ.ก.พ. วิสามัญ” เพื่อทําการใด ๆ แทนได้ (เอกสารประกอบการสอน หน้า 8), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 12)
ตอบ 1 ก.พ. มีอํานาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวิสามัญ เรียกโดยย่อว่า “อ.ก.พ. วิสามัญ” เพื่อทําการใด ๆ แทนได้ โดยจํานวน คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้ง อ.ก.พ. วิสามัญ รวมตลอดทั้ง วิธีการได้มา วาระการดํารงตําแหน่ง และการพ้นจากตําแหน่ง ให้เป็นไปตามที่กําหนดในกฎ ก.พ.
71. “บําเหน็จดํารงชีพ” คือ เงินตอบแทนความชอบที่ได้รับราชการมาเมื่อพ้นจากราชการ และมีสิทธิได้รับ ตามกฎหมายบําเหน็จบํานาญข้าราชการ ซึ่งจะได้รับเป็นรายเดือน
ตอบ 2 (คําบรรยาย) บําเหน็จดํารงชีพ คือ เงินที่จ่ายให้ข้าราชการบํานาญเพื่อช่วยเหลือการดํารงชีพ ซึ่งปัจจุบันกระทรวงการคลังได้ออกกฎกระทรวงกําหนดอัตราและวิธีการรับบําเหน็จดํารงชีพ
พ.ศ. 2562 ข้อ 3 ไว้ว่า บําเหน็จดํารงชีพให้จ่ายผู้รับบํานาญในอัตรา 15 เท่าของบํานาญ รายเดือน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท โดยให้มีสิทธิขอรับดังนี้
1. ผู้รับบํานาญอายุต่ํากว่า 65 ปี รับได้ไม่เกิน 200,000 บาท
2. ผู้รับบํานาญอายุตั้งแต่ 65 ปี แต่ไม่ถึง 70 ปี รับได้ไม่เกิน 400,000 บาท
3. ผู้รับบํานาญที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ให้มีสิทธิรับได้ไม่เกิน 500,000 บาท (ดูคําอธิบายข้อ 62. ประกอบ)
72.ตําแหน่ง “ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด” เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญตามระเบียบข้าราชการพลเรือน ฉบับปัจจุบัน
ตอบ 2 หน้า 38, (คําบรรยาย) ข้าราชการพลเรือนสามัญ ได้แก่ ข้าราชการพลเรือนทั่วไปที่ปฏิบัติ ราชการประจําอยู่ตามกระทรวง กรมฝ่ายพลเรือน หรือจังหวัด และอําเภอในราชการส่วนภูมิภาค เช่น ปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด ปลัดอําเภอ ฯลฯ (ส่วนปลัดกรุงเทพมหานคร, ผู้อํานวยการเขตของกรุงเทพมหานคร เป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ, ปลัดองค์การ บริหารส่วนตําบล (ปลัด อบต.) ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ปลัด อบจ.) ปลัดเทศบาล (นคร-เมือง-ตําบล) เป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น)
73. การบริหารงานบุคคลตามระบบอุปถัมภ์มีข้อดีประการหนึ่งคือ ช่วยส่งเสริมการวัดผลโดยการสอบให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ตอบ 1 หน้า 19 การบริหารงานบุคคลตามระบบอุปถัมภ์มีข้อดี คือ
1. ช่วยให้การบริหารงานบุคคลดําเนินไปได้อย่างรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย
2. ช่วยเสริมการวัดผลโดยการสอบตามระบบคุณธรรมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
3. ช่วยให้การบริหารงานบุคคลสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้ทันท่วงที
74. บันทึกข้อความเป็นหนังสือราชการภายในที่ไม่ต้องมีคําลงท้าย แต่มีคําขึ้นต้นเช่นเดียวกับหนังสือราชการ
ภายนอก
ตอบ 1 หน้า 410 – 412, (คําบรรยาย) ตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2548 หนังสือภายใน คือ หนังสือติดต่อราชการ ที่เป็นแบบพิธีน้อยกว่าหนังสือภายนอก เป็นหนังสือติดต่อภายในกระทรวง กรม หรือจังหวัด เดียวกัน ใช้กระดาษบันทึกข้อความ ซึ่งหนังสือภายในนี้จะต้องมีคําขึ้นต้นตามฐานะของผู้รับหนังสือ ตามตารางการใช้คําขึ้นต้น สรรพนาม และคําลงท้ายที่กําหนดไว้ในภาคผนวก 2 โดยคําขึ้นต้น มีลักษณะการใช้เช่นเดียวกับหนังสือราชการที่เรียกว่าหนังสือภายนอก แต่ไม่ต้องมีคําลงท้าย
75. ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ถูกสั่งให้ออกจากราชการระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ ทําให้ขาด
คุณสมบัติทั่วไปของข้าราชการพลเรือน
ตอบ 2 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 18), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 59
วรรคสาม), (คําบรรยาย) ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ถูกสั่งให้ออกจากราชการในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการให้ถือเสมือนว่าผู้นั้นไม่เคยเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญมาก่อน แต่ทั้งนี้จะไม่กระทบกระเทือนถึงการใดที่ผู้นั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือการรับเงินเดือนหรือ ผลประโยชน์อื่นใดที่ได้รับหรือมีสิทธิจะได้รับจากทางราชการในระหว่างผู้นั้นอยู่ระหว่างทดลอง ปฏิบัติหน้าที่ราชการ ดังนั้นจึงไม่ทําให้ขาดคุณสมบัติทั่วไปหรือข้อห้ามของข้าราชการพลเรือนแต่อย่างใด
76. โดยปกติการบรรจุกับการแต่งตั้งเป็นขั้นตอนการบริหารงานบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกัน คือ เมื่อมีการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการก็ต้องแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งตามมาเสมอ
ตอบ 1 หน้า 91, (เอกสารประกอบการสอน หน้า 15) โดยปกติการบรรจุกับการแต่งตั้งข้าราชการ พลเรือนสามัญเป็นขั้นตอนของการบริหารงานบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกัน กล่าวคือ เมื่อมีการบรรจุ บุคคลเข้ารับราชการก็จะต้องมีการแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งตามมาเสมอ ซึ่งการบรรจุ หมายถึง การรับบุคคลเข้าเป็นข้าราชการ ส่วนการแต่งตั้ง หมายถึง การมอบหมายให้ทําหน้าที่ใน ตําแหน่งใดตําแหน่งหนึ่ง โดยอาจเกิดขึ้นพร้อมกับเมื่อมีการบรรจุ หรือต่างวาระกันก็ได้
77. ระเบียบงานสารบรรณฉบับปัจจุบันกําหนดให้หนังสือประทับตราแทนการลงชื่อของหัวหน้าส่วนราชการ
ระดับกรมขึ้นไป
ตอบ 1 หน้า 413 – 414, (คําบรรยาย) ตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2548 หนังสือประทับตรา คือ หนังสือที่ใช้ประทับตรา แทนการลงชื่อของหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมขึ้นไป โดยให้หัวหน้าส่วนราชการระดับกองหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมขึ้นไปเป็นผู้รับผิดชอบลงชื่อย่อกํากับตรา ซึ่งหนังสือประทับตรานี้ไม่ต้องมีคําลงท้าย
78. ผู้ที่เคยเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญมาก่อนอาจยื่นเรื่องราวขอกลับเข้ารับราชการได้เฉพาะกระทรวง ทบวง กรม สังกัดเดิม
ตอบ 2 หน้า 99 (คําบรรยาย) ผู้ที่เคยเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญมาก่อน และลาออกจากราชการไปโดยไม่มีความผิดวินัยแต่ประการใด ถ้าประสงค์ขอกลับเข้ารับราชการอาจยื่นเรื่องราวขอกลับ เข้ารับราชการในกระทรวง กรมใด ๆ ก็ได้ โดยไม่ได้จํากัดเฉพาะกระทรวง กรมเดิมที่เคยสังกัด ก่อนออกจากราชการ และอาจได้รับการบรรจุแต่งตั้งในระดับและเงินเดือนที่ไม่สูงกว่าเดิม
79. เมื่อข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดออกจากราชการไปดํารงตําแหน่งทางการเมือง ส่วนราชการเจ้าสังกัด
ของข้าราชการพลเรือนสามัญผู้นั้นจะต้องสงวนตําแหน่งและอัตราไว้สําหรับบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการ
ในโอกาสต่อไป
ตอบ 2 หน้า 98 – 99, 113, 119, (คําบรรยาย) เมื่อข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดลาออกจากราชการ ไปดํารงตําแหน่งทางการเมือง หรือดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแล้ว ส่วนราชการเจ้าสังกัดไม่ต้องสงวนตําแหน่งในระดับเดียวกันไว้สําหรับบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการ แต่ถ้า ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดออกจากราชการไปปฏิบัติงานใด ๆ ตามมติคณะรัฐมนตรี หรือ ออกจากราชการไปรับราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร ส่วนราชการเจ้าสังกัดต้องสงวนตําแหน่งในระดับเดียวกันไว้สําหรับบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการภายในเวลาที่กําหนด
80. ลักษณะสําคัญบางประการของระบบราชการประการคือ การทํางานภายในกรอบของกฎหมาย และเป็น
ระบบค่านิยมอย่างหนึ่ง
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ
81. ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบันตราขึ้นโดยอาศัยหลักการบริหารงานบุคคลตามระบบจําแนกตําแหน่งโดยเป็นสําคัญ
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 24. ประกอบ
82. ข้าราชการการเมืองได้รับแต่งตั้งเข้าดํารงตําแหน่งโดยเป็นไปตามเหตุผลทางการเมืองและระเบียบ
ข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบัน
ตอบ 2 หน้า 383, 391 ข้าราชการการเมืองได้รับแต่งตั้งเข้าดํารงตําแหน่งโดยเป็นไปตามเหตุผลทาง การเมืองหรือตามระบบอุปถัมภ์ (ไม่เน้นเรื่องคุณวุฒิหรือความรู้ความสามารถ) และตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535 (ฉบับปัจจุบัน) กล่าวคือ แต่เดิมข้าราชการการเมือง ถือว่าเป็นข้าราชการพลเรือนประเภทหนึ่งตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน แต่ในปัจจุบัน ได้มีการแยกข้าราชการการเมืองออกจากข้าราชการพลเรือน เพื่อไม่ให้มีการก้าวก่ายหน้าที่ ซึ่งกันและกัน และได้ประกาศใช้ พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535 เพื่อใช้บังคับแก่ข้าราชการการเมืองโดยตรง
83. ระเบียบงานสารบรรณฉบับปัจจุบันกําหนดให้ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้
ตอบ 1 หน้า 400, (เอกสารประกอบการสอน หน้า 26) ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2548 กําหนดให้ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีเป็น ผู้รักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอํานาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม ระเบียบนี้ รวมทั้งการแก้ไขเพิ่มเติมภาคผนวกและจัดทําคําอธิบายกับให้มีหน้าที่ดําเนินการฝึกอบรมเกี่ยวกับงานสารบรรณ
84. ข้าราชการตุลาการอาจโอนมาเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในระเบียบข้าราชการตุลาการ
ตอบ 2 (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 64 วรรคหนึ่ง), (คําบรรยาย) การโอนพนักงานส่วนท้องถิ่น ข้าราชการที่ไม่ใช่ข้าราชการพลเรือนสามัญ (เช่น ข้าราชการตํารวจ ข้าราชการทหาร ข้าราชการครู ข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ข้าราชการตุลาการ (ผู้พิพากษา) ข้าราชการอัยการ ข้าราชการรัฐสภา ข้าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นต้น) และเจ้าหน้าที่ของ
หน่วยงานอื่นของรัฐที่ ก.พ. กําหนด มาบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตลอดจนจะแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทใด สายงานใด ระดับใด และให้ได้รับเงินเดือนเท่าใด ให้กระทําได้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ. กําหนด ซึ่ง ก.พ. จะพิจารณาอนุมัติโดยคํานึงถึงประโยชน์ ของทางราชการเป็นหลัก
85. กรรมการ ก.พ. ผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่งตามวาระอาจได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นกรรมการ ก.พ.
อีกก็ได้
ตอบ 1 (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 7 วรรคสาม และวรรคสี่), (คําบรรยาย) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของ ก.พ. ซึ่งพ้นจากตําแหน่งตามวาระ จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นกรรมการอีกก็ได้ แต่ถ้าเมื่อพ้นจากตําแหน่งแล้วยังมิได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการใหม่ ให้กรรมการนั้นปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการใหม่
86. การบริหารงานบุคคลในระบบราชการไทยพัฒนาจากระบบอุปถัมภ์ไปสู่ระบบคุณธรรม
ตอบ 1 หน้า 25, (เอกสารประกอบการสอน หน้า 3) การบริหารงานบุคคลในระบบราชการของไทย ได้มีการพัฒนามาตามลําดับ โดยพัฒนามาจากรูปแบบที่ไม่เป็นทางการไปสู่รูปแบบที่เป็นทางการ มากขึ้น และจากระบบอุปถัมภ์ไปสู่ระบบคุณธรรม โดยทั้งหมดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาการบริหารงานบุคคลให้มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์แก่ประชาชนผู้รับบริการ
87. ข้าราชการพลเรือนอาจได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวตามภาวะเศรษฐกิจตามหลักเกณฑ์และวิธีการ
ที่คณะรัฐมนตรีกําหนด
ตอบ 1 (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 38 วรรคสอง) ข้าราชการพลเรือน อาจได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวตามภาวะเศรษฐกิจตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะรัฐมนตรีกําหนด
88. ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบันได้บัญญัติเรื่องการสอบสวนทางวินัยข้าราชการพลเรือนสามัญไว้
นับว่าเป็นการสอดคล้องกับหลักการความมั่นคงตามระบบคุณธรรม
ตอบ 1 หน้า 18 (คําบรรยาย) หลักความมั่นคง (Security) ตามระบบคุณธรรมในการบริหารงานบุคคล หมายถึง การให้หลักประกันแก่ข้าราชการที่มีผลงานและความประพฤติดีจะต้องไม่ถูกให้ออกจากงานโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร โดย พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ได้บัญญัติ เรื่องที่สอดคล้องกับหลักการนี้ไว้หลายเรื่อง เช่น การออกจากราชการ การอุทธรณ์ การร้องทุกข์ การสอบสวนและการดําเนินการทางวินัย เป็นต้น
89. ผู้เคยกระทําการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการทําให้ขาดคุณสมบัติเฉพาะในการสมัครเข้ารับราชการ
ตอบ 2 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 4 – 6), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 36), (คําบรรยาย) ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนซึ่งมีลักษณะต้องห้าม โดยไม่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับเวลาบังคับไว้ ก.พ. อาจพิจารณายกเว้นให้สมัครเข้ารับราชการได้ โดยไม่ทําให้ขาดคุณสมบัติทั่วไป มี 4 กรณี ดังนี้
1. เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
2. เป็นบุคคลล้มละลาย
3. เป็นผู้เคยต้องรับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุกเพราะกระทําความผิดทางอาญา
4. เป็นผู้เคยกระทําการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการหรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
90. มติของ ก.พ. ในการยกเว้นที่เกี่ยวกับข้อห้ามบางประการของการเป็นข้าราชการพลเรือนต้องได้คะแนนเสียง ไม่น้อยกว่าสี่ในห้าของจํานวนกรรมการที่มาประชุม และการลงมติให้กระทําโดยลับ
ตอบ 1 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 6), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 36 วรรคสอง และวรรคสี่) มติของ ก.พ. ในการยกเว้นลักษณะต้องห้าม (คุณสมบัติข้อห้าม) บางประการสําหรับผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนนั้น ต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 4 ใน 5 ของจํานวนกรรมการที่มาประชุม และการลงมติ ให้กระทําโดยลับ ซึ่งในการนี้ ก.พ. จะยกเว้นให้เป็นการเฉพาะราย หรือจะประกาศยกเว้น ให้เป็นการทั่วไปก็ได้
91. การกําหนดตําแหน่งของข้าราชการพลเรือนโดยทั่วไปแล้วมีวิธีการกําหนดตําแหน่ง 2 ระบบ คือ
ระบบคุณธรรมกับระบบอุปถัมภ์
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 16. ประกอบ
92. คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมไม่เคยปรากฏในระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับใดมาก่อนเพิ่งบัญญัติไว้ในระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบัน
ตอบ 1 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 7), (คําบรรยาย) คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) เป็นคณะกรรมการที่ไม่เคยปรากฏใน พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับใดมาก่อนเพิ่งบัญญัติ ไว้ใน พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 เพื่อเป็นองค์กรพิทักษ์คุ้มครองความเป็นธรรม ให้บรรดาข้าราชการพลเรือน และพิทักษ์ระบบการบริหารงานบุคคลของข้าราชการพลเรือน ให้เป็นไปตามระบบคุณธรรม
93.การขอลาออกจากราชการนั้น ถ้าผู้มีอํานาจสั่งอนุญาตไม่ได้สั่งอนุญาตให้ลาออกหรือไม่ได้ยับยั้งการอนุญาต ให้ลาออก การลาออกจะมีผลโดยอัตโนมัตินับตั้งแต่วันขอลาออก
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 46. ประกอบ
94. กระทรวง ทบวง กรมใดมีเหตุผลและความจําเป็นอย่างยิ่งจะบรรจุบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และ ความชํานาญงานสูงเข้ารับราชการและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารก็ได้ ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ. กําหนด
ตอบ 2 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 15), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 56) กระทรวงหรือกรมใดมีเหตุผลและความจําเป็นอย่างยิ่งจะบรรจุบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และความชํานาญงานสูงเข้ารับราชการและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภท วิชาการระดับชํานาญการ ระดับชํานาญการพิเศษ ระดับเชี่ยวชาญ หรือระดับทรงคุณวุฒิ หรือตําแหน่งประเภททั่วไประดับทักษะพิเศษก็ได้ ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ. กําหนด
95. หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีตามกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง เช่นเดียวกับตําแหน่งปลัดกระทรวง
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 5. ประกอบ
96. ปลัดเทศบาลนครเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทอํานวยการระดับสูงตามระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบัน
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 72. ประกอบ
97. ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบันไม่มีข้าราชการประจําต่างประเทศพิเศษแล้ว
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 31. ประกอบ
98. หลักความเสมอภาคตามระบบคุณธรรม หมายความว่า สิทธิที่จะเข้ารับราชการจะต้องเปิดกว้างสําหรับ ประชาชนทุกคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่ราชการต้องการ
ตอบ 1 หน้า 17 หลักความเสมอภาค (Equality) ตามระบบคุณธรรม หมายความว่า สิทธิที่จะเข้ารับราชการจะต้องเปิดกว้างสําหรับประชาชนทุกคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามที่ราชการต้องการหรือตามระเบียบข้าราชการพลเรือน โดยให้มีโอกาสสมัครสอบแข่งขันเข้ารับราชการได้ และต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติเพราะเหตุเกี่ยวกับเหล่ากําเนิด ฐานะทางเศรษฐกิจ สถานภาพ ทางสังคม ศาสนา และเพศของบุคคล
99. ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับปัจจุบันได้กําหนดเรื่องการสอบแข่งขันไว้นับได้ว่าเป็นการสอดคล้องกับ
หลักความเป็นกลางในทางการเมืองตามระบบคุณธรรม
ตอบ 2 หน้า 17, (คําบรรยาย) หลักความรู้ความสามารถ (Competence) ตามระบบคุณธรรม หมายถึง การเลือกสรรบุคคลเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งสูงขึ้น หรือการพิจารณาเลื่อนระดับตําแหน่งจากบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานเป็นสําคัญ ซึ่งส่วนมากจะกระทําโดยการสอบแข่งขัน สอบสัมภาษณ์ และการทดลอง ปฏิบัติงาน
100. การย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งในระดับที่ต่ํากว่าเดิม ผู้มีอํานาจสั่งย้าย
จะกระทําได้ต่อเมื่อได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีเจ้าสังกัดก่อน
ตอบ 2 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 18), (พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 63 วรรคสาม), (คําบรรยาย) การย้ายหรือการโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่ง ในระดับที่ต่ํากว่าเดิม ผู้มีอํานาจสั่งย้ายจะกระทํามิได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากข้าราชการ พลเรือนสามัญผู้นั้น ส่วนการย้ายไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งในระดับที่สูงกว่าเดิม จะไม่สามารถดําเนินการได้แต่ต้องใช้วิธีการสอบคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งแทน