การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2559
ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 1450 (MCS 1400) การกระจายเสียงและการแพร่ภาพ
คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว
1.ศักยภาพของสื่อใดตรงกับคํากล่าวที่ว่า “Seeing is believing”
(1) วิทยุกระจายเสียง
(2) วิทยุโทรทัศน์
(3) หนังสือพิมพ์
(4) นิตยสาร
ตอบ 2 หน้า 5 ศักยภาพของวิทยุโทรทัศน์ตรงกับคํากล่าวที่ว่า “Seeing is believing” หมายถึง โทรทัศน์ได้สร้างมายาภาพลวงตาให้เราเห็นสิ่งที่สื่อสร้างขึ้นว่าเป็นของจริง ดังนั้นผู้รับสาร จึงต้องอ่านสื่อให้ออกว่าเป็นเทคนิคของการผลิตไม่ใช่ของจริง
2. แนวคิดเกี่ยวกับความสําคัญของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ตรงกับข้อใด
(1) ระดับบุคคล ระดับสังคม
(2) ระดับสังคม ระดับโลกาภิวัตน์
(3) ระดับสังคม ระดับโลก
(4) ระดับบุคคล ระดับสังคม ระดับโลก
ตอบ 4 หน้า 7 แนวคิดเกี่ยวกับความสําคัญของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ สามารถจําแนก ออกได้เป็น 3 ระดับ คือ 1. ระดับบุคคล 2. ระดับสังคมและประเทศ 3. ระดับโลก
3. “รายการวิทยุเพื่อการเกษตร” ตรงกับแนวคิดความสําคัญของวิทยุและโทรทัศน์ในด้านใด
(1) การพัฒนาทางการเมือง
(2) การพัฒนาทางเศรษฐกิจ
(3) การพัฒนาชนบท
(4) การพัฒนาทางการศึกษา
ตอบ 3 หน้า 7, 9 – 12 ความสําคัญของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในระดับสังคมและประเทศ มีอยู่ 4 ประการ ดังนี้
1. การพัฒนาทางการศึกษา คือ การเสนอรายการเพื่อสอนหรือเสริมสร้างความรู้โดยตรง
2. การพัฒนาทางการเมือง คือ การเป็นสื่อกลางในการให้สาระข้อวิพากษ์วิจารณ์ และ
แสดงความคิดเห็นในทางการเมืองได้อย่างทั่วถึงและกว้างขวาง
3. การพัฒนาชนบท เช่น การนําเสนอรายการวิทยุเพื่อการเกษตร เพื่อการศึกษา เพื่อสุขภาพ อนามัย และเพื่องานอาชีพที่สําคัญ ๆ
4. การพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม คือ การเสนอความคืบหน้าและความเปลี่ยนแปลง ทางเศรษฐกิจและสังคม
4 สภาพสังคมในยุโรปช่วงปลายศตวรรษที่ 19 มีการเปลี่ยนแปลงที่สําคัญหลายประการที่นําไปสู่การพัฒนา ระบบการสื่อสารมวลชนประเภทใด
(1) วิทยุโทรเลข
(2) วิทยุโทรศัพท์
(3) วิทยุกระจายเสียง
(4) วิทยุโทรทัศน์
ตอบ 3 หน้า 16 สภาพสังคมในยุโรปช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ได้เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการปฏิวัติ อุตสาหกรรมและการขยายตัวทางการค้า ทําให้ประเทศต่าง ๆ ในทวีปยุโรปมีความจําเป็นต้อง แสวงหาอาณานิคม ส่งผลให้เกิดการค้นคว้าทดลองทางด้านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือคลื่นวิทยุ เพื่อเป็นพาหะส่งข่าวสารไปได้เป็นระยะทางไกล ๆ โดยไม่ต้องใช้สาย (Wireless) จนนําไปสู่ การพัฒนาวิทยุกระจายเสียงในเวลาต่อมา
5 สื่อใดที่ทําให้จุดมุ่งหมายของการค้นคว้าเพื่อการศึกษากลายเป็นการค้นคว้าเพื่อการธุรกิจ
(1) โทรเลข
(2) โทรศัพท์
(3) วิทยุกระจายเสียง
(4) วิทยุโทรทัศน์
ตอบ 4 หน้า 25 การค้นคว้าการส่งวิทยุโทรทัศน์ทํากันอย่างกว้างขวางทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทําให้จุดมุ่งหมายของการค้นคว้าเพื่อการศึกษากลายเป็นการค้นคว้าเพื่อการธุรกิจ โดยมี บริษัทธุรกิจทางด้านวิทยุโทรทัศน์เกิดขึ้นตามมาหลายแห่งเพื่อแข่งขันค้นคว้าต่อไป
6. ระบบการเป็นเจ้าของกิจการวิทยุและโทรทัศน์ไทย หมายถึงข้อใด
(1) รัฐเป็นเจ้าของทั้งหมด
(2) เอกชนเป็นเจ้าของทั้งหมด
(3) เป็นของรัฐและเอกชน
(4) เป็นของรัฐและภาคประชาชน
ตอบ 3, 4 หน้า 136, (คําบรรยาย) ระบบการเป็นเจ้าของกิจการวิทยุและโทรทัศน์ไทยในอดีต เป็นกิจการผูกขาดโดยรัฐหรือรัฐเป็นเจ้าของทั้งหมด แต่ในปัจจุบันเมื่อมีการปฏิรูปสื่อ เพื่อให้เป็นสื่อสาธารณะอย่างแท้จริงตามรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2550 จึงทําให้ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนสามารถเป็นเจ้าของกิจการวิทยุและโทรทัศน์ไทยได้
7. เหตุการณ์ข้อใดเหมาะกับการถ่ายทอดผ่านทางวิทยุกระจายเสียงมากที่สุด
(1) การบรรยายวิชาเคมี
(2) การสอนทําอาหารไทย
(3) การสอนซ่อมคอมพิวเตอร์
(4) การอภิปรายในรัฐสภา
ตอบ 4 (คําบรรยาย) วิทยุกระจายเสียงจะให้ประสิทธิผลในการจูงใจและเปลี่ยนทัศนคติได้ดีที่สุด
นอกจากนี้ยังถือเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในแง่ของการสร้างความคิดคํานึงหรือจินตนาการ เมื่อใช้ถ่ายทอดหรือเสนอเนื้อหาสาระที่เป็นนามธรรม คือ
1. ข้อเท็จจริง (Factual Information) เช่น ข่าวต่าง ๆ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร การอภิปรายในรัฐสภา ฯลฯ
2. แนวปฏิบัติต่าง ๆ (Procedures) เช่น อุดมการณ์หรือแนวคิด การเล่านิทานหรือละคร ฯลฯ
3. ทัศนคติที่พึงประสงค์ (Desirable Attitudes) เช่น การบรรยายธรรม ฯลฯ
4. การจูงใจให้คิดหรือทํา (Motivation) เช่น การโฆษณาชวนเชื่อ ฯลฯ
8. ผลดีในการทําหน้าที่ของสื่อมวลชนต่อการให้ศักดิ์ศรีแก่บุคคล ตรงกับบทบาทหน้าที่ข้อใด
(1) หน้าที่ในการให้ข่าวสาร
(2) หน้าที่ในการให้ความคิดเห็น
(3) หน้าที่ในการให้การศึกษา
(4) หน้าที่ในการให้ความบันเทิง
ตอบ 1 หน้า 88 – 91 หน้าที่ในการให้ข่าวสารของฮาร์โรลด์ ดี. ลาสเวลล์ (Harold D. Lasswell) ส่งผลดีต่อบุคคล ดังนี้
1. ช่วยเตือนภัยและเป็นเครื่องมือในการทํางานของบุคคล
2. เป็นเครื่องมือในการดําเนินชีวิตประจําวัน
3. มีหน้าที่ในการให้ศักดิ์ศรีแก่บุคคล
4. มีหน้าที่ในการให้สถานภาพทางสังคม
5. เป็นการควบคุมศีลธรรมจรรยาของบุคคล
9 หน้าที่ในการระดมความร่วมมือตามแนวคิดของเดนิส แมคเควล หมายถึงข้อใด
(1) การมีกิริยาสัมพันธ์ทางสังคม
(2) การรณรงค์เพื่อเป้าหมายของสังคม
(3) การสร้างภาพพจน์ และดึงดูดความสนใจ
(4) การให้แบบอย่างของบุคคลที่มีคุณค่า
ตอบ 2 หน้า 95 – 96 เดนิส แมคเควล (Denis McQuail) ได้กล่าวถึงหน้าที่ของสื่อมวลชนตาม แนวความคิดของสังคมประการหนึ่ง คือ หน้าที่ในการระดมความร่วมมือ (Mobilization) ได้แก่ สื่อมวลชนช่วยในการรณรงค์เพื่อเป้าหมายของสังคมในด้านการเมือง สงคราม การพัฒนาเศรษฐกิจ การทํางาน และศาสนา
10. หน้าที่ในการแสดงออก (Expressing) ตามแนวคิดของเดนิส แมคเควล หมายถึงข้อใด
(1) วิพากษ์วิจารณ์คู่แข่งขององค์กร
(2) พัฒนาสํานึกในการเป็นสมาชิกองค์กร
(3) พยายามจูงใจและเปลี่ยนพฤติกรรมของคน
(4) แสดงหรือสะท้อนประชามติ
ตอบ 2 หน้า 95 – 97 เดนิส แมคเควล (Denis McQuail) ได้กล่าวถึงหน้าที่ของสื่อมวลชนตาม แนวความคิดของผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเผยแพร่ประการหนึ่ง คือ หน้าที่ในการแสดงออก
(Expression) ได้แก่
1. ให้การสนับสนุนความเชื่อ ค่านิยม อุดมการณ์ และหลักการขององค์กร
2. ช่วยพัฒนาสํานึกในการเป็นสมาชิกขององค์กร เช่น พรรคการเมือง ชนชั้นและกลุ่ม
11. สถานีโทรทัศน์ระบบดิจิทัลที่ออกอากาศปัจจุบัน ช่องใดเป็นสถานีข่าวสาร
(1) ช่อง NBT, ช่อง MCOT
(2) ช่อง 3 HD, ช่อง Nation
(3) ช่อง Voice TV, ช่องไทยรัฐทีวี
(4) ช่อง PPTV, ช่องอัมรินทร์ทีวี
ตอบ 3 (ความรู้ทั่วไป) สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยระบบดิจิทัล (ดิจิตอล) ที่เป็นช่องข่าวสารและสาระ ซึ่งออกอากาศปัจจุบัน ได้แก่ ช่อง TNN 24, Spring News, New TV, Voice TV, ไทยรัฐทีวี, Bright TV, Nation TV เป็นต้น
12. สถานีโทรทัศน์ระบบดิจิทัลที่ออกอากาศปัจจุบัน ช่องใดเป็นสถานีรายการเพื่อเด็กและครอบครัว
(1) ช่อง 13
(2) ช่องโลก้า
(3) ช่อง MCOT
(4) ช่องไทยพีบีเอส
ตอบ 4 (ความรู้ทั่วไป) สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยระบบดิจิทัล (ดิจิตอล) ที่เป็นช่องหมวดสาธารณะ ซึ่งออกอากาศปัจจุบัน ได้แก่ ช่อง CH5 (HD), NBT (HD), Thai PBS (HD), Thai PBS ช่องเด็ก และครอบครัว (HD) ซึ่งเริ่มออกอากาศใน พ.ศ. 2558 เป็นต้น
13. ปัจจัยเสริมที่ทําให้สื่อมวลชนมีอิทธิพลทางอ้อม หมายถึงข้อใด
(1) การสามารถเข้าถึงประชาชนจํานวนมาก
(2) การนําเสนอเรื่องราว กิจกรรมซ้ํา ๆ บ่อย ๆ
(3) ความมีใจโน้มเอียงของผู้รับสาร
(4) ระดับความต้องการข้อมูลข่าวสารจําเป็นต้องพึ่งพามาก
ตอบ 3 หน้า 106 – 107 แนวคิดที่เชื่อว่าวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์มีอิทธิพลต่อผู้รับสา ทางอ้อม โดยอาศัยปัจจัยเสริมต่าง ๆ ได้แก่
1. ความมีใจโน้มเอียงของผู้รับสาร
2. กระบวนการเลือกรับสาร
3. อิทธิพลของบุคคล และผู้นําความคิดเห็น
4. ระดับความต้องการข้อมูลข่าวสาร ซึ่งหากบุคคลจําเป็นต้องพึ่งพาสื่อมากก็เท่ากับสื่อมีอิทธิพล แต่ถ้าบุคคลพึ่งพาสื่อน้อยหรือไม่ต้องพึ่งพาเลย สื่อย่อมไม่มีอิทธิพลใด ๆ ต่อบุคคล
ข้อ 14. – 20. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) การควบคุมกันเอง
(2) การควบคุมโดยรัฐ
(3) การควบคุมจากบุคคลภายนอก
(4) การควบคุมจากสังคม
14. การจัดระดับความนิยมของรายการ (Rating)
ตอบ 3 หน้า 125 – 127 โครงสร้างการควบคุมกิจการวิทยุและโทรทัศน์ไทย แบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย คือ
1. การควบคุมโดยรัฐ คือ การจัดตั้งสถาบันขึ้นมาควบคุม เช่น กสทช., การออกกฎหมายที่ บังคับใช้โดยตรง, การออกกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อบังคับและ หลักเกณฑ์ที่ออกมาในรูปของหนังสือเวียนและคําสั่งอื่น ๆ ฯลฯ
2. การควบคุมกันเอง ได้แก่ การมีจริยธรรมและจรรยาบรรณของวิชาชีพสื่อสารมวลชน, การจัดตั้งสมาคมวิชาชีพต่าง ๆ เช่น สมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ฯลฯ
3. การควบคุมจากบุคคลภายนอก ได้แก่ ผู้ชม ผู้ฟัง, ผู้อุปถัมภ์รายการ ซึ่งเป็นผู้กําหนดในการ ซื้อเวลาโฆษณา โดยอาศัยการจัดระดับความนิยมของรายการ (Rating) จากบริษัทวิจัย, กลุ่มผลักดันทางสังคม ได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนารายการให้ดีและมีประโยชน์ต่อสาธารณชน เช่น โครงการสื่อเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน ของมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก ฯลฯ
15. จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 14. ประกอบ
16. โครงการสื่อเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 14. ประกอบ
17. ผู้อุปถัมภ์รายการ
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 14. ประกอบ
18. กฎหมายและระเบียบต่าง ๆ
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 14. ประกอบ
19. กลุ่มผลักดันทางสังคม
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 14. ประกอบ
20. สมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 14. ประกอบ
21. การพัฒนาของเทคโนโลยีสื่อสารมวลชนที่กล่าวได้ว่าเป็นยุคคอมพิวนิเคชั่น (Compunication) หมายถึงข้อใด
(1) เคเบิลทีวี
(2) โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม
(3) วีดีโอออนดีมานด์
(4) วิดีโอเทปและเทปคลาสเซ็ท
ตอบ 3 หน้า 28 การพัฒนาของเทคโนโลยีสื่อสารมวลชนในศตวรรษที่ 20 ซึ่งกําลังก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 อาจแบ่งเป็น 3 ยุคใหญ่ ๆ ดังนี้
1. ยุคอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ สื่อวิทยุและโทรทัศน์ เทปคลาสเซ็ท และวิดีโอเทป
2. ยุคคอมพิวเตอร์ ได้แก่ สื่อวิทยุและโทรทัศน์ที่อาศัยเครื่องมือคอมพิวเตอร์ เคเบิลทีวี และโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ซึ่งเป็นสื่อทางเดียวเป็นส่วนใหญ่
3. ยุคคอมพิวนิเคชั่น (Compunication) คือ สื่อที่ปรับปรุงขึ้นในยุคที่ 1 และ 2 โดยเพิ่ม มิติการสื่อสารสองทางเข้ามา ได้แก่ วิดีโอออนดีมานด์
22. ความสําคัญของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในระดับสังคม ตรงกับข้อใด
(1) การเสริมสร้างสติปัญญาให้แก่มนุษย์
(2) สื่อกลางในการให้สาระข้อวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมือง
(3) เสนอความคืบหน้าและความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
(4) เป็นเครื่องมือที่สําคัญต่อการสื่อสารของโลก
ตอบ 2, 3 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ
23. พัฒนาการของการคิดค้นวิธีการติดต่อสื่อสารไปสู่วิทยุกระจายเสียง ตรงกับข้อใด
(1) โทรเลข โทรศัพท์ วิทยุโทรศัพท์ วิทยุโทรเลข
(2) โทรศัพท์ โทรเลข วิทยุโทรเลข วิทยุโทรศัพท์
(3) โทรเลข โทรศัพท์ วิทยุโทรเลข วิทยุโทรศัพท์
(4) โทรศัพท์ โทรเลข วิทยุโทรศัพท์ วิทยุโทรเลข
ตอบ 3 หน้า 16 นักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นและพัฒนาวิธีการติดต่อสื่อสารแบบใหม่ที่เหมาะสมและ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่โทรเลข โทรศัพท์ วิทยุโทรเลข วิทยุโทรศัพท์ ไปจนถึงวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในปัจจุบัน
24. นักวิทยาศาสตร์ที่สามารถส่งเสียงพูดไปกับคลื่นวิทยุได้สําเร็จ คือ
(1) เจมส์ คลาก แมกซ์เวลล์
(2) กูกลิเอลโม มาร์โคนี
(3) เฮนรี่ ซี. ดันวูดดี
(4) เรจินัลด์ เอ. เฟสเสนเดน
ตอบ 4 หน้า 18 เรจินัลด์ เอ. เฟสเสนเดน (Reginald A. Fessenden) เป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ที่ประสบความสําเร็จในการทดลองส่งเสียงพูดไปกับคลื่นวิทยุในคืนวันคริสต์มาสปี พ.ศ. 2449 โดยเขาได้กล่าวอวยพรคริสต์มาสไปที่เรือซึ่งแล่นอยู่บริเวณฝั่งบรานท์ร็อค รัฐแมสซาชูเซตส์
25. การพัฒนาเครื่องรับวิทยุกระจายเสียงที่ทําให้กิจการวิทยุกระจายเสียงแพร่หลายและก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วตรงกับข้อใด
(1) เครื่องรับวิทยุแบบเครื่องแร่
(2) เครื่องรับวิทยุใช้หลอดสุญญากาศ
(3) เครื่องรับวิทยุทรานซิสเตอร์
(4) เครื่องรับวิทยุเฮเทอโรดายน์
ตอบ 3 หน้า 19 ในปี พ.ศ. 2490 นักวิทยาศาสตร์ของห้องทดลองเบล (Bell-taboratories) ได้ประสบผลสําเร็จในการทดลองประดิษฐ์เครื่องรับวิทยุทรานซิสเตอร์ขึ้นใช้แทนเครื่องรับวิทยุ
ชนิดใช้หลอดสุญญากาศ ทําให้เครื่องรับวิทยุมีขนาดเล็กลงและใช้แบตเตอรี่แทนไฟฟ้ากระแสสลับ ที่ใช้ตามบ้านเรือน จึงสามารถพกพาไปได้ทุกหนทุกแห่ง และนับตั้งแต่นั้นกิจการวิทยุกระจายเสียง ในสหรัฐฯ และยุโรปจึงได้พัฒนาจนแพร่หลายและก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
26. ข้อใดหมายถึงสื่อใหม่ในศตวรรษที่ 20
(1) สื่อสิ่งพิมพ์
(2) สื่อวิทยุกระจายเสียง
(3) สื่อวิทยุโทรทัศน์
(4) ข้อ 2 และ 3
ตอบ 4 หน้า 21, 26 – 27 ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 สื่อวิทยุกระจายเสียงและสื่อวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งเป็นสื่อใหม่ในศตวรรษที่ 20 กําลังเปลี่ยนฐานะเป็นเทคโนโลยีสื่อสารมวลชนรุ่นกลาง เมื่อมีการประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกหลายประเภท เช่น สื่อมัลติมีเดียที่อาศัย การทํางานของคอมพิวเตอร์และสายโทรศัพท์ในการนําสัญญาณ (ตัวอักษร ภาพ และเสียง)
มาที่เครื่องรับ รวมทั้งดาวเทียมสื่อสารที่เป็นการส่งสัญญาณข้ามทวีปหรือข้ามภูมิภาค
27. สื่อใดที่มีบทบาทอย่างมากในการโฆษณาชวนเชื่อระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2
(1) หนังสือพิมพ์
(2) นิตยสาร
(3) วิทยุกระจายเสียง
(4) วิทยุโทรทัศน์
ตอบ 3 หน้า 21 วิทยุกระจายเสียงนับเป็นสื่อที่มีบทบาทอย่างมากในการโฆษณาชวนเชื่อระหว่าง สงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เพราะได้กลายเป็นเวทีการยุทธ์สําหรับมหาชนที่ไม่ได้อยู่ใน สนามรบ ซึ่งการระดมมติของกองหลังเช่นนี้มีนัยในการสร้างลัทธิชาตินิยมที่ผูกติดกับสื่อวิทยุ ต่อมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้วิทยุยังเป็นสื่อของวัฒนธรรมโดยเฉพาะด้านดนตรีและเสียงเพลง
28. ระบบการสื่อสารใดที่เจริญเติบโตและขยายตัวได้อย่างรวดเร็วที่สุดของมนุษยชาติ
(1) การพิมพ์
(2) โทรศัพท์
(3) วิทยุและโทรทัศน์
(4) เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ตอบ 4 หน้า 27 เครือข่ายอินเทอร์เน็ต นับเป็นระบบการสื่อสารข่าวสารข้อมูลที่เจริญเติบโตและ ขยายตัวได้อย่างรวดเร็วที่สุดของมนุษยชาติ ทําให้ระบบอินเทอร์เน็ตเป็นเสมือนต้นแบบของ ระบบทางด่วนสารสนเทศ (Information Superhighway) และเป็นที่คาดหมายว่าเครือข่าย อินเทอร์เน็ตจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่สําคัญในยุคปี 2000
29. การอนุญาตให้ประชาชนมีเครื่องรับวิทยุกระจายเสียงได้มาจากกฎหมายฉบับใด
(1) พ.ร.บ. วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2498
(2) พ.ร.บ. วิทยุโทรเลข พ.ศ. 2473
(3) พ.ร.บ. การกระจายเสียงและการแพร่ภาพ พ.ศ. 2475
(4) พ.ร.บ. กิจการวิทยุและโทรทัศน์ พ.ศ. 2480
ตอบ 2 หน้า 34 – 35 ในสมัยรัชกาลที่ 7 รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ. วิทยุโทรเลข พ.ศ. 2473 ซึ่งมีหลักการสําคัญ คือ อนุญาตให้ประชาชนมีเครื่องรับวิทยุกระจายเสียงได้ เพราะแต่เดิมนั้น รัฐบาลไม่อนุญาตให้ประชาชนมีเครื่องรับวิทยุไว้ในครอบครอง
30. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเปลี่ยนชื่อมาจากสถานีใด
(1) สถานีวิทยุกรุงเทพที่ศาลาแดง 7 พี่เจ
(2) สถานีวิทยุกรุงเทพที่วังพญาไท
(3) สถานีวิทยุ 1 ปณ.
(4) สถานีวิทยุบูรฉัตรไชยากร
ตอบ 1 หน้า 36 หลังจากเปลี่ยนการปกครองเมื่อปี พ.ศ. 2475 สถานีวิทยุกรุงเทพฯ ที่พญาไท ได้ย้ายไปอยู่รวมกับสถานีวิทยุที่ศาลาแดง และส่งกระจายเสียงโดยใช้ชื่อสถานีใหม่ว่า “สถานีวิทยุกรุงเทพที่ศาลาแดง 7 พี่เจ” ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2479 ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อ เป็น “สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย” ปัจจุบันอยู่ในสังกัดของกรมประชาสัมพันธ์
31. สํานักงานโฆษณาการ เป็นชื่อเดิมของหน่วยงานใด
(1) กรมไปรษณีย์โทรเลข
(2) กรมประชาสัมพันธ์
(3) กรมสารนิเทศ
(4) กรมการค้าภายใน
ตอบ 2 หน้า 36, (คําบรรยาย) กรมประชาสัมพันธ์มีชื่อเดิมว่า “กรมโฆษณาการ” โดยในปี พ.ศ. 2476 รัฐบาลได้จัดตั้ง “สํานักงานโฆษณาการ” ขึ้น และต่อมาก็ได้ยกฐานะขึ้นเป็นกรม ใช้ชื่อว่า “กรมโฆษณาการ” ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็น “กรมประชาสัมพันธ์” ดังเช่นในปัจจุบัน
32. หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สื่อมวลชนที่มีบทบาทอย่างมากในทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นส่วนหนึ่ง ในการสื่อสาระของระบบทุนนิยมที่มีประสิทธิภาพ หมายถึง
(1) หนังสือพิมพ์
(2) วิทยุกระจายเสียง
(3) วิทยุโทรทัศน์
(4) ภาพยนตร์
ตอบ 3 หน้า 26 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 วิทยุโทรทัศน์เป็นสื่อมวลชนที่มีบทบาทอย่างมากในทาง เศรษฐกิจและสังคม โดยการใช้สื่อโทรทัศน์ในระยะนั้นประกอบด้วยรายการบันเทิง เช่น ละคร ภาพยนตร์ ดนตรี การแข่งขันตอบปัญหาชิงรางวัลหรือเกมโชว์ และรายการโฆษณาอันเป็นรากฐาน ของลัทธิบริโภคนิยมสมัยใหม่ ดังนั้นวิทยุโทรทัศน์จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งในการสื่อสาระของระบบ ทุนนิยม เพื่อช่วยส่งเสริมให้กระบวนการกระจายและบริโภคสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
33. การขยายงานวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ออกไปสู่ภูมิภาค เกิดขึ้นในรัฐบาลใด
(1) จอมพล ป. พิบูลสงคราม
(2) จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
(3) จอมพลถนอม กิติขจร
(4) จอมพลประภาส จารุเสถียร
ตอบ 2 หน้า 37 ในปี พ.ศ. 2502 คณะรัฐบาลที่มีจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้ให้กรมประชาสัมพันธ์ขยายงานวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ออกไปสู่ภูมิภาคโดยมีการจัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์เขตขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น ลําปาง สงขลา และสุราษฎร์ธานี เพื่อกํากับดูแลงานวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในส่วนภูมิภาค
34. สื่อมวลชนที่เป็นรากฐานของลัทธิบริโภคนิยมสมัยใหม่ หมายถึง
(1) หนังสือพิมพ์
(2) ภาพยนตร์
(3) วิทยุกระจายเสียง
(4) วิทยุโทรทัศน์
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 32. ประกอบ
ข้อ 35 – 37. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) คลื่นตรง
(2) คลื่นพื้นดิน
(3) คลื่นฟ้า
(4) คลื่นพาห์
35. การส่งวิทยุกระจายเสียงระบบเอฟเอ็ม
ตอบ 1 หน้า 67 – 69 การแพร่คลื่นทางวิทยุกระจายเสียง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. การแพร่คลื่นตรง ใช้กับการส่งวิทยุกระจายเสียงระบบเอฟเอ็ม (FM) ซึ่งส่งในแถบความถี่สูงมาก (VHF) ทําให้การเดินทางของคลื่นจะไปไม่ได้ไกล
2. การแพร่คลื่นพื้นดิน ใช้กับการส่งวิทยุกระจายเสียงระบบเอเอ็ม (AM) คลื่นปานกลาง ซึ่งส่งในแถบความถี่ปานกลาง (MF) บางส่วน คือ ระหว่างความถี่ 550 – 1,600 kHz
3. การแพร่คลื่นฟ้า ใช้กับการส่งวิทยุกระจายเสียงระบบเอเอ็ม (AM) คลื่นสั้น ซึ่งจะครอบคลุม พื้นที่ในการส่งได้เป็นระยะทางไกลกว่าการส่งวิทยุกระจายเสียงอื่น
36. การส่งวิทยุกระจายเสียงระบบเอเอ็ม คลื่นปานกลาง
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 35. ประกอบ
37. การส่งวิทยุกระจายเสียงระบบเอเอ็ม คลื่นสั้น
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 35. ประกอบ
38. การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนว่าก่อให้เกิดทั้งผลดีและผลเสีย ก่อให้เกิดผลทั้งต่อสังคม บุคคล และกลุ่มเป็นแนวคิดของใคร
(1) ฮาร์โรลด์ ดี. ลาสเวลล์
(2) ชาร์ลส์ อาร์, ไรท์
(3) เดนิส แมคเควส
(4) เบอร์นาด เบเรลสัน
ตอบ 2 หน้า 88 – 89 ชาร์ลส์ อาร์. ไรท์ (Charles R. Wright) ได้อธิบายถึงการปฏิบัติหน้าที่ของ สื่อมวลชนว่าก่อให้เกิดทั้งผลดีและผลเสีย ก่อให้เกิดผลทั้งต่อสังคม บุคคล และกลุ่ม
39. ผลเสียของสื่อมวลชน “การทําให้ประชาชนมึนเมา” (Narcotization) ข้อใดไม่ถูก
(1) บุคคลเกิดความเฉยเมย เฉื่อยชา ไม่สนใจในการควบคุมสิ่งแวดล้อม
(2) บุคคลอาจจะใช้เวลามากในการดูดซับข่าวจนกระทั่งตนเองทํางานเพียงเล็กน้อย
(3) บุคคลอาจมีความเชื่อว่าการเป็นคนที่รู้ข่าวสาร คือ การเป็นคนที่กระตือรือร้น
(4) บุคคลอาจเกิดความสันโดษ สนใจเรื่องส่วนตัวของตนมากกว่าสนใจเรื่องของส่วนรวม
ตอบ 4 หน้า 88 – 89, 91 หน้าที่ในการให้ข่าวสารของฮาร์โรลด์ ดี. ลาสเวลล์ (Harold D. Lasswell) ส่งผลเสียต่อบุคคลประการหนึ่ง ได้แก่ การเข้าถึงข่าวสารจากสื่อมวลชนอาจทําให้บุคคลนั้น เกิดความเฉยเมย เฉื่อยชา ไม่สนใจในการควบคุมสิ่งแวดล้อม กล่าวคือ บุคคลอาจจะใช้เวลามาก ในการดูดซับข่าวจนกระทั่งตนเองทํางานเพียงเล็กน้อย และอาจมีความเชื่อว่าการเป็นคนที่รู้ ข่าวสาร คือ การเป็นคนที่กระตือรือร้น ซึ่งพอล เอฟ. ลาซาร์สเฟลด์ (Paul F. Lazarsfeld) และโรเบิร์ต เค. เมอร์ตัน (Robert K. Merton) เรียกผลเสียของสื่อมวลชนในด้านนี้ว่า “การทําให้ประชาชนมึนเมา” (Narcotization)
40. หน้าที่ในการให้สถานภาพทางสังคม ตรงกับข้อใด
(1) หน้าที่ในการให้ข่าวสาร
(2) หน้าที่ในการแสดงความคิดเห็น
(3) หน้าที่ในการให้การศึกษา
(4) หน้าที่ในการให้ความบันเทิง
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 8. ประกอบ
41. ผลเสียของหน้าที่ในการสื่อสารที่ทําให้นักกีฬากลายเป็นนักโฆษณาและนักขายสินค้า ตรงกับข้อใด
(1) หน้าที่ในการให้ข่าวสาร
(2) หน้าที่ในการแสดงความคิดเห็น
(3) หน้าที่ในการให้การศึกษา
(4) หน้าที่ในการให้ความบันเทิง
ตอบ 4 หน้า 88, 94 – 95 หน้าที่ในการให้ความบันเทิงของชาร์ลส์ อาร์. ไรท์ (Charles R. Wright) ส่งผลเสียดังนี้
1. ไม่สามารถที่จะยกระดับรสนิยมของประชาชนได้เท่าละครเวทีและ วรรณกรรมคลาสสิก
2. ทําให้คุณภาพของศิลปะสูญเสียไป
3. ทําให้นักกีฬากลายเป็น นักโฆษณาและนักขายสินค้า
4. เป็นการทําลายนักกีฬาหน้าใหม่ในวงการกีฬา
42. ผลเสียของหน้าที่ในการสื่อสารที่ลดบทบาทความเป็นส่วนตัวของบุคคลในกระบวนการเรียนรู้สังคม ตรงกับข้อใด
(1) หน้าที่ในการให้ข่าวสาร
(2) หน้าที่ในการแสดงความคิดเห็น
(3) หน้าที่ในการให้การศึกษา
(4) หน้าที่ในการให้ความบันเทิง
ตอบ 3 หน้า 88 – 89, 93 – 94 หน้าที่ในการให้การศึกษาของฮาร์โรลด์ ดี. ลาสเวลล์ (Harold D. Lasswell) ส่งผลเสีย คือ สื่อมวลชนลดบทบาทความเป็นส่วนตัวของบุคคลในกระบวนการ เรียนรู้ทางสังคม (Depersonalize the Process of Socialization)
43. การสนับสนุนความเชื่อ ค่านิยม อุดมการณ์ หลักการขององค์กร ตามความคิดของผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับ การเผยแพร่ ตรงกับหน้าที่ข้อใด
(1) หน้าที่ในการให้ข่าวสาร
(2) หน้าที่ในการตีความ
(3) หน้าที่ในการแสดงออก
(4) หน้าที่ในการระดมความร่วมมือ
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 10. ประกอบ
44. แนวคิดการจัดระบบวิทยุและโทรทัศน์ที่เป็นการสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะ หมายถึงข้อใด
(1) ระบบที่รัฐเป็นผู้ให้บริการ
(2) ระบบที่ธุรกิจเอกชนเป็นผู้ให้บริการ
(3) ระบบที่รัฐวิสาหกิจเป็นผู้ให้บริการ
(4) ระบบที่รัฐและธุรกิจเอกชนเป็นผู้ให้บริการ
ตอบ 1 หน้า 111 แนวคิดการสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะ (Public Service System) หรือระบบที่ รัฐเป็นผู้ให้บริการ ประกอบด้วย มิติทางการเมืองและเศรษฐกิจควบคู่กัน โดยมีพื้นฐานมาจาก สังคมประชาธิปไตยที่เน้นความเชื่อสังคมนิยมในการที่รัฐจะเข้ามาจัดระบบบริการสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น การคมนาคม ไฟฟ้า ประปา ตลอดจนระบบการสื่อสารโทรคมนาคม
45. แนวคิดการสื่อสารในตลาดเสรี ประกอบด้วย มิติการเมืองและเศรษฐกิจแบบใด
(1) สังคมประชาธิปไตยที่เน้นระบบเศรษฐกิจสังคมนิยม
(2) สังคมประชาธิปไตยที่เน้นระบบเศรษฐกิจเสรีนิยม
(3) สังคมอํานาจนิยมที่เน้นระบบเศรษฐกิจทุนนิยม
(4) สังคมเผด็จการที่เน้นระบบเศรษฐกิจสังคมนิยม
ตอบ 2 หน้า 111 แนวคิดการสื่อสารในตลาดเสรี (Free Market System) หรือระบบที่ธุรกิจเอกชน เป็นผู้ให้บริการ ประกอบด้วย มิติทางการเมืองและเศรษฐกิจควบคู่กัน โดยมีพื้นฐานมาจาก สังคมประชาธิปไตยที่เน้นระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม
46. ดาวเทียมในระดับโลก หมายถึง
(1) Domsat
(2) Eutelsat
(3) Intersputnik
(4) Palapa
ตอบ 3 หน้า 80 ดาวเทียมในระดับโลก (Global Satellite) ที่อยู่ในวงโคจรโลกขณะนี้มีอยู่ 2 ดวง ได้แก่
1. ดาวเทียม Intelsat (International Telecommunication Satellite)
2. ดาวเทียม Intersputnik
47. เทคโนโลยีในการแพร่ภาพวิทยุโทรทัศน์ที่เป็นสถานีที่ออกอากาศทางคลื่นภาคพื้นดิน ได้แก่
(1) สถานีที่ออกอากาศทางอินเทอร์เน็ต
(2) สถานีที่ออกอากาศทางดาวเทียม
(3) สถานีที่ออกอากาศทางสายเคเบิล
(4) สถานีที่ออกอากาศในระบบ VHF และ UHF
ตอบ 4 หน้า 82 เทคโนโลยีในการแพร่ภาพสถานีวิทยุโทรทัศน์ในโลกปัจจุบันนี้ มีดังนี้
1. สถานีที่ออกอากาศทางคลื่นภาคพื้นดิน (Terrestrial Television หรือ Over-the air) ได้แก่ สถานีที่ออกอากาศในระบบ VHF และระบบ UHF
2. สถานีที่ออกอากาศทางสายเคเบิล (Cable Television)
3. สถานีที่ออกอากาศทางดาวเทียม ได้แก่ สถานีที่ใช้ดาวเทียมเชื่อมสัญญาณ หรือสถานีที่ ออกอากาศด้วยสัญญาณดาวเทียม (Direct Broadcast Satellite : DBS)
4. สถานีที่ออกอากาศทางอินเทอร์เน็ต (Web Television)
48. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งแรกของไทย คือ
(1) สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
(2) สถานีวิทยุกรุงเทพฯ ที่ศาลาแดง
(3) สถานีวิทยุกรุงเทพฯ ที่พญาไท
(4) สถานีวิทยุองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย
ตอบ 3 หน้า 34 – 35, (คําบรรยาย) สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งแรกของประเทศไทยที่จัดตั้งขึ้นมา มีชื่อเรียกว่า “สถานีวิทยุกรุงเทพฯ ที่พญาไท” ซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดของกรมไปรษณีย์โทรเลข โดยทางราชการได้ทําพิธีเปิดสถานีอย่างเป็นทางการและถ่ายทอดเสียงทางวิทยุเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2473 (ตรงกับวันพระราชพิธีฉัตรมงคลในรัชกาลที่ 7) ซึ่งถือเป็น จุดกําเนิดของกิจการวิทยุกระจายเสียงไทย
49. ราดิโอ โทรเลข เป็นคําเรียกชื่อสื่อใด
(1) วิทยุโทรเลข
(2) วิทยุโทรทัศน์
(3) วิทยุกระจายเสียง
(4) วิทยุแบบแร่
ตอบ 3 หน้า 2 แต่เดิมเราไม่มีคําเรียกวิทยุกระจายเสียงเป็นภาษาไทย แต่จะใช้ทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า “ราดิโอ โทรเลข” (Radio Telegraph) ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) จึงทรงบัญญัติคําว่า “วิทยุ” ในภาษาไทยมาใช้เป็นครั้งแรก และภายหลัง ราชบัณฑิตยสถานจึงให้ใช้คําเต็ม ๆ อย่างเป็นทางการว่า “วิทยุกระจายเสียง”
50.Wireless หมายถึงข้อใด
(1) โทรศัพท์
(2) โทรเลข
(3) วิทยุ
(4) โทรทัศน์
ตอบ 3 หน้า 2 คําว่า “วิทยุกระจายเสียง” มักเรียกกันสั้น ๆ ว่า “วิทยุ” ในขณะที่ชาวอังกฤษนิยม ใช้คําดั้งเดิมว่า Wireless (ไม่มีสาย) ส่วนชาวอเมริกันนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า Radio
51. Broadcasting หมายถึงข้อใด
(1) การแพร่ภาพ
(2) การกระจายเสียง
(3) การออกอากาศรายการวิทยุและรายการโทรทัศน์ไปสู่สาธารณชน
(4) การแสดงทางวิทยุและโทรทัศน์เพื่อสาธารณชน
ตอบ 3 หน้า 1 คําว่า “Broadcasting” ในภาษาอังกฤษ หมายถึง การกระจายเสียงและการแพร่ภาพ ในขณะที่สารานุกรมบริแทนนิกาได้ให้ความหมายไว้ว่า “Broadcasting” คือ การออกอากาศ รายการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ไปสู่ผู้รับซึ่งเป็นสาธารณชนทั่วไป
52. จุดกําเนิดของกิจการวิทยุกระจายเสียงไทยเกิดขึ้นเมื่อใด
(1) 25 กุมภาพันธ์ 2473
(2) 10 ธันวาคม 2475
(3) 24 มิถุนายน 2498
(4) 20 สิงหาคม 2500
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 48. ประกอบ
53. จุดกําเนิดของกิจการวิทยุโทรทัศน์ไทยเกิดขึ้นเมื่อใด
(1) 10 ธันวาคม 2475
(2) 24 มิถุนายน 2498
(3) 25 กุมภาพันธ์ 2473
(4) 20 สิงหาคม 2500
ตอบ 2 หน้า 42, 44 – 45 สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งแรกของประเทศไทย คือ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทย ทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม ซึ่งก่อตั้งอยู่ในรูปของบริษัท ไทยโทรทัศน์ จํากัด (ปัจจุบันคือ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 หรือโมเดิร์นไนน์ทีวี ดําเนินงานโดยบริษัท อ.ส.ม.ท. จํากัด (มหาชน) ในสังกัดของสํานักนายกรัฐมนตรี) โดยมีพิธีเปิดสถานีและออกอากาศแพร่ภาพ เป็นวันแรกเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2498 ซึ่งถือเป็นจุดกําเนิดของกิจการวิทยุโทรทัศน์ไทย
54. การส่งวิทยุกระจายเสียงที่ไม่ต้องใช้คลื่นความถี่เหมือนการออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงทั่วไป
หมายถึงข้อใด
(1) วิทยุกระจายเสียงผ่านอินเทอร์นัล
(2) วิทยุกระจายเสียงผ่านอินฟราเรด
(3) วิทยุกระจายเสียงผ่านอินเทอร์เน็ต
(4) วิทยุกระจายเสียงผ่านอินทราเน็ต
ตอบ 3 หน้า 82 – 83 การส่งวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นการแปลง (Convert) ระบบกระจายเสียงจากระบบ Analog เป็นระบบ Digital โดยไม่ต้องใช้คลื่นความถี่ เหมือนการออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ทั่วไป ซึ่งเมื่อคนต้องการฟัง และชมก็สามารถ Click เข้าไปที่ Website นั้น ๆ ได้ เรียกว่า Web-Radio และ Web-TV
55.กสทช. หมายถึงอะไร
(1) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
(2) คณะกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ
(3) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
(4) คณะกรรมการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ
ตอบ 3 ด้วยเหตุที่รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2550 (ฉบับปัจจุบัน) มาตรา 47 ได้กําหนดให้มีองค์กรอิสระ ของรัฐองค์กรหนึ่งที่มากํากับดูแลกิจการวิทยุและโทรทัศน์ไทย ดังนั้นเพื่อให้เกิดกระบวนการ สรรหาองค์กรอิสระดังกล่าว จึงได้มีการตรา พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับการ ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 6 ระบุว่า ให้มีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรียกโดยย่อว่า “กสทช.” จํานวน 11 คน
56. สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสมีรายได้ในการดําเนินกิจการจากข้อใด
(1) ค่าเช่าเวลาโฆษณาจากเจ้าของสินค้า
(2) ภาษีสรรพสามิตจากงบประมาณแผ่นดิน
(3) ค่าเช่าเวลาจากบริษัทผู้ผลิตรายการ
(4) ภาษีค่าธรรมเนียมเครื่องรับโทรทัศน์
ตอบ 2 (คําบรรยาย) พ.ร.บ. องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 ได้กําหนดให้สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (TPBS) หรือทีวีไทย มีรายได้ในการดําเนินกิจการ ด้วยการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากงบประมาณแผ่นดินในอัตราร้อยละ 1.5 ของภาษีที่เก็บจากสุราและยาสูบ โดยให้มีรายได้สูงสุดปีงบประมาณละไม่เกิน 2,000 ล้านบาท จึงถือเป็นการจัดเก็บ ภาษีจากกลุ่มผู้ที่จําหน่ายสุราและยาสูบมาเป็นเงินบํารุงองค์การ ซึ่งเป็นมาตรการใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
57. รัฐธรรมนูญฯ ฉบับแรกที่ริเริ่มแนวคิดการปฏิรูปสื่อวิทยุและโทรทัศน์ไทยในระบบโครงสร้างกรรมสิทธิ์
คือข้อใด
(1) รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2535
(2) รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2540
(3) รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2545
(4) รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2550
ตอบ 2 หน้า 120, (คําบรรยาย) รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2540 มาตรา 40 ถือเป็นรัฐธรรมนูญฯ ฉบับแรก ที่ริเริ่มแนวคิดการปฏิรูปสื่อวิทยุและโทรทัศน์ไทยในระบบโครงสร้างกรรมสิทธิ์ คือ วิทยุและ โทรทัศน์ไทยไม่จําเป็นต้องเป็นของรัฐทั้งหมด แต่จะเปิดให้มีการแข่งขันกันอย่างเสรีและเป็นธรรม ซึ่งเจตนารมณ์ในการปฏิรูปสื่อนี้ก็ยังใช้ต่อมาในรัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2550 มาตรา 47
58. แนวคิดการจัดระบบวิทยุและโทรทัศน์ไทยในรัฐธรรมนูญฯ ปัจจุบัน หมายถึงข้อใด
(1) State System
(2) Free Market System
(3) Public Service System
(4) Mixed System
ตอบ 4 หน้า 111, 113, (คําบรรยาย) แนวคิดในการจัดระบบวิทยุและโทรทัศน์ไทยปัจจุบันตาม รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2550 (ฉบับปัจจุบัน) เป็นแบบ Mixed System (แนวคิดผสมระหว่าง การสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะกับการสื่อสารในตลาดเสรี) ทั้งนี้เพื่อให้ระบบกิจการวิทยุและ โทรทัศน์ไทยมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ ของเอกชน หรือของภาคประชาชน
59. กฎหมายวิทยุและโทรทัศน์ฉบับล่าสุดที่ใช้ในปัจจุบัน หมายถึงข้อใด
(1) พ.ร.บ. วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530
(2) พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับดูแลกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2543
(3) พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553
(4) พ.ร.บ. การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2551
ตอบ 3 (คําบรรยาย) กฎหมายวิทยุและโทรทัศน์ที่ออกมาฉบับล่าสุดและบังคับใช้ในปัจจุบัน คือ พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553
60. การใช้เป็นสื่อที่ทําให้เกิดการพึ่งพากันและกันทั่วทั้งโลก ตรงกับความสําคัญของสื่อวิทยุและโทรทัศน์ระดับใด
(1) ระดับบุคคล
(2) ระดับสังคม
(3) ระดับประเทศ
(4) ระดับโลก
ตอบ 4 หน้า 7, 13 – 14 ความสําคัญของสื่อวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ระดับโลก มีดังนี้
1. การรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลก
2. การเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้ความบันเทิง
3. การใช้เป็นสื่อที่ทําให้เกิดการพึ่งพาซึ่งกันและกันทั่วทั้งโลก
61. แนวคิดที่เชื่อว่าวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์มีอิทธิพลต่อผู้รับสารโดยตรง คือข้อใด
(1) นักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์
(2) นักวิชาการด้านทฤษฎีสังคมมวลชน
(3) นักวิชาการสํานักยุโรปศึกษา
(4) นักวิชาการด้านวัฒนธรรมศึกษา
ตอบ 2 หน้า 102 – 104, (คําบรรยาย) นักวิชาการด้านทฤษฎีสังคมมวลชนมีความเชื่อว่า วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์มีอิทธิพลโดยตรงต่อผู้รับสาร และมองว่าผู้รับสารมี ลักษณะเฉื่อยชา จึงถูกกระทําจากข้อมูลข่าวสาร โดยพิจารณาจาก
1. ความสามารถเข้าถึงประชาชนจํานวนมากได้โดยตรง และการเปิดรับของผู้รับสาร คือ สื่อมวลชนมีบทบาทเป็นแหล่งข่าวสารพบได้ในทุกที่ และผู้รับสารก็จะต้องเปิดรับสื่อด้วย
2. มีอิทธิพลในการชักจูงใจ เช่น ความเป็นชาตินิยม และแนวคิดยกย่องผู้นํา ฯลฯ
3. มีผลเรื่องใดเรื่องหนึ่งต่อคนจํานวนมากในลักษณะคล้ายคลึงกัน ทําให้วิทยุและโทรทัศน์ กลายเป็น “ลูกพี่ใหญ่” (Big Brother) ที่ควบคุมอิสรเสรีภาพทางความคิดของคนในสังคม เกือบทั้งหมด
ข้อ 62 – 70. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) แนวคิดที่เชื่อว่าวิทยุและโทรทัศน์มีอิทธิพลโดยตรงต่อผู้รับสาร
(2) แนวคิดที่เชื่อว่าวิทยุและโทรทัศน์ไม่มีอิทธิพลโดยตรงต่อผู้รับสาร
(3) แนวคิดที่เชื่อว่าวิทยุและโทรทัศน์มีอิทธิพลต่อผู้รับสารทางอ้อม
(4) แนวคิดที่เชื่อว่าวิทยุและโทรทัศน์มีอิทธิพลโดยตรงต่อระดับความต้องการข่าวสาร
62. การทํางานร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ ในสังคม เช่น ครอบครัว เพื่อน ฯลฯ
ตอบ 2 หน้า 105 นักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์หลายท่าน เช่น แคลปเปอร์ (Klapper, 1960) เชื่อว่า วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ไม่มีอิทธิพลต่อผู้รับสารโดยตรง เนื่องจากผู้รับสารจะมีความฉลาด มีความกระตือรือร้น และมีวิจารณญาณเพียงพอในการรับข้อมูลข่าวสารจาก สื่อมวลชน ซึ่งผู้รับสารที่เปิดรับสื่อสามารถคิดและวิเคราะห์ ไม่ใช่สื่อมีอิทธิพลต่อความคิด ของบุคคลมากมาย โดยอิทธิพลของสื่อมวลชนจะมีมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการทํางานร่วมกับ ปัจจัยอื่น ๆ ในสังคม เช่น ครอบครัว เพื่อน บรรยากาศทางสังคม ฯลฯ
63. ผู้รับสารมีลักษณะเฉื่อยชา ถูกกระทําจากข้อมูลข่าวสาร
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 61. ประกอบ
64. ผู้รับสารมีความกระตือรือร้น และมีวิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 62. ประกอบ
65. แคลปเปอร์ (1960)
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 62. ประกอบ
66. กระบวนการเลือกรับสาร
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 13. ประกอบ
67. อิทธิพลของบุคคล และผู้นําความคิดเห็น
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 13. ประกอบ
68. “ลูกพี่ใหญ่” (Big Brother)
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 61. ประกอบ
69. อิทธิพลในการชักจูงใจ เช่น ความเป็นชาตินิยม
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 61. ประกอบ
70. มีบทบาทเป็นแหล่งข่าวสารพบได้ในทุกที่
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 61. ประกอบ
71. ผู้บุกเบิกจัดตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงของสหรัฐอเมริกา ตรงกับข้อใด
(1) เออร์ลี เอ็ม. เทอร์รี่
(2) ชาร์ลส์ เดวิด เฮอร์โรลด์
(3) เดวิด ซาร์นอฟ
(4) แฟรงค์ คอนราด
ตอบ 2 หน้า 155 พัฒนาการของวิทยุกระจายเสียงถือว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้บุกเบิกกิจการ วิทยุกระจายเสียงของโลก โดยมีสถานีวิทยุอยู่กลุ่มหนึ่งที่ถือว่าเป็นสถานีในยุคแรก ได้แก่ สถานี KCBS ถือเป็นสถานีวิทยุแห่งแรกในสหรัฐอเมริกา โดยมีศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เดวิด เฮอร์โรลด์ (Charles David Herrold) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกจัดตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียง คนแรกของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังมีสถานีวิทยุ WHA, WWJ และ KDKA
72.BBC World หมายถึงข้อใด
(1) การกระจายเสียงภาคต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา
(2) การกระจายเสียงภาคต่างประเทศของสหราชอาณาจักร
(3) การกระจายเสียงภาคต่างประเทศของสหภาพโซเวียต
(4) การกระจายเสียงภาคต่างประเทศของญี่ปุ่น
ตอบ 2 หน้า 163 – 165 การกระจายเสียงภาคต่างประเทศของอังกฤษหรือสหราชอาณาจักร คือ สถานีวิทยุบีบีซีภาคภาษาต่างประเทศ (BBC External Broadcasting Service) ซึ่งได้เริ่มส่ง กระจายเสียงคลื่นสั้นไปยังต่างประเทศครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2475 (ค.ศ. 1932) เรียกว่า Empire Service ทั้งนี้เพราะในช่วงระยะ 6 ปีแรกได้จัดรายการโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อประเทศในอาณานิคมของตนเองทั่วโลก ต่อมาจึงขยายวงกว้างขึ้นจนเป็นบริการระดับโลก เรียกว่า BBC World Service (บีบีซี ภาคบริการโลก) เมื่อปี ค.ศ. 1988
ข้อ 73 – 75. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) ระบบวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์เพื่อธุรกิจ
(2) ระบบวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์เพื่อสาธารณะ
(3) ระบบวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์เพื่อบรรษัทสาธารณะ
(4) ข้อ 1 และ 2
(5) ข้อ 1 และ 3
73. สหรัฐอเมริกา
ตอบ 1 หน้า 167, (คําบรรยาย) ระบบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ของประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะ จัดตั้งขึ้นเพื่อการค้า (มีถึง 90%) และเพื่อการศึกษาหรือเพื่อสาธารณะ (มีเพียง 10%) ก็ให้ถือว่า เป็นกิจการของเอกชน และดําเนินงานโดยระบบธุรกิจการค้าเอกชน (Private Ownership and Operation) ทั้งหมด ทั้งนี้เพราะมิได้มีการจัดสรรคลื่นเอาไว้ให้แต่หน่วยราชการ ดังนั้นเอกชน นิติบุคคล องค์กรสาธารณะต่าง ๆ ก็มีสิทธิจัดตั้งสถานีวิทยุและโทรทัศน์ได้
74. อังกฤษ
ตอบ 5 หน้า 113, 165 – 165, 169, 172 ระบบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ของประเทศอังกฤษและ ประเทศญี่ปุ่นจะมี 2 ระบบเหมือนกัน คือ
1. ระบบบรรษัทสาธารณะ (Public Corporation) เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากําไรและไม่มี โฆษณาธุรกิจการค้า แต่จะมีรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมเครื่องรับวิทยุและโทรทัศน์ ได้แก่ บรรษัทวิทยุและโทรทัศน์อังกฤษ (British Broadcasting Corporation : BBC) ซึ่งมีลักษณะเหมือนบรรษัทการกระจายเสียงแห่งญี่ปุ่น (Nippon Hoso Kyokai : NHK)
2. ระบบธุรกิจเอกชน (Commercial Broadcasting) เป็นระบบการกระจายเสียงเพื่อการค้า ได้แก่ สถานีวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้า มีรายได้จากการโฆษณา
75. ญี่ปุ่น
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 74. ประกอบ
76. แนวคิดการสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะ ประกอบด้วย มิติทางการเมืองและเศรษฐกิจแบบใด
(1) ประชาธิปไตยและเสรีนิยม
(2) ประชาธิปไตยและสังคมนิยม
(3) สังคมนิยมและทุนนิยม
(4) เสรีนิยมและทุนนิยม
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 44. ประกอบ
77. แนวคิดการสื่อสารในตลาดเสรี ประกอบด้วย
(1) ประชาธิปไตยและเสรีนิยม
(2) ประชาธิปไตยและสังคมนิยม
(3) สังคมนิยมและทุนนิยม
(4) เสรีนิยมและทุนนิยม
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 45. ประกอบ
78. แนวคิดการสื่อสารแบบผสมผสาน (Mixed System) ตรงกับข้อใด
(1) การสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะผสมผสานกับการสื่อสารในตลาดเสรี
(2) การสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะผสมผสานกับการสื่อสารระบบพหุนิยม
(3) การสื่อสารในตลาดเสรีผสมผสานกับการสื่อสารระบบพหุนิยม
(4) การสื่อสารระบบพหุนิยมผสมผสานกับการสื่อสารระบบข้ามชาติ
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 58. ประกอบ
79. ระบบการส่งวิทยุกระจายเสียงในระบบ AM นิยมใช้การแพร่คลื่นแบบใด
(1) การแพร่คลื่นตรง
(2) การแพร่คลื่นพื้นดิน
(3) การแพร่คลื่นฟ้า
(4) การแพร่คลื่นอ้อม
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 35. ประกอบ
80. ระบบการส่งวิทยุกระจายเสียงในระบบ FM นิยมใช้การแพร่คลื่นแบบใด
(1) การแพร่คลื่นตรง
(2) การแพร่คลื่นพื้นดิน
(3) การแพร่คลื่นฟ้า
(4) การแพร่คลื่นอ้อม
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 35. ประกอบ
81. ระบบการส่งวิทยุกระจายเสียงคลื่นสั้น นิยมใช้การแพร่คลื่นแบบใด
(1) การแพร่คลื่นตรง
(2) การแพร่คลื่นพื้นดิน
(3) การแพร่คลื่นฟ้า
(4) การแพร่คลื่นอ้อม
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 35. ประกอบ
82. รัฐธรรมนูญฯ ฉบับใดที่นําไปสู่การจัดตั้งคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.)
(1) รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2535
(2) รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2540
(3) รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2550
(4) รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2557
ตอบ 2 หน้า 120 – 121, (คําบรรยาย) รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2540 มาตรา 40 วรรคสอง ได้กําหนดให้ มีองค์กรอิสระของรัฐจํานวนสององค์กรที่มากํากับดูแลกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมดังนั้นเพื่อให้เกิดกระบวนการสรรหาองค์กรอิสระดังกล่าว จึงได้มีการตรา พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2543 มาตรา 6 ระบุว่า ให้มีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ เรียกโดยย่อว่า “กสช.” และมาตรา 46 ระบุว่า ให้มี คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรียกโดยย่อว่า “กทช.”
83. การจัดตั้งองค์กรอิสระที่มากํากับดูแลกิจการวิทยุและโทรทัศน์ ณ เวลานี้มาจากรัฐธรรมนูญฯ ฉบับใด
(1) รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2535
(2) รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2540
(3) รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2550
(4) รัฐธรรมนูญฯ ปี พ.ศ. 2557
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 55. ประกอบ
84. ผู้บัญญัติศัพท์คําว่า วิทยุกระจายเสียง หมายถึงข้อใด
(1) กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
(2) กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
(3) ราชบัณฑิตยสถาน
(4) กรมพระกําแพงเพชรอัครโยธิน
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 49. ประกอบ
85 กระบวนการสรรหา กสทช. มาจากกฎหมายฉบับใดปี
(1) พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2543
(2) พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553
(3) พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551
(4) พระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและการแพร่ภาพ พ.ศ. 2551
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 55. ประกอบ
86. ในระหว่างที่ยังไม่มี กสทช. ผู้ที่ทําหน้าที่แทนชั่วคราวจนกว่าจะมี กสทช. หมายถึงข้อใด
(1) กสช.
(2) กกช.
(3) กทช.
(4) กสท.
ตอบ 3 พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา 78 ระบุว่า ในระหว่างที่การจัดตั้งองค์กรอิสระของรัฐที่มากํากับดูแลกิจการวิทยุและโทรทัศน์ (ในที่นี้คือ กสทช.) ยังไม่แล้วเสร็จ ให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการตาม พ.ร.บ. นี้เป็นการชั่วคราว (ในที่นี้คือ กทช. เป็นผู้ทําหน้าที่แทนชั่วคราว จนกว่าจะมี กสทช. เกิดขึ้น)
87. การกําหนดแผนแม่บทเพื่อการจัดสรรคลื่นความถี่ให้แก่กิจการวิทยุ โทรทัศน์ และโทรคมนาคม
เป็นบทบาทหน้าที่ของใคร
(1) กรมไปรษณีย์โทรเลข
(2) กรมประชาสัมพันธ์
(3) กสทช.
(4) คสช.
ตอบ 3 พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 27 ระบุให้ กสทช. มีอํานาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
1. จัดทําแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ตารางกําหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม แผนความถี่วิทยุ และแผนเลขหมายโทรคมนาคม
2. กําหนดการจัดสรรคลื่นความถี่ระหว่างคลื่นความถี่ที่ใช้ในกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทัศน์ กิจการวิทยุคมนาคม และกิจการโทรคมนาคม ฯลฯ
88. กฎหมายได้กําหนดให้กิจการวิทยุและโทรทัศน์มีใบอนุญาตประเภทใดบ้าง
(1) บริการสาธารณะ และบริการธุรกิจ
(2) บริการระดับชาติ ท้องถิ่น และระดับจังหวัด
(3) บริการสาธารณะ บริการธุรกิจ และบริการชุมชน
(4) บริการธุรกิจ และบริการชุมชน
ตอบ 3 พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา 10 ระบุว่า ใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์โดยใช้คลื่นความถี่มี 3 ประเภท ดังนี้
1. ใบอนุญาตประกอบกิจการบริการสาธารณะ
2. ใบอนุญาตประกอบกิจการบริการชุมชน
3. ใบอนุญาตประกอบกิจการบริการธุรกิจ
89. กรณีพิพาทของสถานีโทรทัศน์ไอทีวีกับหน่วยงานคู่สัญญาใดที่นําไปสู่การลงโทษปิดสถานี
(1) กองทัพบก
(2) กรมประชาสัมพันธ์
(3) อ.ส.ม.ท.
(4) สํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี
ตอบ 4 (ข่าว) สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งแรกของไทยที่ถูกมาตรการลงโทษให้ปิดสถานี ตามคําตัดสิน ของศาลปกครองสูงสุด คือ ไอทีวี เนื่องจากไอทีวีเกิดกรณีพิพาทกับหน่วยงานคู่สัญญา คือ สํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ในกรณีที่ไอทีวีผิดสัญญาการจ่ายค่าสัมปทาน และการเสนอรายการในช่วง Prime Time ไม่เป็นไปตามสัญญาการประมูลข้อ 2 แต่ต่อมา ศาลปกครองสูงสุดก็มีคําสั่งคุ้มครองให้ออกอากาศต่อไปได้ ภายใต้ชื่อใหม่ว่า TITV โดยมีเงื่อนไขว่า ทันทีที่ พ.ร.บ. องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 มีผลบังคับใช้ สถานีวิทยุโทรทัศน์ TITV ต้องเปลี่ยนเป็นทีวีสาธารณะอย่างเต็มรูปแบบ
90. หน้าที่ของสื่อมวลชนในการสร้างเอกลักษณ์ของบุคคล ตรงกับข้อใด
(1) สนับสนุนผู้ที่อยู่ในอํานาจที่ถูกต้อง
(2) การเผยแพร่ความรู้ ความคิด บรรทัดฐานที่เป็นที่ยอมรับกันของสังคม
(3) ให้แบบอย่างของบุคคลที่มีคุณค่า
(4) การให้สถานภาพทางสังคม รายงานข่าวเกี่ยวกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ตอบ 3 หน้า 95, 99 เดนิส แมคเควล (Denis McQuail) ได้กล่าวถึงหน้าที่ของสื่อมวลชนตาม แนวความคิดของมวลชนผู้รับสารประการหนึ่ง คือ หน้าที่ในการสร้างเอกลักษณ์ของบุคคล
(Personal Identity) ได้แก่
1. สนับสนุนค่านิยมส่วนตัวของบุคคล
2. ให้แบบอย่างของบุคคลที่มีคุณค่า
3. ทําให้บุคคลเข้าใจตนเองมากขึ้น
91. หน้าที่ของสื่อมวลชนในการสร้างความต่อเนื่อง (Continuity) คือข้อใด
(1) การรณรงค์เป้าหมายหลักของสังคม เช่น การเมือง
(2) การจัดลําดับความสําคัญ และสร้างความสอดคล้องกันในสังคม
(3) การแสดงถึงความสัมพันธ์ของอํานาจต่าง ๆ ในสังคม າ ๆ
(4) การดํารงและรักษาไว้ซึ่งค่านิยมร่วมของสังคม
ตอบ 4 หน้า 95 – 96 เดนิส แมคเควล (Denis McQuail) ได้กล่าวถึงหน้าที่ของสื่อมวลชนตาม แนวความคิดของสังคมประการหนึ่ง คือ หน้าที่ในการสร้างความต่อเนื่อง (Continuity) ได้แก่
1. การแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมหลัก วัฒนธรรมย่อย และการพัฒนาวัฒนธรรมใหม่ ๆ
2. การดํารงและรักษาไว้ซึ่งค่านิยมร่วมของสังคม
92. The advocate on media functions หมายถึงข้อใด
(1) นักสื่อสารมวลชน
(2) นักประชาสัมพันธ์
(3) มวลชนผู้รับสาร
(4) นักวิจารณ์
ตอบ 2 หน้า 95 – 96 – เดนิส แมคเควล (Denis McQuail) ได้กล่าวถึงหน้าที่ของสื่อมวลชนตาม แนวความคิดของผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเผยแพร่ (The perspective of the “advocate on media functions) ได้แก่ นักโฆษณา นักประชาสัมพันธ์ นักสื่อสารการเมืองและธุรกิจ (Political and Business Communicators) นักรณรงค์ ฯลฯ ซึ่งทํางานให้หน่วยงานต่าง ๆ
93. บิดาของวิทยุกระจายเสียงไทย คือ
(1) กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
(2) กรมพระกําแพงเพชรอัครโยธิน
(3) กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
(4) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ตอบ 2 หน้า 33 – 34 บิดาของกิจการวิทยุกระจายเสียงไทย คือ นายพลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกําแพงเพชรอัครโยธิน เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้บุกเบิก และริเริ่มให้มีการทดลองส่งวิทยุกระจายเสียงขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยใช้ชื่อ สถานีวิทยุแห่งนี้ว่า “พีเจ” ซึ่งย่อมาจากคําว่า “บูรฉัตรไชยากร
94 NHK (Nippon Hoso Kyokai)
(1) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้า
(2) ระบบวิทยุและโทรทัศน์บรรษัทสาธารณะ
(3) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อสาธารณะ
(4) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้าและเพื่อสาธารณะ
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 74. ประกอบ
95.CBS (Columbia Broadcasting System)
(1) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้า
(2) ระบบวิทยุและโทรทัศน์บรรษัทสาธารณะ
(3) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อสาธารณะ
(4) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้าและเพื่อสาธารณะ
ตอบ 1 หน้า 113, 168 ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้าในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งดําเนิน กิจการในรูปแบบของธุรกิจและมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการโฆษณานั้น ในปัจจุบันจะมี เครือข่ายระดับชาติที่สําคัญ ได้แก่ CBS (Columbia Broadcasting System), ABC (American Broadcasting Company) as NBC (National Broadcasting Company)
96. PBS (Public Broadcasting Service)
(1) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้า
(2) ระบบวิทยุและโทรทัศน์บรรษัทสาธารณะ
(3) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อสาธารณะ
(4) ระบบวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการค้าและเพื่อสาธารณะ
ตอบ 3 หน้า 113, 168, (คําบรรยาย) PBS (Public Broadcasting Service) คือ ระบบวิทยุและโทรทัศน์ เพื่อสาธารณะ เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากําไร และมีรายได้เป็นเงินอุดหนุนจากรัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ PBS ได้จัดตั้งขึ้นมาในภายหลัง เพื่อผลิตรายการที่ส่งเสริมคุณค่าทางสังคม ศิลปวัฒนธรรม และกิจการสาธารณะ เช่น รายการสําหรับเด็ก รายการสําหรับการศึกษา เป็นต้น
97.“ITU” หมายถึงอะไร
(1) สหภาพการกระจายเสียงระหว่างประเทศ
(2) สหภาพการกระจายเสียงยุโรป
(3) สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ
(4) สหภาพการกระจายเสียงเอเชีย-แปซิฟิก
ตอบ 3 หน้า 58, 115, 124 สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ITU (The International Telecommunication Union) มีสํานักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นองค์กรที่ทําหน้าที่ควบคุมและบริหารคลื่นความถี่วิทยุให้เป็นระเบียบทั่วโลก โดยผ่านทางรัฐบาลของแต่ละประเทศ
98. รัฐมีความรับผิดชอบในการให้ข่าวสารข้อมูลและรักษาวัฒนธรรมแห่งชาติ
(1) Free Market System
(2) Public Service System
(3) Mixed System
(4) Public Corporation
ตอบ 2 หน้า 111 – 112 แนวความคิดในการจัดระบบวิทยุและโทรทัศน์แบบ Public Service System (แนวคิดการสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะ) คือ
1. รัฐมีความรับผิดชอบในการให้ข่าวสารข้อมูลและรักษาวัฒนธรรมแห่งชาติ
2. รัฐเป็นผู้จัดระเบียบในด้านที่มาของรายได้ การจัดสรรคลื่น และคุณภาพของรายการ
3. เป็นระบบที่ผูกขาดโดยหน่วยงานของรัฐ หรืออาจเป็นการผูกขาดแบบ Duopoly (เล่นพรรคเล่นพวก) โดยมีเอกชนเป็นคู่แข่งเพียง 1 – 2 รายเท่านั้น รัฐจึงเป็นทั้ง Supplier (ผู้ผลิตรายการ) และเป็น Regulator (ผู้ควบคุมรายการ) ไปพร้อมกัน
99. โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงทศวรรษที่ 1980 – 1990 กําลังเป็นช่วงที่มีการปรับปรุงไปสู่ทิศทางของระบบ พหุนิยมในแนวตลาดเสรี ทําให้เกิดระบบแนวคิดนี้ขยายตัวไปทั่วโลก
(1) Free Market System
(2) Public Service System
(3) Mixed System
(4) Public Corporation.
ตอบ 3 หน้า 111, 113 ในช่วงทศวรรษที่ 1980 – 1990 กําลังเป็นช่วงที่มีการปรับไปสู่ทิศทางของระบบ พหุนิยมในแนวตลาดเสรี จึงทําให้เกิดระบบในแบบที่ 3 คือ ระบบผสม (Mixed System) ระหว่าง แนวคิดการสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะกับแนวคิดการสื่อสารในตลาดเสรีขยายตัวไปทั่วโลก
100. ระบบนี้มีความเชื่อว่า ถ้าเป็นตลาดที่สมบูรณ์จะมีการแข่งขันกันของผู้ประกอบการ และท้ายที่สุดผู้บริโภคจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด
(1) Free Market System
(2) Public Service System
(3) Mixed System
(4) Public Corporation
ตอบ 1 หน้า 111 – 113 ประเทศสหรัฐอเมริกาถือเป็นแม่แบบของแนวคิด Free Market System (แนวคิดการสื่อสารในตลาดเสรี) คือ ดําเนินการในรูปตลาดเสรีที่ให้ธุรกิจเอกชนแข่งขันกันอย่าง เต็มที่ (Competition) โดยเชื่อว่า ถ้าเป็นตลาดที่สมบูรณ์จะมีการแข่งขันกันของผู้ประกอบการ และท้ายที่สุดผู้บริโภคจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด