การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2548
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ
ข้อ 1 นายแสง นายสี และนายใส ตกลงเข้าหุ้นส่วนกัน โดยจัดตั้งเป็นห้างหุนส่วนสามัญนิติบุคคลใช้ชื่อห้างหุ้นส่วน แสงบริการ ห้างฯนี้มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการเดินรถยนต์ขนส่งสินค้าและคนโดยสารวิ่งระหว่างจังหวัดตราด กับจังหวัดจันทบุรี ทุกคนลงหุ้นเป็นเงินคนละ 2 ล้านบาท จดทะเบียนให้นายสีเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ระหว่างดำเนินการ นายสีได้กู้ยืมเงินจากนายแสดเพื่อนำไปซื้อรถยนต์ไว้ใช้ในกิจการของห้างฯ ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มาคม 2547 นายแสงได้จดทะเบียนลาออกจากห้างฯ
โดยหุ้นส่วนคนอื่นๆไม่ขัดข้องและห้างหุ้นส่วนฯแสงบริการ ก็ยังคงดำเนินกิจการต่อไป ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2549 คนขับรถยนต์ของห้างฯ ได้ขับรถยนต์โดยประมาทชนนายแดงบาดเจ็บสาหัส และหนี้เงินกู้ที่นายแสดเป็นเจ้าหนี้ก็ได้ถึงกำหนดชำระด้วย แต่ห้างฯไม่มีเงินชำระหนี้ ดังนี้นายแสด และนายแดง จะเรียกให้นายแสงรับผิดชอบได้หรือไม่
ธงคำตอบ
มาตรา 1054 วรรคแรก บุคคลใดแสดงตนว่าเป็นหุ้นส่วนด้วยวาจาก็ดี ด้วยลายลักษณ์อักษรก็ดี ด้วยกิริยาก็ดี ด้วยยินยอมให้เขาใช้ชื่อตนเป็นชื่อห้างหุ้นส่วนก็ดี หรือรู้แล้วไม่คัดค้านปล่อยให้เขาแสดงว่าตนเป็นหุ้นส่วนก็ดี ท่านว่าบุคคลนั้นย่อมต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนเสมือนเป็นหุ้นส่วน
มาตรา 1068 ความรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนอันเกี่ยวแก่หนี้ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนออกจากหุ้นส่วนนั้น ย่อมมีจำกัดเพียงสองปีนับแต่เมื่อออกจากหุ้นส่วน
วินิจฉัย
1 กรณีนายแสดเป็นเจ้าหนี้
นายแสงได้ลาออกจากห้างฯ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2547 แต่นายแสงซึ่งเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนยังคงต้องรับผิดในหนี้ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนออกจากหุ้นส่วนนั้น แต่ความรับผิดดังกล่าวมีจำกัดเพียงสองปีนับแต่เมื่อออกจากห้างหุ้นส่วน ตามมาตรา 1068 ดังนั้นเมื่อนายแสดได้เรียกร้องหลังจากวันที่ 3 มีนาคม 2549 จึงพ้นกำหนดเวลาสองปีนับแต่ที่นายแสงได้ลาออกจากห้างไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามชื่อของนายแสงยังคงเรียกขานเป็นชื่อห้างฯอยู่ จึงเป็นกรณีที่บุคคลที่ไม่ได้เป็นหุ้นส่วน แต่กลับแสดงตนว่าเป็นหุ้นส่วนด้วยยินยอมให้เขาใช้ชื่อตนเป็นชื่อห้างหุ้นส่วน ดังนั้นนายแสดจึงเรียกให้นายแสงรับผิดเสมือนเป็นหุ้นส่วนตามมาตรา 1054 วรรคแรก
2 กรณีนายแดงเรียกค่าเสียหาย
อันเกิดจากการที่คนขับรถยนต์ของห้างฯ ได้ขับรถยนต์โดยประมาทชนนายแดงบาดเจ็บ จะเห็นว่าแม้ว่าหนี้ดังกล่าวจะเกิดเนื่องจากการกระทำที่อยู่ภายในวัตถุประสงค์ของห้างฯ แต่ก็เป็นหนี้ละเมิด ซึ่งผู้ถูกละเมิดเถียงไม่ได้ว่าการที่ตนเสียหายนั้นเพราะหลงเชื่อข้อความอันใดอันหนึ่ง หรือการแสดงออกอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 1054 วรรคแรก ดังนั้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงมิใช่ผลโดยตรงในการที่นายแสงได้ใช้ชื่อเป็นชื่อห้างหุ้นส่วน ดังนั้นนายแดงจึงเรียกค่าเสียหายจากนายแสงไม่ได้
สรุป นายแสดเรียกให้นายแสงรับผิดได้ แต่นายแดงเรียกให้นายแสงรับผิดไม่ได้
ข้อ 2 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีทองก่อสร้าง มีวัตถุประสงค์ค้าขายวัสดุก่อสร้าง มีนายศรีเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด และเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ นายทองและนายเงินเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด ห้างหุ้นส่วนจำกัดนี้เป็นหนี้นางสาวสกุนตลาหลายแสนบาท แต่ยังไม่ได้คิดบัญชีกัน นายศรีจึงวานนายเงินให้ช่วยคิดบัญชีในการที่ห้างฯ เป็นหนี้นางสาวสกุนตลา นายเงินจึงไปคิดบัญชีกับนางสาวสกุนจลาเป็นที่เรียบร้อยว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีทองก่อสร้าง ยังค้างชำระหนี้ค่าวัสดุก่อสร้างเป็นเงิน 125,000 บาท โดยนายเงินได้ลงนามไว้ข้างหนังสือ ต่อมาห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีทองก่อสร้าง ไม่ยอมชำระหนี้ให้นางสาวสกุนตลาตามหนังสือที่นายเงินได้ทำไว้ ดังนี้ นางสาวสกุนตลาจะเรียกให้หุ้นส่วนคนใดรับผิดใช้หนี้ได้บ้าง
ธงคำตอบ
มาตรา 1070 เมื่อใดห้างหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนผิดนัดชำระหนี้ เมื่อนั้นเจ้าหนี้ของห้างหุ้นส่วนนั้นชอบที่จะเรียกให้ชำระหนี้เอาแต่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งก็ได้
มาตรา 1080 วรรคแรก บทบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนสามัญข้อใดๆ หากมิได้ยกเว้นหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปโดยบทบัญญัติแห่งหมวด 3 นี้ ท่านให้นำมาใช้บังคับแก่ห้างหุ้นส่วนจำกัดด้วย
มาตรา 1082 ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดคนใดยินยอมโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้ใช้ชื่อของตนระคนเป็นชื่อห้างไซร้ ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเสมือนดังว่าเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดฉะนั้น
มาตรา 1088 วรรคแรก ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดผู้ใดสอดเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างหุ้นส่วน ท่านว่าผู้นั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ทั้งหลายของห้างหุ้นส่วนนั้นโดยไม่จำกัดจำนวน
วินิจฉัย
1 กรณีนายศรี ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด ต้องรับผิดเพราะเมื่อห้างผิดนั้นชำระหนี้ เจ้าหนี้ของห้างฯ ก็เรียกให้หุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดชำระหนี้ได้ตามมาตรา 1070 ประกอบมาตรา 1080 วรรคแรก
2 กรณีนายทอง ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด ต้องรับผิดเพราะได้ใช้ชื่อระคนเป็นชื่อห้างฯตามมาตรา 1082 วรรคแรก
3 กรณีนายเงิน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด ต้องรับผิดเพราะได้ไปทำหนังสือรับสภาพหนี้ของห้างฯไว้ ตามที่นายศรีมอบหมาย จึงเป็นการสอดเข้าจัดการงานของห้างฯ ตามมาตรา 1088 วรรคแรก
สรุป นางสาวสกุนตลา เรียกให้หุ้นส่วนทั้งสามคม คือ นายศรี นายทอง และนายเงินรับผิดใช้หนี้ได้
ข้อ 3 นายเอก นายโท และเพื่อนอีกเจ็ดคน เป็นผู้เริ่มก่อการจัดตั้งบริษัทจำกัดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีวัตถุประสงค์ค้าขายเครื่องสำอาง นายเอกได้ขับรถยนต์ส่วนตัวของตน นำตัวอย่างเครื่องสำอางที่จะผลิตขายในบริษัทไปแนะนำให้ลูกค้าดูก่อน ขากลับรถยนต์ของนายเอกเบรกแตก และได้พุ่งชนรถยนต์ซีตรองของนางสาวขวัญเสียหายเป็นเงินหนึ่งแสนบาท แต่นายเอกได้ปิดบังเรื่องนี้มิได้แจ้งให้ผู้ใดทราบเลยเพราะกลัวว่าจะถูกตำหนิ ต่อมาได้มีการประชุมตั้งบริษัท และที่ประชุมได้ตั้งนายเอก กับนายโทเป็นกรรมการผู้จัดการ นายเอก กับนายโทได้เรียกเก็บเงินจากผู้เขาชื่อหุ้นและได้ไปจดทะเบียนตั้งบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นางสาวขวัญใจจึงมีหนังสือทวงถามให้บริษัทจำกัดและนายเอกร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย แต่นายเอกก็ยังเพิกเฉยอยู่ นางสาวขวัญใจจึงมาปรึกษาท่านว่า กรณีดังกล่าวนางสาวขวัญใจจะเรียกค่าเสียหายจากใครได้บ้าง ให้ท่านแนะนำด้วย
ธงคำตอบ
มาตรา 1108 กิจการอันจะพึงทำในที่ประชุมตั้งบริษัทนั้น คือ
(2) ให้สัตยาบันแก่บรรดาสัญญาซึ่งผู้ริเริ่มก่อการได้ทำไว้ และค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งเขาต้องออกไปในการเริ่มก่อบริษัท
มาตรา 1113 ผู้เริ่มก่อการบริษัทต้องรับผิดร่วมกันและโดยไม่จำกัดในบรรดาหนี้และการจ่ายเงินซึ่งที่ประชุมตั้งบริษัทมิได้อนุมัติ และแม้จะได้มีอนุมัติก็ยังคงต้องรับผิดอยู่เช่นนั้นไปจนกว่าจะได้จดทะเบียนบริษัท
วินิจฉัย
นายเอก เป็นผู้เริ่มก่อการตั้งบริษัทค้าขายเครื่องสำอาง ได้ทำละเมิดนางาสาวขวัญใจระหว่างก่อตั้งบริษัท ซึ่งแม้ว่า การทำละเมิดดังกล่าวจะเกิดจากการที่นายเอกได้ขับรถยนต์ส่วนตัวของตน เพื่อนำตัวอย่างเครื่องสำอางที่จะผลิตขายในบริษัทไปแนะนำให้ลูกค้าดูก่อน จึงถือว่าการกระทำของนายเอกเป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทก็ตาม แต่ไม่ปรากฏว่าเมื่อคราวประชุมตั้งบริษัทนายเอกได้ขออนุมัติให้ที่ประชุมผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นพิจารณาอนุมัติค่าเสียหายตามมาตรา 1108(2) จึงถือได้ว่าที่ประชุมตั้งบริษัทมิได้อนุมัติในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นหนี้สินไหมทดแทนที่เกิดขึ้นผู้เริ่มก่อการทุกคนจึงต้องรับผิดชอบร่วมกัน และโดยไม่จำกัดตามมาตรา 1113 นางสาวขวัญใจจึงเรียกให้ผู้เริ่มก่อการทุกคนรับผิดได้ แต่จะเรียกให้บริษัทรับผิดไม่ได้
สรุป นางสาวขวัญใจสามารถเรียกค่าเสียหายจากนายเอก นายโท และเพื่อนอีกเจ็ดคนซึ่งเป็นผู้เริ่มก่อการจัดตั้งบริษัท