การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2563
ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 1450 (MCS 1400) การกระจายเสียงและการแพร่ภาพ
คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว
1.Broadcasting ในภาษาอังกฤษ มีความหมายว่าอะไร
(1) การกระจายเสียง
(2) การแพร่ภาพ
(3) วิดีโอออนดีมานด์
(4) ข้อ 1 และ 2
ตอบ 4 หน้า 1 คําว่า “Broadcasting” ในภาษาอังกฤษ หมายถึง การกระจายเสียงและการแพร่ภาพ ในขณะที่สารานุกรมบริแทนนิกาได้ให้ความหมายไว้ว่า “Broadcasting” คือ การออกอากาศ รายการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ไปสู่ผู้รับซึ่งเป็นสาธารณชนทั่วไป
2. ความสําคัญของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในระดับบุคคล ตรงกับข้อใด
(1) การเสริมสร้างสติปัญญาให้แก่มนุษย์
(2) สื่อกลางในการให้สาระข้อวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมือง
(3) เสนอความคืบหน้าและความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
(4) เป็นเครื่องมือที่สําคัญต่อการสื่อสารของโลก
ตอบ 1 หน้า 7 – 8 ความสําคัญของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในระดับบุคคล ได้แก่ การเสริมสร้างสติปัญญาให้แก่มนุษย์ในสังคม ซึ่งมีหลายลักษณะ คือ
1. การให้ข้อเท็จจริงแก่ประชาชน
2. การให้การศึกษา
3. การแสดงความคิดเห็น
3. พัฒนาการของการคิดค้นวิธีการติดต่อสื่อสารไปสู่วิทยุกระจายเสียง ตรงกับข้อใด
(1) โทรเลข โทรศัพท์ วิทยุโทรศัพท์ วิทยุโทรเลข
(2) โทรศัพท์ โทรเลข วิทยุโทรเลข วิทยุโทรศัพท์
(3) โทรเลข โทรศัพท์ วิทยุโทรเลข วิทยุโทรศัพท์
(4) โทรศัพท์ โทรเลข วิทยุโทรศัพท์ วิทยุโทรเลข
ตอบ 3 หน้า 16 นักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นและพัฒนาวิธีการติดต่อสื่อสารแบบใหม่ที่เหมาะสมและ มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่โทรเลข โทรศัพท์ วิทยุโทรเลข วิทยุโทรศัพท์ ไปจนถึง วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในปัจจุบัน
4. นักวิทยาศาสตร์ที่สามารถส่งเสียงพูดไปกับคลื่นวิทยุได้สําเร็จ คือ
(1) เจมส์ คลาก แมกซ์เวลล์
(2) กูกลิเอลโม มาร์โคนี
(3) เฮนรี่ ซี. ดันวูดดี
(4) เรจินัลด์ เอ. เฟสเสนเดน
ตอบ 4 หน้า 18 เรจินัลด์ เอ. เฟสเสนเดน (Reginald A. Fessenden) นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ได้ประสบความสําเร็จในการทดลองส่งเสียงพูดไปกับคลื่นวิทยุในคืนวันคริสต์มาส พ.ศ. 2449 โดยเขาได้กล่าวอวยพรคริสต์มาสไปที่เรือ ซึ่งแล่นอยู่บริเวณฝั่งบรานท์ร็อค รัฐแมสซาชูเซตส์
5 การพัฒนาเครื่องรับวิทยุกระจายเสียงที่ทําให้กิจการวิทยุกระจายเสียงแพร่หลายและก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ตรงกับข้อใด
(1) เครื่องรับวิทยุแบบเครื่องแร่
(2) เครื่องรับวิทยุใช้หลอดสุญญากาศ
(3) เครื่องรับวิทยุทรานซิสเตอร์
(4) เครื่องรับวิทยุเฮเทอโรดายน์
ตอบ 3 หน้า 19 เมื่อปี พ.ศ. 2490 นักวิทยาศาสตร์ของห้องทดลองเบล (Bell – laboratories) ได้ประสบผลสําเร็จในการทดลองประดิษฐ์เครื่องรับวิทยุทรานซิสเตอร์ขึ้นใช้แทนเครื่องรับวิทยุชนิดใช้หลอดสุญญากาศ ทําให้เครื่องรับวิทยุมีขนาดเล็กลงและใช้แบตเตอรี่แทนไฟฟ้า กระแสสลับที่ใช้ตามบ้านเรือน จึงสามารถพกพาไปได้ทุกหนทุกแห่ง และนับตั้งแต่นั้นกิจการ วิทยุกระจายเสียงในสหรัฐฯ และยุโรปจึงได้พัฒนาจนแพร่หลายและก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
6.ข้อใดหมายถึงสื่อใหม่ในต้นศตวรรษที่ 20
(1) สื่อสิ่งพิมพ์
(2) สื่อวิทยุกระจายเสียง
(3) สื่อวิทยุโทรทัศน์
(4) ข้อ 2 และ 3
ตอบ 4 หน้า 21, 26 – 27 ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 สื่อวิทยุกระจายเสียงและสื่อวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งเป็นสื่อใหม่ในต้นศตวรรษที่ 20 กําลังเปลี่ยนฐานะเป็นเทคโนโลยีสื่อสารมวลชนรุ่นกลาง เมื่อมีการประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกหลายประเภท เช่น สื่อมัลติมีเดียที่อาศัย การทํางานของคอมพิวเตอร์และสายโทรศัพท์ในการนําสัญญาณ (ตัวอักษร ภาพ และเสียง) มาที่เครื่องรับ รวมทั้งดาวเทียมสื่อสารที่เป็นการส่งสัญญาณข้ามทวีปหรือข้ามภูมิภาค
7. ระบบการสื่อสารใดที่เจริญเติบโตและขยายตัวได้อย่างรวดเร็วที่สุดของมนุษยชาติ
(1) การพิมพ์
(2) โทรศัพท์
(3) วิทยุและโทรทัศน์
(4) เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ตอบ 4 หน้า 27 เครือข่ายอินเทอร์เน็ต นับเป็นระบบการสื่อสารข่าวสารข้อมูลที่เจริญเติบโตและ ขยายตัวได้อย่างรวดเร็วที่สุดของมนุษยชาติ ทําให้ระบบอินเทอร์เน็ตเป็นเสมือนต้นแบบของ ระบบทางด่วนสารสนเทศ (Information Superhighway) และเป็นที่คาดหมายว่าเครือข่าย อินเทอร์เน็ตจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่สําคัญในยุคปี 2000
8. สื่อใดที่มีบทบาทอย่างมากในการโฆษณาชวนเชื่อระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2
(1) หนังสือพิมพ์
(2) นิตยสาร
(3) วิทยุกระจายเสียง
(4) วิทยุโทรทัศน์
ตอบ 3 หน้า 21 วิทยุกระจายเสียงนับเป็นสื่อที่มีบทบาทอย่างมากในการโฆษณาชวนเชื่อระหว่าง สงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เพราะได้กลายเป็นเวทีการยุทธ์สําหรับมหาชนที่ไม่ได้อยู่ใน สนามรบ ซึ่งการระดมมติของกองหลังเช่นนี้มีนัยในการสร้างลัทธิชาตินิยมที่ผูกติดกับสื่อวิทยุ ต่อมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้วิทยุยังเป็นสื่อของวัฒนธรรมโดยเฉพาะด้านดนตรีและเพลง
9. การอนุญาตให้ประชาชนมีเครื่องรับวิทยุกระจายเสียงได้มาจากกฎหมายฉบับใด
(1) พ.ร.บ. วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2498
(2) พ.ร.บ. วิทยุโทรเลข พ.ศ. 2473
(3) พ.ร.บ. การกระจายเสียงและการแพร่ภาพ พ.ศ. 2475
(4) พ.ร.บ. กิจการวิทยุและโทรทัศน์ พ.ศ. 2480
ตอบ 2 หน้า 34 – 35 ในสมัยรัชกาลที่ 7 รัฐบาลได้ประกาศให้ใช้ พ.ร.บ. วิทยุโทรเลข พ.ศ. 2473 ซึ่งมีหลักการสําคัญ คือ อนุญาตให้ประชาชนมีเครื่องรับวิทยุกระจายเสียงได้ เพราะแต่เดิมนั้น รัฐบาลไม่อนุญาตให้ประชาชนมีเครื่องรับวิทยุไว้ในครอบครอง
10. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเปลี่ยนชื่อมาจากสถานีใด
(1) สถานีวิทยุกรุงเทพที่ศาลาแดง 7 พี่เจ
(2) สถานีวิทยุกรุงเทพที่วังพญาไท
(3) สถานีวิทยุ 1 ปณ.
(4) สถานีวิทยุบูรฉัตรไชยากร
ตอบ 1 หน้า 36 หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ. 2475 สถานีวิทยุกรุงเทพฯ ที่พญาไท ได้ย้ายไปอยู่รวมกับสถานีวิทยุที่ศาลาแดง และส่งกระจายเสียงโดยใช้ชื่อสถานีแห่งใหม่นี้ว่า “สถานีวิทยุกรุงเทพที่ศาลาแดง 7 พี่เจ” ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2479 และต่อมาก็ได้ เปลี่ยนชื่อเป็น “สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย” ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายในสังกัดของกรมประชาสัมพันธ์
11. สํานักงานโฆษณาการ เป็นชื่อเดิมของหน่วยงานใด
(1) กรมไปรษณีย์โทรเลข
(2) กรมประชาสัมพันธ์
(3) กรมสารนิเทศ
(4) กรมการค้าภายใน
ตอบ 2 หน้า 36, (คําบรรยาย) กรมประชาสัมพันธ์มีชื่อเดิมว่า “กรมโฆษณาการ” หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2476 รัฐบาลได้จัดตั้ง “สํานักงานโฆษณาการ” ขึ้น ต่อมาได้ยกฐานะขึ้นเป็นกรมชื่อว่า “กรมโฆษณาการ” ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็น “กรมประชาสัมพันธ์” ดังเช่นในปัจจุบัน
12. หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สื่อมวลชนที่มีบทบาทอย่างมากในทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นส่วนหนึ่งในการ สื่อสาระของระบบทุนนิยมที่มีประสิทธิภาพ หมายถึง
(1) หนังสือพิมพ์
(2) วิทยุกระจายเสียง
(3) วิทยุโทรทัศน์
(4) ภาพยนตร์
ตอบ 3 หน้า 26 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 วิทยุโทรทัศน์นับเป็นสื่อมวลชนที่มีบทบาทอย่างมาก ในทางเศรษฐกิจและสังคม โดยการใช้สื่อโทรทัศน์ในระยะนั้นประกอบไปด้วย รายการบันเทิง เช่น ละคร ภาพยนตร์ ดนตรี การแข่งขันตอบปัญหาชิงรางวัลหรือเกมโชว์ และรายการโฆษณา อันเป็นรากฐานของลัทธิบริโภคนิยมสมัยใหม่ ดังนั้นวิทยุโทรทัศน์จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งในการ สื่อสาระของระบบทุนนิยม เพื่อช่วยส่งเสริมให้กระบวนการกระจายและบริโภคสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
13. การขยายงานวิทยุโทรทัศน์ออกไปสู่ภูมิภาค เกิดขึ้นในรัฐบาลใด
(1) จอมพล ป. พิบูลสงคราม
(2) จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
(3) จอมพลถนอม กิติขจร
(4) จอมพลประภาส จารุเสถียร
ตอบ 2 หน้า 37 ในปี พ.ศ. 2502 คณะรัฐบาลที่มีจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ให้ กรมประชาสัมพันธ์ขยายงานวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ออกไปสู่ภูมิภาค โดยมีการ จัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์เขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ลําปาง สงขลา และสุราษฎร์ธานี เพื่อให้ กํากับดูแลงานวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในส่วนภูมิภาค
14. สื่อมวลชนที่เป็นรากฐานของลัทธิบริโภคนิยมสมัยใหม่ หมายถึง
(1) หนังสือพิมพ์
(2) ภาพยนตร์
(3) วิทยุกระจายเสียง
(4) วิทยุโทรทัศน์
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 12. ประกอบ
15. การส่งวิทยุกระจายเสียงระบบเอฟเอ็ม
(1) คลื่นตรง
(2) คลื่นพื้นดิน
(3) คลื่นฟ้า
(4) คลื่นพาห์
ตอบ 1 หน้า 67 – 69 การแพร่คลื่นทางวิทยุกระจายเสียง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้ 1. การแพร่คลื่นตรง ใช้กับการส่งวิทยุกระจายเสียงระบบเอฟเอ็ม (FM) ซึ่งส่งในแถบความถี่ สูงมาก (VHF) ทําให้การเดินทางของคลื่นจะไปไม่ได้ไกล
2. การแพร่คลื่นพื้นดิน ใช้กับการส่งวิทยุกระจายเสียงระบบเอเอ็ม (AM) คลื่นปานกลาง ซึ่งส่งในแถบความถี่ปานกลาง (MF) บางส่วน คือ ระหว่างความถี่ 550 – 1,600 kHz
โดยใช้เส้นแรงแม่เหล็กโลกช่วยในการแพร่คลื่น
3. การแพร่คลื่นฟ้า ใช้กับการส่งวิทยุกระจายเสียงระบบเอเอ็ม (AM) คลื่นสั้น ซึ่งจะครอบคลุม พื้นที่ในการส่งได้เป็นระยะทางไกลกว่าการส่งวิทยุกระจายเสียงอื่น
16. การส่งวิทยุกระจายเสียงระบบเอเอ็ม คลื่นปานกลาง
(1) คลื่นตรง
(2) คลื่นพื้นดิน
(3) คลื่นฟ้า
(4) คลื่นพาห์
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 15. ประกอบ
17. การส่งวิทยุกระจายเสียงระบบเอเอ็ม คลื่นสั้น
(1) คลื่นตรง
(2) คลื่นพื้นดิน
(3) คลื่นฟ้า
(4) คลื่นพาห์
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 15. ประกอบ
18. การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนว่าก่อให้เกิดทั้งผลดีและผลเสีย ก่อให้เกิดผลทั้งต่อสังคม บุคคล และกลุ่มเป็นแนวคิดของใคร
(1) ฮาร์โรลด์ ดี. ลาสเวลล์
(2) ชาร์ลส์ อาร์. ไรท์
(3) เดนิส แมคเควส
(4) เบอร์นาด เบเรลสัน
ตอบ 2 หน้า 88 – 89 ชาร์ลส์ อาร์. ไรท์ (Charles R. Wright) ได้อธิบายถึงการปฏิบัติหน้าที่ของ สื่อมวลชนว่าก่อให้เกิดทั้งผลดีและผลเสีย ก่อให้เกิดผลทั้งต่อสังคม บุคคล และกลุ่ม
19. ผลเสียของสื่อมวลชน “การทําให้ประชาชนมึนเมา” (Narcotization) ข้อใดไม่ถูก
(1) บุคคลเกิดความเฉยเมย เฉื่อยชา ไม่สนใจในการควบคุมสิ่งแวดล้อม
(2) บุคคลอาจจะใช้เวลามากในการดูดซับข่าวจนกระทั่งตนเองทํางานเพียงเล็กน้อย
(3) บุคคลอาจมีความเชื่อว่า การเป็นคนที่รู้ข่าวสาร คือ การเป็นคนที่กระตือรือร้น
(4) บุคคลอาจเกิดความสันโดษ สนใจเรื่องส่วนตัวของตนมากกว่าสนใจเรื่องของส่วนรวม
ตอบ 4 หน้า 89, 91 หน้าที่ในการให้ข่าวสารของชาร์ลส์ อาร์, ไรท์ (Charles R. Wright) ได้ส่งผลเสีย ต่อบุคคลประการหนึ่ง ได้แก่ การเข้าถึงข่าวสารจากสื่อมวลชนอาจทําให้บุคคลเกิดความเฉยเมย เฉื่อยชา ไม่สนใจในการควบคุมสิ่งแวดล้อม กล่าวคือ บุคคลอาจใช้เวลามากในการดูดซับข่าว จนกระทั่งตนเองทํางานเพียงเล็กน้อย และอาจเชื่อว่า การเป็นคนที่รู้ข่าวสาร คือ การเป็นคน ที่กระตือรือร้น ซึ่งพอล เอฟ. ลาซาร์สเฟลด์ (Paut F. Lazarsfeld) และโรเบิร์ต เค. เมอร์ตัน (Robert K. Merton) ได้เรียกผลเสียของสื่อมวลชนในด้านนี้ว่า “การทําให้ประชาชนมึนเมา” (Narcotization)
20. หน้าที่ในการให้ศักดิ์ศรีแก่บุคคล ตรงกับข้อใด
(1) หน้าที่ในการให้ข่าวสาร
(2) หน้าที่ในการแสดงความคิดเห็น
(3) หน้าที่ในการให้การศึกษา
(4) หน้าที่ในการให้ความบันเทิง
ตอบ 1 หน้า 89 – 91 หน้าที่ในการให้ข่าวสารตามแนวความคิดของชาร์ลส์ อาร์. ไรท์ (Charles R. Wright) ส่งผลดีต่อบุคคล ดังนี้
1. ช่วยเตือนภัยและเป็นเครื่องมือในการทํางานของบุคคล
2. เป็นเครื่องมือในการดําเนินชีวิตประจําวัน
3. มีหน้าที่ในการให้ศักดิ์ศรีแก่บุคคล
4. มีหน้าที่ในการให้สถานภาพทางสังคม
5. เป็นการควบคุมศีลธรรมจรรยาของบุคคล
21. ผลเสียของหน้าที่ในการสื่อสารที่ทําให้นักกีฬากลายเป็นนักโฆษณาและนักขายสินค้า ตรงกับข้อใด
(1) หน้าที่ในการให้ข่าวสาร
(2) หน้าที่ในการแสดงความคิดเห็น
(3) หน้าที่ในการให้การศึกษา
(4) หน้าที่ในการให้ความบันเทิง
ตอบ 4 หน้า 89, 94 – 95 หน้าที่ในการให้ความบันเทิงตามแนวความคิดของชาร์ลส์ อาร์. ไรท์ (Charles R. Wright) ได้ส่งผลเสีย ดังนี้
1. ไม่สามารถที่จะยกระดับรสนิยมของประชาชนได้เท่าละครเวทีและวรรณกรรมคลาสสิก
2. ทําให้คุณภาพของศิลปะสูญเสียไป
3. ทําให้นักกีฬากลายเป็นนักโฆษณาและนักขายสินค้า
4. เป็นการทําลายนักกีฬาหน้าใหม่ในวงการกีฬา เนื่องจากทําให้คนไปดูการแข่งขันที่สนามกีฬาน้อย และไม่ได้รับความสนใจในการนําเสนอทางสื่อมวลชน
22. ผลเสียของหน้าที่ในการสื่อสารที่ลดบทบาทความเป็นส่วนตัวของบุคคลในกระบวนการเรียนรู้สังคม
ตรงกับข้อใด
(1) หน้าที่ในการให้ข่าวสาร
(2) หน้าที่ในการแสดงความคิดเห็น
(3) หน้าที่ในการให้การศึกษา
(4) หน้าที่ในการให้ความบันเทิง
ตอบ 3 หน้า 89, 93 – 94 หน้าที่ในการให้การศึกษาตามแนวความคิดของชาร์ลส์ อาร์, ไรท์
(Charles R. Wright) ได้ส่งผลเสีย คือ สื่อมวลชนลดบทบาทความเป็นส่วนตัวของบุคคล
ในกระบวนการเรียนรู้ทางสังคม (Depersonalize the Process of Socialization)
23. การสนับสนุนความเชื่อ ค่านิยม อุดมการณ์ หลักการขององค์กร ตามความคิดของผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับ การเผยแพร่ ตรงกับหน้าที่ข้อใด
(1) หน้าที่ในการให้ข่าวสาร
(2) หน้าที่ในการตีความ
(3) หน้าที่ในการแสดงออก
(4) หน้าที่ในการระดมความร่วมมือ
ตอบ 3หน้า 95 – 97 เดนิส แมคเควล (Denis McQuail) ได้กล่าวถึงหน้าที่ของสื่อมวลชนตาม แนวความคิดของผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเผยแพร่ประการหนึ่ง คือ หน้าที่ในการแสดงออก(Expression) ได้แก่
1. ให้การสนับสนุนความเชื่อ ค่านิยม อุดมการณ์ และหลักการขององค์กร
2. ช่วยพัฒนาสํานึกในการเป็นสมาชิกขององค์กร เช่น พรรคการเมือง ชนชั้นและกลุ่ม
24. แนวคิดการจัดระบบวิทยุและโทรทัศน์ที่เป็นการสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะ หมายถึงข้อใด
(1) ระบบที่รัฐเป็นผู้ให้บริการ
(2) ระบบที่ธุรกิจเอกชนเป็นผู้ให้บริการ
(3) ระบบที่รัฐวิสาหกิจเป็นผู้ให้บริการ
(4) ระบบที่รัฐและธุรกิจเอกชนเป็นผู้ให้บริการ
ตอบ 1 หน้า 111. แนวคิดการสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะ (Public Service System) หรือระบบ ที่รัฐเป็นผู้ให้บริการ ประกอบด้วย มิติทางการเมืองและเศรษฐกิจควบคู่กัน โดยมีพื้นฐานมาจาก สังคมประชาธิปไตยที่เน้นความเชื่อสังคมนิยมในการที่รัฐจะเข้ามาจัดระบบบริการสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น การคมนาคม ไฟฟ้า ประปา ตลอดจนระบบการสื่อสารโทรคมนาคม
25. แนวคิดการสื่อสารในตลาดเสรี ประกอบด้วย มิติการเมืองและเศรษฐกิจแบบใด
(1) สังคมประชาธิปไตยที่เน้นระบบเศรษฐกิจสังคมนิยม
(2) สังคมประชาธิปไตยที่เน้นระบบเศรษฐกิจเสรีนิยม
(3) สังคมอํานาจนิยมที่เน้นระบบเศรษฐกิจทุนนิยม
(4) สังคมเผด็จการที่เน้นระบบเศรษฐกิจสังคมนิยม
ตอบ 2 หน้า 111 แนวคิดการสื่อสารในตลาดเสรี (Free Market System) หรือระบบที่ธุรกิจเอกชน เป็นผู้ให้บริการ ประกอบไปด้วย มิติทางการเมืองและเศรษฐกิจควบคู่กัน โดยมีพื้นฐานมาจากสังคมประชาธิปไตยที่เน้นระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม
26. ดาวเทียมในระดับโลก หมายถึง
(1) Domsat
(2) Eutelsat
(3) Intelsat
(4) Palapa
ตอบ 3 หน้า 80 – 81 ดาวเทียมในระดับโลก ซึ่งอยู่ในวงโคจรโลกขณะนี้มีอยู่ 2 ดวง ได้แก่
1. ดาวเทียม Intelsat เป็นองค์กรดาวเทียมโทรคมนาคมระหว่างประเทศที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1964 ซึ่งประเทศไทยเป็นสมาชิกอันดับที่ 49 ใช้บริการดาวเทียมดวงนี้ผ่านทาง การสื่อสารแห่งประเทศไทย
2. ดาวเทียม Intersputnik เป็นองค์กรดาวเทียมโทรคมนาคมระหว่างประเทศที่ก่อตั้งขึ้น เมื่อ ค.ศ. 1971 โดยกลุ่มประเทศที่ปกครองแบบสังคมนิยม
27. เทคโนโลยีในการแพร่ภาพวิทยุโทรทัศน์ที่เป็นสถานีที่ออกอากาศทางคลื่นภาคพื้นดิน ได้แก่
(1) สถานีที่ออกอากาศทางอินเทอร์เน็ต
(2) สถานีที่ออกอากาศทางดาวเทียม
(3) สถานีที่ออกอากาศทางสายเคเบิล
(4) สถานีที่ออกอากาศในระบบ VHF และ UHF
ตอบ 4 หน้า 82 เทคโนโลยีในการแพร่ภาพสถานีวิทยุโทรทัศน์ในโลกปัจจุบันนี้ มีดังนี้
1. สถานีที่ออกอากาศทางคลื่นภาคพื้นดิน (Terrestrial Television หรือ Over – the air) ได้แก่ สถานีที่ออกอากาศในระบบ VHF และระบบ UHF
2. สถานีที่ออกอากาศทางสายเคเบิล (Cable Television)
3. สถานีที่ออกอากาศทางดาวเทียม ได้แก่ สถานีที่ใช้ดาวเทียมเชื่อมสัญญาณ หรือสถานี ที่ออกอากาศด้วยสัญญาณดาวเทียม (Direct Broadcast Satellite : DBS)
4. สถานีที่ออกอากาศทางอินเทอร์เน็ต (Web Television)
28. แนวคิดในการจัดระบบวิทยุและโทรทัศน์ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980 – 1990 มีการปรับไปสู่ทิศทางใด
(1) Public Service System
(2) Free Market System
(3) Mixed System
(4) Private system
ตอบ 3 หน้า 111, 113 แนวคิดในการจัดระบบวิทยุและโทรทัศน์ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980 – 1990 กําลังเป็นช่วงที่มีการปรับไปสู่ทิศทางของระบบพหุนิยมในแนวตลาดเสรี จึงทําให้เกิดระบบใน แบบที่ 3 คือ ระบบผสม (Mixed System) ระหว่างแนวคิดสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะกับ แนวคิดสื่อสารในตลาดเสรีขยายตัวไปทั่วโลก
29. การควบคุมจากกลุ่มผลักดันทางสังคม หมายถึง
(1) ผู้ชม ผู้ฟัง
(2) ผู้อุปถัมภ์รายการ
(3) โครงการสื่อเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน
(4) การจัด Rating อันดับความนิยมของรายการ
ตอบ 3 หน้า 125 – 127 โครงสร้างในการควบคุมกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย ดังนี้
1. การควบคุมโดยรัฐ คือ การจัดตั้งสถาบันขึ้นมาควบคุม เช่น กสทช., การออกกฎหมาย ที่บังคับใช้โดยตรง, การออกกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อบังคับและ หลักเกณฑ์ที่ออกมาในรูปของหนังสือเวียนและคําสั่งอื่น ๆ ฯลฯ
2. การควบคุมกันเอง ได้แก่ การมีจริยธรรม/จรรยาบรรณของวิชาชีพสื่อสารมวลชน รวมทั้ง การจัดตั้งสมาคมวิชาชีพต่าง ๆ เช่น สมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย, สมาคม นักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ฯลฯ
3. การควบคุมจากบุคคลภายนอก ได้แก่ ผู้ชมและผู้ฟัง, ผู้อุปถัมภ์รายการ (เจ้าของสินค้าและ บริการ) ซึ่งเป็นผู้กําหนดการซื้อเวลาโฆษณา โดยอาศัยการจัดระดับความนิยมของรายการ (Rating) จากบริษัทวิจัย เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ, กลุ่มผลักดันทางสังคม ได้จัดตั้งขึ้นมา เพื่อพัฒนารายการให้ดีและมีประโยชน์ต่อสาธารณชน เช่น โครงการสื่อเพื่อพัฒนาเด็กและ เยาวชน ของมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก ฯลฯ
30. บทบาทของวิทยุและโทรทัศน์ที่ใช้เป็นสื่อพลังต่อรองทางการเมือง หมายถึงข้อใด
(1) การใช้เป็นสื่อเพื่อการรณรงค์เป้าหมายของชาติในด้านต่าง ๆ
(2) การใช้เป็นสื่อเพื่อออกคําสั่ง ประกาศแถลงการณ์ เมื่อเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร
(3) การใช้เป็นสื่อเพื่อถ่ายทอดรายการที่มีความสําคัญระดับประเทศ
(4) การใช้เป็นสื่อเพื่อเปิดพื้นที่ในการอภิปรายแสดงความคิดเห็นของคนกลุ่มต่าง ๆ
ตอบ 2 หน้า 35, (คําบรรยาย) สื่อวิทยุและโทรทัศน์มักถูกนํามาใช้เป็นเครื่องมือหรือเป็นพลังต่อรอง ทางการเมือง เมื่อเกิดวิกฤตการณ์สําคัญในสังคมไทย (เช่น การปฏิวัติรัฐประหาร, เหตุการณ์ 14 ตุลา และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ฯลฯ) โดยมีบทบาทในการใช้เป็นสื่อเพื่อออกคําสั่ง และ ประกาศแถลงการณ์อยู่เสมอ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่สามารถสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว ฉับไว น่าเชื่อถือ และสามารถเข้าถึงประชาชนได้กว้างขวาง
31. สถานีโทรทัศน์ในประเทศไทยส่วนใหญ่ส่งสัญญาณภาพในย่านความถี่ใด
(1) HF และ SHE
(2) VHF และ UHF
(3) UHF และ SHE
(4) VHF และ SHE
ตอบ 2หน้า 72, (คําบรรยาย) สถานีวิทยุโทรทัศน์ระดับชาติของไทยในปัจจุบันจะใช้ย่านความถี่ ในการส่งสัญญาณภาพและเสียง ดังนี้
1. VHF (Very High Frequency) ซึ่งสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยส่วนใหญ่จะใช้ระบบนี้ ได้แก่ ช่อง 5, 7, 9 (โมเดิร์นไนน์ทีวี) และ 11 (NBT หรือ สทท. ในปัจจุบัน)
2. UHF (Ultra High Frequency) ซึ่งมีสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยใช้ระบบนี้เพียง 2 สถานี เท่านั้น ได้แก่ ช่อง 3 และไทยพีบีเอส
32 กสทช. หมายถึงอะไร
(1) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
(2) คณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ
(3) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
(4) คณะกรรมการบริหารงานกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ
ตอบ 3 (ความรู้ทั่วไป) ด้วยเหตุที่รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2550 มาตรา 47 ได้กําหนดให้มีองค์กรอิสระ ของรัฐองค์กรหนึ่งที่มากํากับดูแลกิจการวิทยุและโทรทัศน์ไทย ดังนั้นเพื่อให้เกิดกระบวนการ สรรหาองค์กรอิสระดังกล่าว จึงได้มีการตรา พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับการ ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งตาม มาตรา 6 ได้ระบุไว้ว่า ให้มี “คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ” หรือเรียกโดยย่อว่า “กสทช.” เป็นครั้งแรก จํานวน 11 คน
33 “Carrier Wave” หมายถึงข้อใด
(1) คลื่นยาว
(2) คลื่นวิทยุ
(3) คลื่นเสียง
(4) คลื่นสั้น
ตอบ 2 หน้า 62 คลื่นวิทยุมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “คลื่นพาหะ (Carrier Wave) หรือคลื่นพาห์” ซึ่งการเรียกคลื่นวิทยุที่เครื่องส่งผลิตขึ้นว่าคลื่นพาห์ เนื่องจากคลื่นวิทยุทําหน้าที่เป็นพาหนะของคลื่นเสียง หรือเป็นตัวพาเสียงไปสู่ผู้ฟังที่อยู่ห่างไกลให้รับได้นั่นเอง
34. ประเภทสถานีโทรทัศน์ระดับชาติของไทย จัดอยู่ในประเภทใด
(1) Subscription TV
(2) Down Converter Satellite
(3) Open Circuit Television
(4) Community Antenna Television.
ตอบ 3 หน้า 74, (คําบรรยาย) สถานีวิทยุโทรทัศน์ระดับชาติของไทย หรือฟรีทีวี (Free TV) จัดอยู่ ในระบบวงจรเปิด (Open Circuit Television : OCTV) คือ ระบบการกระจายเสียงและภาพ ด้วยคลื่นวิทยุ (Radio Waves/Hertzian Waves) กระจายไปในอากาศสู่เครื่องรับ ซึ่งผู้รับที่มี เครื่องรับอยู่ในรัศมีการกระจายเสียงในช่องความถี่เดียวกันก็จะรับภาพและเสียงของสถานีได้
35. เคเบิลทีวีเป็นการส่งสัญญาณภาพและเสียงในลักษณะใด
(1) Broadcasting
(2) Narrowcastion
(3) Close Circuit
(4) Open Circuit
ตอบ 2 หน้า 76 เคเบิลทีวี คือ การส่งสัญญาณภาพและเสียงเพื่อให้แพร่กระจายไปสู่ประชาชน จํานวนมากในลักษณะที่เรียกว่า “Narrowcastion” ซึ่งมีลักษณะแคบกว่า เพราะจะส่ง ไปยังปลายทางที่เจาะจงเฉพาะผู้เป็นสมาชิก และจะต้องมีอุปกรณ์พิเศษที่ผู้ส่งติดตั้งไว้ให้ เพื่อรับคลื่นหรือสัญญาณเฉพาะเคเบิลทีวีเท่านั้น
36. จุดกําเนิดวิทยุกระจายเสียงไทย เกิดขึ้นเมื่อใด
(1) 25 กุมภาพันธ์ 2473
(2) 10 ธันวาคม 2475
(3) 24 มิถุนายน 2498
(4) 20 สิงหาคม 2500
ตอบ 1 หน้า 34 – 35, (คําบรรยาย) สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งแรกของประเทศไทยที่จัดตั้งขึ้นมา มีชื่อเรียกว่า “สถานีวิทยุกรุงเทพฯ ที่พญาไท” ซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดของกรมไปรษณีย์โทรเลข โดยทางราชการได้ทําพิธีเปิดสถานีอย่างเป็นทางการและถ่ายทอดเสียงทางวิทยุเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2473 (ตรงกับวันพระราชพิธีฉัตรมงคลในรัชกาลที่ 7) ซึ่งถือเป็น จุดกําเนิดของกิจการวิทยุกระจายเสียงไทย
37. จุดกําเนิดวิทยุโทรทัศน์ไทย เกิดขึ้นเมื่อใด
(1) 25 กุมภาพันธ์ 2473
(2) 10 ธันวาคม 2475
(3) 24 มิถุนายน 2498
(4) 20 สิงหาคม 2500
ตอบ 3 หน้า 42, 44 – 45 สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งแรกของประเทศไทย คือ สถานีวิทยุโทรทัศน์ ไทยทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม ซึ่งก่อตั้งอยู่ในรูปของบริษัท ไทยโทรทัศน์ จํากัด (ปัจจุบันก็คือ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 (โมเดิร์นไนน์ทีวี) ดําเนินงานโดยบริษัท อ.ส.ม.ท. จํากัด (มหาชน) ในสังกัดของสํานักนายกรัฐมนตรี) โดยมีพิธีเปิดสถานีและออกอากาศแพร่ภาพเป็น วันแรกเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2498 ซึ่งถือเป็นจุดกําเนิดของกิจการวิทยุโทรทัศน์ไทย
38. การครอบคลุมพื้นที่ในการแพร่ของคลื่นวิทยุประเภทใดที่สามารถส่งได้เป็นระยะทางไกล
(1) คลื่นพื้นดิน
(2) คลื่นฟ้า
(3) คลื่นตรง
(4) คลื่นอ้อม
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 15. ประกอบ
39. สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เกิดจากกฎหมายฉบับใด
(1) พระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพ พ.ศ. 2550
(2) พระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพ พ.ศ. 2551
(3) พระราชบัญญัติวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2540
(4) พระราชบัญญัติวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2550
ตอบ 2 (ความรู้ทั่วไป) เมื่อ พ.ร.บ. องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2551 ได้ส่งผลให้ประเทศไทยมีสถานี วิทยุโทรทัศน์ระดับชาติในส่วนกลางที่จัดตั้งขึ้นมาล่าสุด คือ ไทยพีบีเอส (TPBS) หรือทีวีไทยซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์สาธารณะหรือทีวีสาธารณะแห่งแรกของไทย และเริ่มแพร่ภาพออกอากาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 โดยได้รับ สัมปทานการใช้คลื่นความถี่ในการแพร่ภาพมาจากสํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี (สปน.)
40. เหตุการณ์ข้อใดเหมาะกับการถ่ายทอดสารผ่านวิทยุกระจายเสียงมากที่สุด
(1) การออกกําลังกาย
(2) การสอนทําอาหารไทย
(3) การรายงานข่าว
(4) การไขปัญหาซ่อมคอมพิวเตอร์
ตอบ 3 (คําบรรยาย) วิทยุกระจายเสียงจะให้ประสิทธิผลในการจูงใจและเปลี่ยนทัศนคติได้ดีที่สุด นอกจากนี้วิทยุยังถือเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในแง่ของการสร้างความคิดคํานึงหรือจินตนาการ เมื่อใช้ถ่ายทอดหรือเสนอเนื้อหาสาระที่เป็นนามธรรม คือ
1. ข้อเท็จจริง (Factual Information) เช่น การรายงานข่าวต่าง ๆ การอภิปรายในรัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ฯลฯ
2. แนวปฏิบัติ (Procedures) เช่น อุดมการณ์หรือแนวคิด การเล่านิทานหรือละคร ฯลฯ
3. ทัศนคติที่พึงประสงค์ (Desirable Attitudes) เช่น การบรรยายธรรม ฯลฯ
4. การจูงใจให้คิดหรือทํา (Motivation) เช่น การโฆษณาชวนเชื่อ ฯลฯ
41. วิทยุและโทรทัศน์เป็น “ลูกพี่ใหญ่” (Big Brother ) ตรงกับข้อใด
(1) นอยล์ นิวแมน
(2) แคลปเปอร์
(3) พอล ลาซาร์สเฟลด์
(4) เอมิล เดอร์คิม
ตอบ 4 หน้า 104 นักคิดในทฤษฎีสังคมมวลชนหลายคน ได้แก่ ออกูส กงเต้ (Auguste Comte), เฟอร์ดินันท์ ทูนนี่ (Ferdinand Tonnise) และเอมิล เดอร์คิม (Emile Durkheim) เห็นว่า วิทยุและโทรทัศน์กลายเป็นลูกพี่ใหญ่ (Big Brother) ที่ควบคุมอิสรเสรีภาพทางความคิดของ คนในสังคมเกือบทั้งหมด
42. อิทธิพลของบุคคล และผู้นําความคิด เป็นแนวคิดของใคร
(1) วิลเบอร์ แชรมม์
(2) พอล ลาซาร์สเฟลด์
(3) ออกูส กงเต้ เฟอร์ดินันท์
(4) นักทฤษฎีสังคมมวลชน
ตอบ 2 หน้า 107 พอล ลาซาร์สเฟลด์ (Paul Lazarsfeld) นับเป็นนักวิชาการที่ชี้ให้เห็นถึงแนวคิด การไหลของข่าวสาร 2 ระดับ (Two – step Flow) และพบว่าอิทธิพลของบุคคล (Personal Influence) และผู้นําความคิด (Opinion Leader) หรือคนที่ใกล้ตัว เป็นปัจจัยสําคัญที่มีผล ต่อการตัดสินใจของคนมากกว่าสื่อมวลชน
43. ผู้รับสารมีความฉลาด และมีวิจารณญาณเพียงพอในการรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อมวลชน ตามแนวคิดนี้ ตรงกับข้อใด
(1) วิทยุและโทรทัศน์มีอิทธิพลโดยตรงต่อผู้รับสาร
(2) วิทยุและโทรทัศน์ไม่มีอิทธิพลต่อผู้รับสารโดยตรง
(3) วิทยุและโทรทัศน์ทําให้เกิดผลในเรื่องใดเรื่องหนึ่งต่อทุกคนในลักษณะคล้ายคลึงกัน
(4) วิทยุและโทรทัศน์จะสนับสนุนทัศนคติ ค่านิยม และแนวโน้มด้านพฤติกรรมของประชาชน ให้มีความเข้มแข็งขึ้น
ตอบ 2 หน้า 105 นักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์หลายท่าน เช่น แคลปเปอร์ (Klapper) มีความเชื่อว่า วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ไม่มีอิทธิพลต่อผู้รับสารโดยตรง เพราะผู้รับสารมีความฉลาด กระตือรือร้น และมีวิจารณญาณเพียงพอในการรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อมวลชน ซึ่งผู้รับสารที่ เปิดรับสื่อสามารถคิดและวิเคราะห์ ไม่ใช่สื่อมีอิทธิพลต่อความคิด
44. ปัจจัยเสริมที่ทําให้วิทยุและโทรทัศน์มีอิทธิพลโดยอ้อม หมายถึงข้อใด
(1) ระดับความต้องการข้อมูลข่าวสารจําเป็นต้องพึ่งพามาก
(2) การสามารถเข้าถึงประชาชนจํานวนมาก
(3) การนําเสนอเรื่องราว กิจกรรม ซ้ำ ๆ บ่อย ๆ
(4) ความมีใจโน้มเอียงของผู้รับสาร
ตอบ 4 หน้า 106 – 107 แนวคิดที่มีความเชื่อว่า วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์มีอิทธิพล ต่อผู้รับสารทางอ้อม โดยอาศัยปัจจัยเสริมต่าง ๆ ได้แก่
1. ความมีใจโน้มเอียงของผู้รับสาร
2. กระบวนการเลือกรับสาร
3. อิทธิพลของบุคคล และผู้นําความคิดเห็น
4. ระดับความต้องการข้อมูลข่าวสาร ซึ่งหากบุคคลต้องพึ่งพาสื่อมากก็เท่ากับว่าสื่อมีอิทธิพล แต่ถ้าบุคคลพึ่งพาสื่อน้อยหรือไม่ต้องพึ่งพาเลย สื่อย่อมไม่มีอิทธิพลใด ๆ ต่อบุคคล
45. ระบบการเป็นเจ้าของกิจการวิทยุและโทรทัศน์ไทย หมายถึง
(1) รัฐเป็นเจ้าของทั้งหมด
(2) เอกชนเป็นเจ้าของทั้งหมด
(3) เป็นของรัฐและเอกชน
(4) เป็นของรัฐ เอกชน และภาคประชาชน
ตอบ 4 หน้า 136, (คําบรรยาย) ระบบการเป็นเจ้าของกิจการวิทยุและโทรทัศน์ไทยในอดีต ถือเป็น กิจการผูกขาดโดยรัฐหรือรัฐเป็นเจ้าของทั้งหมด แต่ในปัจจุบันเมื่อมีการปฏิรูปสื่อเพื่อให้เป็น สื่อสาธารณะอย่างแท้จริงตามรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2550 จึงทําให้ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนสามารถเป็นเจ้าของกิจการวิทยุและโทรทัศน์ไทยได้
46. วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์สาธารณะ หมายถึง
(1) สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
(2) สถานีโทรทัศน์ MCOT
(3) สถานีโทรทัศน์ไอทีวี
(4) สถานีโทรทัศน์ระบบดิจิทัล
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 39. ประกอบ
47. สถานีโทรทัศน์ที่มีวัตถุประสงค์ให้เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ
(1) สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
(2) สถานีโทรทัศน์ MCOT
(3) สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5
(4) สถานีโทรทัศน์ NBT
ตอบ 4 หน้า 50 สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 (NBT หรือ สทท.) มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ ทําหน้าที่ให้ความรู้ ให้การศึกษา เผยแพร่ข่าวสาร การประชาสัมพันธ์และสนับสนุนนโยบายของรัฐ และให้เป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์แม่ข่ายที่ถ่ายทอดไปยังสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยส่วนภูมิภาคในลักษณะเครือข่าย โดยการ เชื่อมโยงสัญญาณด้วยระบบไมโครเวฟขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย หรือใช้ระบบดาวเทียมของการสื่อสารแห่งประเทศไทย
48. กฎหมายวิทยุและโทรทัศน์ฉบับล่าสุดที่ใช้ในปัจจุบัน
(1) พ.ร.บ. วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2498
(2) พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553
(3) พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2564
(4) พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551
ตอบ 3 (ความรู้ทั่วไป) กฎหมายวิทยุและโทรทัศน์ฉบับล่าสุดที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2564 ให้ไว้ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็น ปีที่ 6 ในรัชกาลปัจจุบัน โดย พ.ร.บ. ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และให้ “สํานักงานเลขาธิการวุฒิสภา” เริ่มดําเนินการจัดให้มีการ สรรหากรรมการ กสทช. จํานวน 7 คน ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ที่ พ.ร.บ. บังคับใช้ครั้งแรกในสังคมไทย
49. กฎหมายที่กําหนดกระบวนการสรรหา กสทช. คร
(1) พ.ร.บ. วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2498
(2) พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2543
(3) พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553
(4) พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 32. ประกอบ
50. กฎหมายที่ใช้ในการสรรหา กสทช. ปัจจุบัน
(1) พ.ร.บ. วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2560
(2) พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553
(3) พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2564
(4) พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 48. ประกอบ
51. กฎหมายวิทยุและโทรทัศน์ฉบับแรก
(1) พ.ร.บ. วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2473
(2) พ.ร.บ. วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2498
(3) พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2543
(4) พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551
ตอบ 2 หน้า 117, (คําบรรยาย) พ.ร.บ. วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2498 ถือเป็น กฎหมายวิทยุและโทรทัศน์ฉบับแรก ซึ่งตราขึ้นในปีที่สถานีโทรทัศน์แห่งแรกออกอากาศเมื่อ วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2498 แต่ใช้ในการควบคุมกิจการด้านวิทยุกระจายเสียงและวิทยุ โทรทัศน์ควบคู่กัน
52. แนวคิดที่เชื่อว่าวิทยุและโทรทัศน์มีอิทธิพลโดยตรงต่อผู้รับสาร
(1) นักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์
(2) นักวิชาการด้านทฤษฎีสังคมมวลชน
(3) นักวิชาการสํานักยุโรปศึกษา
(4) นักวิชาการด้านวัฒนธรรมศึกษา
ตอบ 2 หน้า 102 – 104, (คําบรรยาย) นักวิชาการด้านทฤษฎีสังคมมวลชน เชื่อว่า วิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์มีอิทธิพลโดยตรงต่อผู้รับสาร และมองว่าผู้รับสารจะมีลักษณะเฉื่อยชา จึงมัก ถูกกระทําจากข้อมูลข่าวสาร โดยพิจารณาจาก
1. ความสามารถในการเข้าถึงประชาชนจํานวนมากได้โดยตรง และการเปิดรับของผู้รับสาร คือ สื่อมวลชนมีบทบาทเป็นแหล่งข่าวสารพบได้ในทุกที่ และผู้รับสารก็จะต้องเปิดรับฟัง
หรือเปิดรับชมสื่อด้วย
2. มีอิทธิพลในการชักจูงใจ เช่น ความเป็นชาตินิยม และแนวคิดยกย่องผู้นํา ฯลฯ
3. มีผลเรื่องใดเรื่องหนึ่งต่อคนจํานวนมากในลักษณะคล้ายคลึงกัน ทําให้วิทยุและโทรทัศน์ กลายเป็น “ลูกพี่ใหญ่” (Big Brother) ที่ควบคุมอิสรเสรีภาพทางความคิดของคนในสังคม เกือบทั้งหมด (ดูคําอธิบายข้อ 41. ประกอบ)
53. แนวคิดที่เชื่อว่าวิทยุและโทรทัศน์ไม่มีอิทธิพลต่อผู้รับสารโดยตรง
(1) นักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์
(2) นักวิชาการด้านทฤษฎีสังคมมวลชน
(3) นักวิชาการด้านวัฒนธรรมศึกษา
(4) นักวิชาการสํานักยุโรปศึกษา
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 43. ประกอบ
54. รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน หมายถึง
(1) รัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. 2540
(2) รัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. 2550
(3) รัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. 2557
(4) รัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. 2560
ตอบ 4 รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันของประเทศไทย คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ตราไว้ ณ วันที่ 6 เมษายน พุทธศักราช 2560 เป็นปีที่ 2 ในรัชกาลปัจจุบัน
55. การกระจายเสียงในภาษาไทย มีความหมายว่าอย่างไร
(1) การกระจายเสียงและการแพร่ภาพ
(2) การออกอากาศรายการวิทยุโทรทัศน์
(3) การออกอากาศรายการวิทยุกระจายเสียง
(4) การออกอากาศรายการผ่านดาวเทียม
ตอบ 3 หน้า 1 ในภาษาไทยได้แบ่งความหมายของคําว่า “การกระจายเสียง” และ “การแพร่ภาพ เอาไว้อย่างชัดเจน ดังนี้
1. การกระจายเสียง หมายถึง การออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียง ซึ่งเป็นคําที่ใช้กันมา ตั้งแต่เริ่มมีวิทยุกระจายเสียงในปี พ.ศ. 2473
2. การแพร่ภาพ หมายถึง การออกอากาศทางวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งเป็นคําที่ใช้กันมาตั้งแต่เริ่ม มีวิทยุโทรทัศน์ในปี พ.ศ. 2498
56. สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งแรกที่มีเครือข่ายสถานีในส่วนภูมิภาค
(1) สถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 7
(2) สถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 3
(3) สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
(4) สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 47. ประกอบ
57. การก่อตั้งกิจการวิทยุโทรทัศน์ครั้งแรกของไทยนั้น ดําเนินการในรูปแบบใด
(1) จัดตั้งเป็นบริษัทจํากัด
(2) จัดตั้งเป็นรัฐวิสาหกิจ
(3) จัดตั้งเป็นหน่วยงานราชการ
(4) จัดตั้งเป็นระบบสัมปทาน
ตอบ 1 หน้า 40 – 41 การก่อตั้งกิจการวิทยุโทรทัศน์ครั้งแรกของไทย มีวิวัฒนาการเริ่มต้นในสมัย รัชกาลที่ 9 โดยเกิดจากความคิดริเริ่มของจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี เมื่อ พ.ศ. 2495 แต่ถูกสภาผู้แทนราษฎรและหนังสือพิมพ์โจมตีคัดค้านอย่างมากว่า เป็นการสิ้นเปลือง งบประมาณแผ่นดิน จึงทําให้รัฐบาลเปลี่ยนแผนการจากเดิมที่จะดําเนินการเอง มาเป็นการ จัดตั้งเป็นบริษัทจํากัด (บริษัท ไทยโทรทัศน์ จํากัด) เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเอง
58. ผู้กล่าวข้อความออกอากาศครั้งแรกในพิธีเปิดสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งแรกของประเทศไทย คือ
(1) จอมพล ป. พิบูลสงคราม
(2) จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
(3) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
(4) พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ตอบ 4 หน้า 34 การจัดตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งแรกของประเทศไทย ได้เกิดขึ้นในสมัยรัชกาล ที่ 7 โดยทางราชการได้ทําพิธีเปิดสถานีอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2473 ซึ่งตรงกับวันพระราชพิธีฉัตรมงคล โดยในพิธีเปิดได้อัญเชิญกระแสพระราชดํารัสของพระบาท สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) มาออกอากาศเป็นครั้งแรก
59. การจัดตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 ได้รับเงินงบประมาณในการจัดตั้งอย่างไร
(1) งบประมาณแผ่นดิน
(2) เงินบริจาคจากประชาชนและภาคเอกชน
(3) งบประมาณแผ่นดินและเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น
(4) งบประมาณแผ่นดินและเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเยอรมนี
ตอบ 3 หน้า 50 ในระยะเริ่มแรกนั้น สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 จัดตั้งขึ้นด้วย
เงินงบประมาณแผ่นดิน (เงินรายได้ของกรมประชาสัมพันธ์) ประมาณ 8 ล้านบาท แต่ด้วย ข้อจํากัดด้านเทคนิคและความจําเป็นด้านงบประมาณรายได้ กรมประชาสัมพันธ์จึงจัดทําโครงการขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นในขณะนั้นก็ได้มีมติ อนุมัติโครงการช่วยเหลือแบบให้เปล่าในวงเงินประมาณ 330 ล้านบาทแก่รัฐบาลไทย
60. บิดาของวิทยุกระจายเสียงไทย คือ
(1) กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
(2) กรมพระกําแพงเพชรอัครโยธิน
(3) กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
(4) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ตอบ 2 หน้า 33 – 34 บิดาของกิจการวิทยุกระจายเสียงไทย คือ นายพลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกําแพงเพชรอัครโยธิน เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้บุกเบิก และริเริ่มให้มีการทดลองส่งวิทยุกระจายเสียงขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยใช้ชื่อสถานี วิทยุแห่งนี้ว่า “พี่เจ” ซึ่งย่อมาจากคําว่า “บูรฉัตรไชยากร
61. วิวัฒนาการของวิทยุโทรทัศน์ไทย เริ่มต้นครั้งแรกในรัชกาลใด
(1) ร.6
(2) ร.7
(3) ร.8
(4) ร.9
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 57. ประกอบ
62. การจัดตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งแรกของไทย เกิดขึ้นในสมัยใด
(1) ร.5
(2) ร.6
(3) ร.7
(4) ร.8
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 58. ประกอบ
63. บุคคลที่บัญญัติคําว่า “วิทยุโทรทัศน์” หมายถึงใคร
(1) กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
(2) กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
(3) กรมพระยาวงษานุพันธ์
(4) กรมพระกําแพงเพชรอัครโยธิน
ตอบ 1 หน้า 3, 81 คําว่า “Television” นี้ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ได้ทรงวิเคราะห์ศัพท์ และได้บัญญัติคําเป็นภาษาไทยครั้งแรกว่า “วิทยุโทรทัศน์” (มักเรียกสั้น ๆ ว่า “โทรทัศน์”) ซึ่งหมายถึง การส่งและรับสัญญาณภาพและเสียงโดยเครื่องส่งและเครื่องรับอิเล็กทรอนิกส์ ออกอากาศด้วยกระแสคลื่นวิทยุที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเครื่องส่งไปยังเครื่องรับที่อยู่ห่างไกล
64. บุคคลใดที่ได้นําเครื่องรับวิทยุโทรเลขมาใช้เป็นครั้งแรกในไทย
(1) กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
(2) กรมพระกําแพงเพชรอัครโยธิน
(3) กรมพระยาวงษานุพันธ์
(4) เจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศร์
ตอบ 1 หน้า 32 เมื่อปี พ.ศ. 2450 กรมทหารเรือที่มีจอมพลเรือสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ วรพินิต เป็นผู้บัญชาการ ได้นําเครื่องรับส่งวิทยุโทรเลขแบบมาร์โคนีของอังกฤษมาใช้ในราชการ ทหารเป็นครั้งแรก และในปีเดียวกันนี้กองทัพบกที่มีเจ้าพระยาวงษานุประพันธ์เป็นเสนาธิการ
ก็ได้สั่งเครื่องวิทยุสนามแบบมาร์โคนีมาใช้ด้วยเช่นเดียวกัน
65. การจัดตั้งสถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกของไทย เกิดขึ้นในสมัยใด
(1) ร.5
(2) ร.6
(3) ร.7
(4) ร.8
ตอบ 2หน้า 32 การจัดตั้งสถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกของไทยเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งพระองค์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ราชการทหารเรือจัดตั้งสถานีวิทยุโทรเลขถาวรขึ้นในสังกัดของ กระทรวงทหารเรือ 2 สถานี คือ ที่ตําบลศาลาแดง กรุงเทพฯ กับที่ชายทะเล จ.สงขลา
66. สถานีวิทยุโทรทัศน์สีแห่งแรกของประเทศไทย หมายถึงข้อใด
(1) ช่อง 3
(2) ช่อง 5
(3) ช่อง 7
(4) ช่อง 9
ตอบ 3 หน้า 47 สถานีวิทยุโทรทัศน์สีแห่งแรกของประเทศไทย คือ สถานีวิทยุโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 โดยเป็นสถานีโทรทัศน์ของทางราชการเจ้าแรกที่ให้บริษัทเอกชน ได้แก่ บริษัท กรุงเทพ โทรทัศน์และวิทยุ จํากัด เป็นเจ้าของสัมปทานหรือร่วมดําเนินการจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2510
67. สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งแรกของประเทศไทย หมายถึงข้อใด
(1) สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4
(2) สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5
(3) สถานีวิทยุโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
(4) สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 37. ประกอบ
68. ข้อใดเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบดิจิทัลที่เกิดขึ้นมาภายหลัง
(1) ช่อง 3, ช่อง 3 HD
(2) ช่อง NBT, ช่อง MCOT
(3) ช่อง 7, ช่อง 7 HD
(4) ช่องไทยรัฐทีวี, ช่องโมโน 29
ตอบ 4 (ความรู้ทั่วไป) สถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบดิจิทัลที่เกิดขึ้นมาภายหลัง และกําลังแพร่ภาพ ออกอากาศอยู่ในขณะนี้ ได้แก่ ช่อง 3 HD, ช่อง 7 HD, ช่อง MCOT HD, ช่อง PPTV HD, ช่องไทยรัฐทีวี, ช่องโมโน 29, ช่อง Workpoint, ช่อง TNN 24, ช่อง True 4U เป็นต้น
69. สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย อยู่ภายใต้การดําเนินงานของหน่วยงานใด
(1) องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย
(2) กองทัพบก กระทรวงกลาโหม
(3) กรมประชาสัมพันธ์
(4) บริษัท ไทยโทรทัศน์ จํากัด
ตอบ 3 หน้า 49, 137 – 138 สถานีวิทยุโทรทัศน์ที่อยู่ภายใต้การดําเนินงานของกรมประชาสัมพันธ์ ได้แก่
1. สถานีในส่วนกลาง คือ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 (NBT/สทท.)
2. สถานีในส่วนภูมิภาค คือ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 4, 5, 7, 8, 9 และ 10 ซึ่งทั้งหมดจะทําหน้าที่เป็นสถานีแม่ข่ายในส่วนภูมิภาค
70. การจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุ เพื่อจัดตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงหรือสถานีวิทยุโทรทัศน์ของไทยนั้น ผู้รับผิดชอบงานด้านนี้ คือ
(1) คสช.
(2) กสทช.
(3) กรมประชาสัมพันธ์
(4) กรมไปรษณีย์โทรเลข
ตอบ 2 (ความรู้ทั่วไป) เจตนารมณ์ในการปฏิรูปสื่อวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ไทยตาม รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2550 มาตรา 47 ได้กําหนดให้มีองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระองค์กรหนึ่ง ทําหน้าที่ในการจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับดูแลการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ได้แก่ กสทช.
71. การควบคุมภายนอกของกิจการวิทยุและโทรทัศน์ไทย หมายถึงอะไร
(1) กฎหมายและระเบียบต่าง ๆ
(2) เจ้าของสินค้าและบริการ
(3) จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ
(4) สมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์ไทย
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 29. ประกอบ
72. สถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกของไทยในสมัยนั้น อยู่กับหน่วยงานใด
(1) กรมไปรษณีย์โทรเลข
(2) สํานักงานโฆษณาการ
(3) กระทรวงกลาโหม
(4) กระทรวงทหารเรือ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 65. ประกอบ
73. การทดลองส่งวิทยุกระจายเสียง โดยใช้ชื่อสถานีว่า “พี่เจ” ในยุคนั้น ย่อมาจากคําว่าอะไร
(1) บูรฉัตรไชยากร
(2) มาร์โคนี
(3) กองช่างวิทยุ
(4) กรมไปรษณีย์โทรเลข
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 60. ประกอบ
74. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งแรกของประเทศไทย ได้ทําพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อใด
(1) วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2456
(2) วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2471
(3) วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2473
(4) วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2498
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 36. ประกอบ
75. องค์กรที่ทําหน้าที่ควบคุมและบริหารคลื่นความถี่วิทยุให้เป็นระเบียบทั่วโลก โดยผ่านทางรัฐบาลของ
แต่ละประเทศ คือองค์กรใด
(1) ABU
(2) EBU
(3) ITU
(4) RTU
ตอบ 3 หน้า 58, 115, 124 สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ITU (The International
Telecommunication Union) ซึ่งมีสํานักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นองค์กรที่ทําหน้าที่ควบคุมและบริหารคลื่นความถี่วิทยุให้เป็นระเบียบทั่วโลก โดยผ่านทางรัฐบาลของแต่ละประเทศ
76. “บิดาของวงการวิทยุกระจายเสียงโลก” คือ
(1) ลี เดอ ฟอเรสต์
(2) เจมส์ คลาก แมกซ์เวลล์
(3) เฮนริช เฮิรตซ์
(4) กูกลิเอลโม มาร์โคนี
ตอบ 4 หน้า 17 – 18 ในปี พ.ศ. 2438 ถูกลิเอลโม มาร์โคนี (Guglielmo Marconi) ได้ประดิษฐ์ เครื่องมือการสื่อสารที่เรียกว่า “วิทยุโทรเลข” (Wireless Telegraph) สําเร็จเป็นครั้งแรก ต่อมาในปี พ.ศ. 2444 เขาก็ได้ทดลองส่งสัญญาณวิทยุโทรเลขข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกและได้นําเอาการทดลองนี้ไปสู่การผลิตแบบอุตสาหกรรมได้สําเร็จเป็นคนแรก จนได้รับการ ยกย่องว่าเป็น “บิดาของวงการวิทยุกระจายเสียงโลก”
77. เครื่องรับวิทยุกระจายเสียงในยุคแรก มีลักษณะอย่างไร
(1) เครื่องรับวิทยุแร่
(2) เครื่องรับวิทยุหลอดสุญญากาศ
(3) เครื่องรับวิทยุโทรศัพท์
(4) เครื่องรับแบบเฟลมิ่ง
ตอบ 1 หน้า 19, (คําบรรยาย) เครื่องรับวิทยุกระจายเสียงในยุคแรกเริ่มจะมีลักษณะเป็นเครื่องรับ วิทยุแร่ โดยผู้ฟังต้องใช้เครื่องฟังครอบไว้ที่หู และสามารถเปิดฟังได้คนเดียว ซึ่งคุณภาพเสียง ไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากมีเสียงที่เบา รวมทั้งยังแยกคลื่นของสถานีต่าง ๆ ไม่ค่อยได้อีกด้วย
78. ก่อนที่เราจะบัญญัติคําว่า “วิทยุกระจายเสียง” มาใช้นั้น เราใช้คําทับศัพท์ภาษาอังกฤษครั้งแรกว่าอะไร
(1) Radio
(2) Wireless
(3) Radio Telegraph
(4) Radio Broadcasting
ตอบ 3 หน้า 2 แต่เดิมเราไม่มีคําเรียกวิทยุกระจายเสียงเป็นภาษาไทย แต่ใช้ทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า “ราดิโอ โทรเลข” (Radio Telegraph) หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) จึงทรงบัญญัติคําว่า “วิทยุ” ในภาษาไทย มาใช้เป็นครั้งแรก และต่อมาภายหลัง ราชบัณฑิตยสถานจึงให้ใช้คําเต็ม ๆ อย่างเป็นทางการว่า “วิทยุกระจายเสียง”
79. บุคคลที่บัญญัติคําว่า “วิทยุ” ในภาษาไทย มาใช้เป็นครั้งแรก คือ
(1) กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
(2) กรมพระกําแพงเพชรอัครโยธิน
(3) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
(4) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 78. ประกอบ
80. บุคคลแรกที่เป็นผู้นําเอาการทดลองการส่งสัญญาณวิทยุโทรเลขไปสู่การผลิตแบบอุตสาหกรรมได้สําเร็จ คือ
(1) เฮนริช เฮิรตซ์
(2) กูกลิเอลโม มาร์โคนี
(3) เจมส์ คลาก แมกซ์เวลล์
(4) เรจินัลด์ เอ. เฟสเสนเดน
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 76. ประกอบ
81. สื่อมวลชนข้อใดต่อไปนี้ที่เข้าถึงประชาชนได้มากที่สุด
(1) ภาพยนตร์
(2) วิทยุกระจายเสียง
(4) หนังสือพิมพ์ออนไลน์
(3) วิทยุโทรทัศน์
ตอบ 4 (ความรู้ทั่วไป) จากผลการสํารวจของสถาบันรอยเตอร์เพื่อการศึกษาด้านสื่อสารมวลชนในปี ค.ศ. 2021 พบว่า สื่อมวลชนที่เข้าถึงประชาชนได้มากที่สุด และถือเป็นสื่อที่คนไทยใช้ในการ บริโภคข่าวสารมากเป็นอันดับที่ 1 ได้แก่ สื่อออนไลน์ (91%) โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ออนไลน์ รองลงมา คือ โทรทัศน์ (51%) และน้อยสุดก็คือ สื่อสิ่งพิมพ์ (15%)
82. สื่อใดต่อไปนี้ให้ประสิทธิผลในการจูงใจและเปลี่ยนทัศนคติได้ดีที่สุด
(1) วิทยุกระจายเสียง
(2) วิทยุโทรทัศน์
(3) ภาพยนตร์
(4) หนังสือพิมพ์
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 40. ประกอบ
83.BBC (British Broadcasting Corporation)
(1) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้า
(2) ระบบวิทยุและโทรทัศน์บรรษัทสาธารณะ
(3) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อสาธารณะ
(4) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้าและเพื่อสาธารณะ
ตอบ 2 หน้า 113, 165 – 166, 169, 172 ระบบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ของประเทศอังกฤษและ ประเทศญี่ปุ่นจะมี 2 ระบบเหมือนกัน คือ
1. ระบบบรรษัทสาธารณะ (Public Corporation) เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากําไรและไม่มี โฆษณาธุรกิจการค้า แต่จะมีรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมเครื่องรับวิทยุและโทรทัศน์ ได้แก่ บรรษัทวิทยุและโทรทัศน์อังกฤษ (British Broadcasting Corporation : BBC) ซึ่งมีลักษณะเหมือนบรรษัทการกระจายเสียงแห่งญี่ปุ่น (Nippon Hoso Kyokai : NHK)
2. ระบบธุรกิจเอกชน (Commercial Broadcasting) เป็นระบบการกระจายเสียงเพื่อการค้า ได้แก่ สถานีวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้า มีรายได้จากการโฆษณา
84.NHK (Nippon Hoso Kyokai)
(1) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้า
(2) ระบบวิทยุและโทรทัศน์บรรษัทสาธารณะ
(3) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อสาธารณะ
(4) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้าและเพื่อสาธารณะ
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 83. ประกอบ
85.CBS (Columbia Broadcasting System)
(1) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้า
(2) ระบบวิทยุและโทรทัศน์บรรษัทสาธารณะ
(3) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อสาธารณะ
(4) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้าและเพื่อสาธารณะ
ตอบ 1 หน้า 113, 168 ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้าในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งดําเนิน กิจการในรูปแบบของธุรกิจ และมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการโฆษณานั้น ในปัจจุบันจะมี เครือข่ายระดับชาติที่สําคัญ ได้แก่
1. CRS (Columbia Broadcasting System)
2. ABC (American Broadcasting Company) 3. NBC (National Broadcasting Company)
86.PBS (Public Broadcasting Service)
(1) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้า
(2) ระบบวิทยุและโทรทัศน์บรรษัทสาธารณะ
(3) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อสาธารณะ
(4) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้าและเพื่อสาธารณะ
ตอบ 3 หน้า 113, 168, (คําบรรยาย) PBS (Public Broadcasting Service) คือ ระบบวิทยุและ โทรทัศน์เพื่อสาธารณะ ซึ่งถือเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากําไร และมีรายได้เป็นเงินอุดหนุนจาก รัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ PBS ได้จัดตั้งขึ้นมาภายหลัง เพื่อผลิตรายการที่ส่งเสริม คุณค่าทางสังคม ศิลปวัฒนธรรม และกิจการสาธารณะต่าง ๆ เช่น รายการสําหรับเด็ก ฯลฯ
87.“ABU” หมายถึงอะไร
(1) สหภาพการกระจายเสียงระหว่างประเทศ
(2) สหภาพการกระจายเสียงยุโรป
(3) สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ
(4) สหภาพการกระจายเสียงเอเชีย-แปซิฟิก
ตอบ 4 หน้า 115, 124 สหภาพการกระจายเสียงเอเชีย-แปซิฟิก (The Asian Pacific Broadcasting Union : ABU) มีสํานักงานอยู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ถือเป็นองค์กรที่ทําหน้าที่ในการบริหารงานด้านการกระจายเสียงและให้ความร่วมมือกับประเทศในแถบเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งประเทศไทยก็มีความสัมพันธ์ด้านการแลกเปลี่ยนข่าวสารรายการโดยผ่านสถาบันนี้
88. กฎหมายได้กําหนดให้กิจการวิทยุและโทรทัศน์มีใบอนุญาตประเภทใดบ้าง
(1) บริการสาธารณะ และบริการธุรกิจ
(2) บริการระดับชาติ ท้องถิ่น และระดับจังหวัด
(3) บริการสาธารณะ บริการธุรกิจ และบริการชุมชน
(4) บริการธุรกิจ และบริการชุมชน
ตอบ 3พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา 10 ระบุว่า ใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์โดยใช้คลื่นความถี่ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. ใบอนุญาตประกอบกิจการบริการสาธารณะ
2. ใบอนุญาตประกอบกิจการบริการชุมชน
3. ใบอนุญาตประกอบกิจการบริการธุรกิจ
89. ข้อใดเป็นระบบบรรษัทสาธารณะ (Public Corporation)
(1) TBS
(2) CNN
(3) BBC
(4) PBS
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 83. ประกอบ
90. รายการวิทยุเพื่อรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ตรงกับแนวคิดความสําคัญของวิทยุและโทรทัศน์ด้านใด
(1) การพัฒนาชนบท
(2) การพัฒนาเศรษฐกิจ
(3) การพัฒนาสังคม
(4) การพัฒนาการศึกษา
ตอบ 3 หน้า 7, 9 – 13 ความสําคัญของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในระดับสังคมและประเทศ มีอยู่ 4 ประการ ดังนี้
1. การพัฒนาทางการศึกษา คือ การเสนอรายการเพื่อสอนหรือเสริมสร้างความรู้โดยตรง
2. การพัฒนาทางการเมือง คือ การเป็นสื่อกลางทางความคิดเห็นด้านการเมือง
3. การพัฒนาชนบท เช่น การนําเสนอรายการวิทยุเพื่อการเกษตร เพื่องานอาชีพที่สําคัญ ๆ
4. การพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม คือ การนําเสนอเกี่ยวกับรายงานความคืบหน้า ทางการค้า (ด้านเศรษฐกิจ), รายการวิทยุเพื่อรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา (ด้านสังคม)
91. แนวคิดในการจัดระบบวิทยุโทรทัศน์ไทยปัจจุบัน ตรงกับข้อใด
(1) Public Service System
(2) Free Market System.
(3) Dual System
(4) Mixed System
ตอบ 4 หน้า 111, 113, (คําบรรยาย) แนวคิดในการจัดระบบวิทยุและโทรทัศน์ไทยปัจจุบันตาม รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2550 เป็นแบบ Mixed System (แนวคิดผสมระหว่างการสื่อสารเพื่อ ประโยชน์สาธารณะกับการสื่อสารในตลาดเสรี) เพื่อให้ระบบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ไทย มีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ ของเอกชน หรือของภาคประชาชน
92. บรรษัทการกระจายเสียงแห่งญี่ปุ่น หมายถึงข้อใด
(1) NHK
(2) NBC
(3) TBS
(4) Radio Japan
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 83. ประกอบ
93. พัฒนาการวิทยุกระจายเสียงถือว่า ประเทศใดเป็นผู้บุกเบิกกิจการวิทยุกระจายเสียงโลก
(1) อังกฤษ
(2) สหรัฐอเมริกา
(3) ญี่ปุ่น
(4) รัสเซีย
ตอบ 2 หน้า 155 – 156 พัฒนาการของวิทยุกระจายเสียงถือว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้บุกเบิก กิจการวิทยุกระจายเสียงโลก โดยมีสถานีวิทยุกระจายเสียงอยู่กลุ่มหนึ่งที่ถือว่าเป็นสถานีวิทยุ กระจายเสียงที่เกิดขึ้นในยุคแรก ๆ ได้แก่ สถานีวิทยุ KCBS (ค.ศ. 1909), WHA (ค.ศ. 1917) WWJ (ค.ศ. 1920) และ KDKA (ค.ศ. 1920)
94. การควบคุมของรัฐในกิจการวิทยุและโทรทัศน์ของไทย หมายถึงข้อใด
(1) การจัดตั้งเป็นสมาคมวิชาชีพต่าง ๆ เช่น สมาคมนักข่าว สมาคมนักวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
(2) จริยธรรมและจรรยาบรรณของวิชาชีพสื่อมวลชน
(3) การตั้งแผนกเซ็นเซอร์ภายในสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ
(4) การออกหนังสือเวียนและคําสั่งอื่น ๆ ให้สถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์นําไปปฏิบัติ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 29. ประกอบ
95. รัฐมีความรับผิดชอบในการให้ข่าวสารข้อมูลและรักษาวัฒนธรรมแห่งชาติ
(1) Free Market System
(2) Public Service System
(3) Mixed System
(4) Public Corporation
ตอบ 2 หน้า 111 – 112 แนวความคิดในการจัดระบบวิทยุและโทรทัศน์แบบ Public Service System (แนวคิดการสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะ) คือ
1. รัฐมีความรับผิดชอบในการให้ข่าวสารข้อมูลและรักษาวัฒนธรรมแห่งชาติ
2. รัฐเป็นผู้จัดระเบียบในด้านที่มาของรายได้ การจัดสรรคลื่น และคุณภาพของรายการ
3. เป็นระบบที่ผูกขาดโดยหน่วยงานของรัฐ หรืออาจจะเป็นการผูกขาดแบบ Duopoly (เล่นพรรคเล่นพวก) โดยมีเอกชนเป็นคู่แข่งเพียง 1 – 2 รายเท่านั้น ดังนั้นรัฐจึงเป็นทั้ง Supplier (ผู้ผลิตรายการ) และเป็น Regulator (ผู้ควบคุมรายการ) ไปพร้อมกัน
96. ระบบนี้มีความเชื่อว่า ถ้าเป็นตลาดที่สมบูรณ์จะมีการแข่งขันกันของผู้ประกอบการ และท้ายที่สุดผู้บริโภคจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด
(1) Free Market System
(2) Public Service System
(3) Mixed System
(4) Public Corporation
ตอบ 1 หน้า 111 – 113 ประเทศสหรัฐอเมริกาถือเป็นแม่แบบของแนวคิด Free Market System (แนวคิดการสื่อสารในตลาดเสรี) คือ ดําเนินการในรูปตลาดเสรีที่ให้ธุรกิจเอกชนแข่งขันกันเอง อย่างเต็มที่ (Competition) โดยมีความเชื่อว่า ถ้าเป็นตลาดที่สมบูรณ์จะมีการแข่งขันกันของ ผู้ประกอบการ และท้ายที่สุดผู้บริโภคจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด
97. เดนิส แมคเควล กล่าวถึงหน้าที่ของสื่อมวลชนจากอะไร
(1) บุคคล สังคม วัฒนธรรม
(2) บุคคล สังคม การศึกษา วัฒนธรรม
(3) บุคคล สังคม เครื่องมือทางการเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม
(4) สังคม ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเผยแพร่ สื่อมวลชน มวลชนผู้รับสาร
ตอบ 4 หน้า 95 เดนิส แมคเควล (Denis McQuail) ได้กล่าวถึงหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยพิจารณา จากฝ่ายต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนว่า มีความต้องการให้สื่อมวลชน ทําอะไรให้แก่ตน หรือสื่อมวลชนควรทําหน้าที่อะไรให้แก่ตนและสังคม ซึ่งฝ่ายต่าง ๆ ได้แก่
1. สังคม (Society)
2. ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเผยแพร่ข่าวสาร (The Advocate)
3. สื่อมวลชนหรือนักสื่อสารมวลชน (The Media/Mass Communicators)
4. มวลชนผู้รับสาร (The Audience)
98. หน้าที่ในการแสดงออก (Expressing) ตามแนวคิดของเดนิส แมคเควล หมายถึง
(1) วิพากษ์วิจารณ์คู่แข่งขององค์กร
(2) พัฒนาสํานึกในการเป็นสมาชิกองค์กร
(3) พยายามจูงใจและเปลี่ยนพฤติกรรมของคน
(4) แสดงหรือสะท้อนประชามติ
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 23. ประกอบ
99. สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสมีรายได้ในการดําเนินกิจการจากข้อใด
(1) ค่าเช่าเวลาจากบริษัทผู้ผลิตรายการ
(2) ค่าเช่าเวลาโฆษณาจากเจ้าของสินค้า
(3) ภาษีสรรพสามิตจากงบประมาณแผ่นดิน
(4) ภาษีค่าธรรมเนียมเครื่องรับโทรทัศน์
ตอบ 3 (คําบรรยาย) พ.ร.บ. องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 ได้กําหนดให้สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (TPBS) หรือทีวีไทย มีรายได้ในการดําเนิน กิจการด้วยการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากงบประมาณแผ่นดินในอัตราร้อยละ 1.5 ของภาษี ที่เก็บจากสุราและยาสูบ โดยให้มีรายได้สูงสุดปีงบประมาณละไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงถือเป็นการจัดเก็บภาษีจากกลุ่มผู้ที่จําหน่ายสุราและยาสูบมาเป็นเงินบํารุงองค์การ ซึ่งเป็นมาตรการใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
100. สถานีโทรทัศน์ระบบดิจิทัลช่องใดที่ขอคืนใบอนุญาตยุติการออกอากาศไปแล้ว
(1) MCOT HD
(2) VOICE TV
(3) PPTV
(4) TNN
ตอบ 2 (ความรู้ทั่วไป) สถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบดิจิทัลที่ยื่นขอคืนใบอนุญาตและยุติการออกอากาศ ช่องทีวีดิจิทัล ตามนโยบายเยียวยาผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล คือ VOICE TV แต่จะทําหน้าที่ เสนอข้อมูลข่าวสารและพัฒนาเนื้อหาที่มีคุณภาพต่อไปในช่องทางอื่น ๆ แทน ได้แก่ ช่องทีวีดาวเทียมและสื่อออนไลน์ โดยจะไม่มีการยุติการดําเนินงานแต่อย่างใด