การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2552
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 3001 กฎหมายอาญา 3
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 80 ผู้ใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด หรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้นั้นพยายามกระทำความผิด
ผู้ใดพยายามกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษ
วินิจฉัยองค์ประกอบความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ตามมาตรา 288 ประกอบด้วย
1 ฆ่า
2 ผู้อื่น
3 โดยเจตนา
กรณีตามอุทาหรณ์ การที่สุเทพต้องการฆ่าบรรจบ จึงเอายาพิษใส่ในถ้วยเครื่องดื่มของบรรจบนั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่า สุเทพมีเจตนาฆ่าบรรจบโดยประสงค์ต่อผล คือ ความตายของบรรจบ ซึ่งถ้าบรรจบตาย สุเทพจะมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาตามมาตรา 288
แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า บรรจบไม่ตายเนื่องจากอ้อมเอาถ้วยเครื่องดื่มไปเททิ้งก่อน จึงเป็นกรณีที่สุเทพลงมือกระทำความผิดโดยมีเจตนาฆ่าและได้กระทำไปตลอดแล้ว แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล คือบรรจบไม่ตาย สุเทพจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าตามมาตรา 288 ประกอบมาตรา 80
สรุป สุเทพมีความผิดฐานพยายามฆ่า ตามมาตรา 288 ประกอบมาตรา 80
ข้อ 2 นายหมูกู้ยืมเงินจากนายเสือ 20,000 บาท โดยมีหลักฐานการกู้ยืมตามกฎหมาย ต่อมาหนี้ถึงกำหนด นายหมูไม่ได้ชำระหนี้ นายเสือทวงถามหลายครั้ง นายหมูก็ท้าทายให้นายเสือไปฟ้องเอา วันเกิดเหตุ นายเสือมีอาวุธเข้าไปในบ้านของนายหมูแล้วใช้อาวุธขู่เข็ญให้นายหมูหาเงินมาชำระหนี้ ขณะที่กำลังขู่เข็ญอยู่นั้นภริยาของนายหมูแอบโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาจับกุมตัวนายเสือโดยนายหมูยังไม่ได้ชำระหนี้แต่อย่างใด ดังนี้ ให้วินิจฉัยว่าการกระทำของนายเสือจะเป็นความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพฐานใดหรือไม่ เพราะเหตุใดธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 80 ผู้ใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด หรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้นั้นพยายามกระทำความผิด
ผู้ใดพยายามกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
มาตรา 309 วรรคแรก ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้นต้องระวางโทษ…
วินิจฉัย
องค์ประกอบความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ตามมาตรา 309 ประกอบด้วย
1 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด
2 โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย
3 จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
4 โดยเจตนา
กรณีตามอุทาหรณ์ นายเสือนำอาวุธเข้าไปในบ้านของนายหมูแล้วใช้อาวุธขู่เข็ญให้นายหมูหาเงินมาชำระหนี้ การกระทำของนายเสือเช่นนี้จึงถือว่าเป็นการข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดๆ โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพตามมาตรา 309 วรรคแรก แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายหมูยังไม่ได้ชำระหนี้ตามที่ถูกข่มขืนใจเนื่องจากภริยาของนายหมูโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาจับกุมตัวนายเสือเสียก่อน จึงเป็นกรณีที่นายเสือได้ลงมือกระทำไปตลอดแล้ว แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล อันเป็นความผิดฐานพยายามข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดๆตามมาตรา 309 วรรคแรกประกอบมาตรา 80
สรุป นายเสือมีความผิดฐานพยายามข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดๆ ตามมาตรา 309 วรรคแรกประกอบมาตรา 80
ข้อ 3 นายเพชรตกลงให้นางทับทิมเป็นนายหน้าหาคนมาซื้อที่ดิน โดยตกลงจะให้ค่านายหน้าร้อยละ 5 ของราคาที่ดิน นางทับทิมได้พานางเดือนมาซื้อที่ดินจากนายเพชร หลังจากได้มีการจดทะเบียนซื้อขายที่ดินกันแล้ว นางทับทิมจึงมาที่บ้านของนายเพชรเพื่อขอรับค่านายหน้า นายเพชรใช้อุบายหลอกลวงว่ายังไม่ได้ซื้อขายที่ดินกันโดยเจตนาจะไม่จ่ายค่านายหน้า ดังนี้ ให้วินิจฉัยว่าการกระทำของนายเพชร จะเป็นความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ฐานใดหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามหรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษ…
วินิจฉัย
องค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกงตามมาตรา 341 ประกอบด้วย
1 หลอกลวงผู้อื่นด้วยการ
(ก) แสดงข้อความเป็นเท็จ หรือ
(ข) ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง
2 โดยการหลอกลวงนั้น
(ก) ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม
(ข) ทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ
3 โดยเจตนา
4 โดยทุจริต
กรณีตามอุทาหรณ์ นายเพชรได้ใช้อุบายหลอกลวงนางทับทิมว่ายังไม่ได้ซื้อขายที่ดินกับนางเดือน โดยมีเจตนาจะไม่จ่ายค่านายหน้าให้นางทับทิม จึงเป็นการหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จโดยเจตนา แต่อย่างไรก็ดี การหลอกลวงดังกล่าวก็ไม่ทำให้นายเพชรได้ทรัพย์สินจากนางทับทิมผู้ถูกหลอกลวงแต่อย่างใด เป็นเพียงนายเพชรมีเจตนาจะไม่จ่ายค่านายหน้าเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องต้องไปว่ากล่าวกันในทางแพ่งต่อไป ดังนั้น การกระทำของนายเพชรจึงไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงตามมาตรา 341
สรุป นายเพชรไม่มีความผิดฐานฉ้อโกง ตามมาตรา 341
ข้อ 4 แดงเจ้าของรถยนต์ นำรถยนต์ไปซ่อมกับอู่ซ่อมรถยนต์ของขาวมีกำหนด 1 เดือน ซึ่งมีมืดลูกจ้างของขาวเป็นคนทำงานซ่อมรถในอู่ซ่อมรถยนต์นั้น ขณะที่มืดกำลังซ่อมรถยนต์อยู่นั้นมืดเห็นยางอะไหล่รถยนต์เป็นยางรถยนต์ที่ใหม่และมีล้อแมกซ์ที่สวยมาก มืดจึงแอบเปลี่ยนเอายางรถยนต์เก่าและล้อแมกซ์เก่าใส่แทนยางอะไหล่รถยนต์ในรถยนต์ของแดง และมืดได้นำยางรถยนต์ของขาวพร้อมล้อแมกซ์ไปใช้เป็นของมืดเอง ท่านจงวินิจฉัยว่ามืดมีความผิดอาญาเกี่ยวกับทรัพย์ฐานใด
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 334 ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษ…
วินิจฉัย
องค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์ ตามมาตรา 334 ประกอบด้วย
1 เอาไป
2 ทรัพย์ของผู้อื่นหรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย
3 โดยเจตนา
4 โดยทุจริต
กรณีตามอุทาหรณ์ การที่แดงนำรถยนต์ไปซ่อมยังอู่ซ่อมรถยนต์ของขาว ขาวซึ่งเป็นเจ้าของอู่ย่อมเป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันนั้น เมื่อปรากฏตามข้อเท็จจริงว่า มืดลูกจ้างของขาวซึ่งเป็นผู้ซ่อมรถยนต์ในอู่ของขาว ได้นำยางอะไหล่พร้อมล้อแมกซ์ในรถยนต์ของแดงซึ่งอยู่ในความครอบครองของขาวไป โดยมีเจตนาจะนำไปใช้เป็นของมืดเอง จึงเป็นกรณีที่มืดได้เอาทรัพย์ซึ่งอยู่ในความครอบครองของผู้อื่นไปโดยทุจริตคือ เพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย มืดจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 334
สรุป มืดมีความผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 334