การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2551
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2013
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยตั๋วเงิน บัญชีเดินสะพัด
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี 3 ข้อ
ข้อ 1
(ก) อาวัลตั๋วแลกเงินนั้นคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง ให้อธิบายโดยอ้างอิงหลักกฎหมาย (10 คะแนน)
(ข) คมบางสั่งจ่ายเช็คธนาคารพิมพ์ไทยมหาชน จำกัด จำนวนเงิน 500,000 บาท ระบุดอกดินเป็นผู้รับเงินแต่มิได้ขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” ในเช็คออกมอบให้กับดอกดินเพื่อชำระหนี้ ต่อมาดอกดินสลักหลังและส่งมอบเช็คนั้นชำระราคาสินค้าให้แก่เหลือง เหลืองรับเช็คนั้นไว้โดยสุจริตเพราะเชื่อเครดิตของคมบางผู้สั่งจ่าย ดังนี้หากต่อมาเหลืองยื่นเช็คให้ธนาคารพิมพ์ไทยมหาชน จำกัด ใช้เงินแต่ธนาคารพิมพ์ไทยมหาชน จำกัด ได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าเงินในบัญชีของคมบางผู้สั่งจ่ายมีไม่พอจ่าย ดังนี้ เหลืองจะใช้สิทธิไล่เบี้ยให้ดอกดินรับผิดใช้เงินตามเช็คนี้ได้หรือไม่ในฐานะใด
ธงคำตอบ
(ก) อาวัลหรือการรับอาวัลตั๋วเงิน (Aval) คือ การที่บุคคลภายนอกหรือผู้ที่เป็นคู่สัญญาอยู่แล้ว เข้ามารับประกันการใช้เงินทั้งหมด หรือบางส่วนของลูกหนี้ตามตั๋วเงินต่อผู้ที่เป็นเจ้าหนี้ ซึ่งตั๋วเงินใบหนึ่งนั้นอาจมีผู้รับอาวัลหลายคนได้ และผู้รับอาวัลนั้นต้องระบุไว้ด้วยว่าประกันผู้ใด ถ้าไม่ระบุไว้ให้ถือว่าเป็นการประกันผู้สั่งจ่าย
กฎหมายได้บัญญัติให้มีการรับอาวัลได้ 2 กรณี ได้แก่ การรับอาวัลตามแบบ และการรับอาวัลโดยผลของกฎหมาย
1 การรับอาวัลตามแบบหรือโดยการแสดงเจตนา คือ ทำได้โดย
การเขียนข้อความลงบนตั๋วเงินหรือใบประจำต่อว่า “ใช้ได้เป็นอาวัล” หรือสำนวนอื่นใดที่มีความหมายทำนองเดียวกันนั้น เช่น “เป็นอาวัลประกันผู้สั่งจ่าย” และลงลายมือชื่อของผู้รับอาวัล ซึ่งการอาวัลในกรณีนี้จะทำที่ด้านหน้าหรือด้านหลังตั๋วเงินก็ได้ มาตรา 939 วรรคแรก วรรคสอง และวรรคสี่
โดยการที่ผู้รับอาวัลลงลายมือชื่อที่ด้านหน้าตั๋วโดยไม่ต้องเขียนข้อความก็ถือว่าเป็นการอาวัลแล้ว แต่ทั้งนี้ต้องไม่ใช่ลายมือชื่อผู้จ่ายหรือผู้สั่งจ่าย (มาตรา 939 วรรคสาม)
อนึ่ง เมื่อมีการรับอาวัลตามแบบใดแบบหนึ่งดังกล่าวข้างต้น กรณีย่อมเป็นผลให้ผู้รับอาวัลต้องรับผิดเช่นเดียวกับบุคคลที่ตนประกัน (มาตรา 900 วรรคแรกประกอบมาตรา 940 วรรคแรก)
2 อาวัลโดยผลของกฎหมาย คือ ถ้ามีการสลักหลังโอนตั๋วเงินผู้ถือเมื่อใด กฎหมายได้บัญญัติให้บุคคลที่เข้ามาสลักหลังนั้นเป็นการอาวัลผู้สั่งจ่าย จึงต้องรับผิดเช่นเดียวกันกับผู้สั่งจ่าย มาตรา 921 และมาตรา 940 วรรคแรก
(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 921 การสลักหลังตั๋วแลกเงินซึ่งสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือนั้น ย่อมเป็นเพียงประกัน (อาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่าย
มาตรา 940 วรรคแรก ผู้รับอาวัลย่อมต้องผูกพันเป็นอย่างเดียวกันกับบุคคลซึ่งตนประกัน
มาตรา 989 วรรคแรก บทบัญญัติทั้งหลายในหมวด 2 อันว่าด้วยตั๋วแลกเงินดังจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านให้ยกมาบังคับในเรื่องเช็คเพียงเท่าที่ไม่ขัดกับสภาพแห่งตราสารชนิดนี้ คือบทมาตรา …. 914 ถึง 923 938 ถึง 940
วินิจฉัย
การที่คมบางสั่งจ่ายเช็คธนาคารพิมพ์ไทยมหาชน จำกัด จำนวนเงิน 500,000 บาท ระบุให้ดอกดินเป็นผู้รับเงิน แต่มิได้ขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” ในเช็คออก เช็คฉบับดังกล่าวจึงเป็นเช็คที่สั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ ซึ่งจะโอนให้กันด้วยการส่งมอบก็ชอบด้วยกฎหมาย ไม่จำต้องสลักหลังแต่อย่างใด อนึ่งเช็คที่ออกให้ใช้เงินกับผู้ถือนั้นถ้ามีการสลักหลังเช็คแล้วมอบให้กับผู้รับโอนไปนั้นผู้ที่ทำการสลักหลังนั้นจะมีฐานะเป็นผู้รับอาวัล (ประกัน)ผู้สั่งจ่าย ดังนั้นการที่ดอกดินผู้รับเงินได้สลักหลังและส่งมอบเช็คนั้นชำระราคาสินค้าให้แก่เหลือง ดอกดินจึงมีฐานะเป็นผู้รับอาวัล (ประกัน) คมบางผู้สั่งจ่าย ตามมาตรา 921 หากเหลืองยื่นเช็คให้ธนาคารพิมพ์ไทยมหาชน จำกัดใช้เงิน แต่ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คดังกล่าวโดยให้เหตุผลว่าเงินในบัญชีของคมบางผู้สั่งจ่ายมีไม่พอจ่าย ดังนี้เหลืองจึงใช้สิทธิไล่เบี้ยให้ดอกดินรับผิดใช้เงินตามเช็คนี้ได้ในฐานะเป็นผู้รับอาวัล (ประกัน) คมบางผู้สั่งจ่าย ตามมาตรา 940 วรรคแรกประกอบมาตรา 989 วรรคแรก
สรุป เหลืองสามารถไล่เบี้ยดอกดินให้รับผิดใช้เงินตามเช็คได้
ข้อ 2
(ก) กรณีที่ “ผู้สั่งจ่ายเช็ค” ทำการระบุข้อความว่า “ห้ามเปลี่ยนมือ” ลงในเช็คจะมีผลในทางกฎหมายเป็นอย่างไร จงอธิบาย
(ข) นางสาวฟ้ารุ่งสั่งจ่ายเช็คเป็นเงินจำนวน 500,000 บาท ระบุให้ใช้เงินแก่นางสาวน้ำฝนและขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” ในเช็คออก พร้อมทั้งเขียนระบุข้อความว่า “A/C PAYEE ONLY” ลงที่ด้านหน้าเช็ค แล้วส่งมอบชำระหนี้ให้แก่นางสาวน้ำฝน ต่อมาหากนางสาวน้ำฝนต้องการจะโอนเช็คฉบับดังกล่าวชำระหนี้ให้แก่นายสายฟ้า จะต้องกระทำอย่างไรจึงจะชอบด้วยกฎหมาย
ธงคำตอบ
(ก) อธิบาย
ในกรณีที่ผู้สั่งจ่ายเช็คตั้งข้อจำกัดการโอนเช็ค โดยระบุข้อความว่า “ห้ามเปลี่ยนมือ” หรือ “เปลี่ยนมือไม่ได้” หรือคำอื่นอันได้ความทำนองเช่นเดียวกัน เช่น “ห้ามโอน” หรือ “ห้ามสลักหลังต่อ” หรือระบุความว่า “จ่ายให้นาย ก เท่านั้น” หรือ “จ่ายเข้าบัญชีผู้รับเงินเท่านั้น (A/C PAYEE ONLY หรือ ACCOUNT PAYEE ONLY) ย่อมมีผลเป็นการห้ามเปลี่ยนมือหรือห้ามโอนเช็คนั้นต่อไป กล่าวคือ
ผู้รับเงิน (ผู้ทรง) จะโอนเช็คนั้นต่อไปด้วยการสลักหลังและส่งมอบ ตามมาตรา 917 วรรคแรก ไม่ได้ แต่เช็คนั้นก็ยังโอนต่อไปอีกได้ตามแบบสามัญหรือตามหลักการโอนหนี้หรือสิทธิเรียกร้อง ตามมาตรา 306 กล่าวคือ ต้องทำเป็นหนังสือโอนหนี้ตามเช็คนั้นระหว่างผู้โอนกับผู้รับโอน และผู้โอนต้องบอกกล่าวการโอนเป็นหนังสือไปยังผู้สั่งจ่าย หรือให้ผู้สั่งจ่ายยินยอมด้วยโดยทำเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใด
(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 917 วรรคสอง เมื่อผู้สั่งจ่ายเขียนลงในด้านหน้าแห่งตั๋วแลกเงินว่า “เปลี่ยนมือไม่ได้” ดังนี้ก็ดี หรือเขียนคำอื่นอันได้ความเป็นทำนองเช่นเดียวกันนั้นก็ดี ท่านว่าตั๋วเงินนั้นย่อมจะโอนให้กันได้แต่โดยรูปการและด้วยผลอย่างการโอนสามัญ
มาตรา 989 วรรคแรก บทบัญญัติทั้งหลายในหมวด 2 อันว่าด้วยตั๋วแลกเงินดังจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านให้ยกมาบังคับในเรื่องเช็คเพียงเท่าที่ไม่ขัดกับสภาพแห่งตราสารชนิดนี้ คือบทมาตรา 910 914 ถึง 923
วินิจฉัย
จากข้อเท็จจริง เช็คฉบับดังกล่าวเป็นกรณีที่ผู้สั่งจ่าย คือ นางสาวฟ้ารุ่งสั่งจ่ายโดยตั้งข้อจำกัดการโอนไว้ตามมาตรา 917 วรรคสอง ประกอบมาตรา 989 วรรคแรก โดยคำว่า “A/C PAYEE ONLY” มีความหมายทำนองเดียวกับคำว่า “เปลี่ยนมือไม่ได้” นางสาวน้ำฝนจึงโอนเช็คนั้นต่อไปด้วยการสลักหลังและส่งมอบตามมาตรา 917 วรรคแรก ไม่ได้ แต่อย่างไรก็ดี หากนางสาวน้ำฝนต้องการจะโอนเช็คฉบับดังกล่าวเพื่อชำระหนี้ให้แก่นายสายฟ้าจะต้องโอนต่อไปโดยรูปแบบการโอนแบบการโอนหนี้สามัญ ตามมาตรา 306 มิใช่การโอนด้วยวิธีการโอนตั๋วเงินทั่วๆไป กล่าวคือ ต้องทำเป็นหนังสือและบอกกล่าวการโอนนั่นเอง
สรุป นางสาวน้ำฝนต้องโอนเช็คได้ด้วยรูปการโอนแบบการโอนหนี้สามัญ จึงจะชอบด้วยกฎหมาย
ข้อ 3
(ก) กฎหมายตั๋วเงินได้บัญญัติหลักเกณฑ์การจ่ายเงินตามเช็คที่มีการแก้ไขจำนวนเงินในเช็คไว้อย่างไร
(ข) เช็คพิพาทมีการแก้ไขจำนวนเงินจากน้อยไปมากได้อย่างแนบเนียนโดยผู้ทรงเช็ค ต่อมาธนาคารผู้จ่ายได้จ่ายเงินตามเช็คพิพาทไปโดยสุจริตและไม่ประมาทเลินเล่อ ดังนี้ ให้ท่านวินิจฉัยโดยอ้างอิงหลักกฎหมายว่าธนาคารจะหักบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของผู้สั่งจ่ายได้เพียงใดหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
(ก) ในกรณีที่มีการแก้ไขจำนวนเงินในเช็ค ซึ่งเป็นการแก้ไขข้อความสำคัญในตั๋วเงิน (มาตรา 1007 วรรคสาม) นั้น กฎหมายตั๋วเงินได้บัญญัติหลักเกณฑ์การจ่ายเงินไว้ 2 กรณี คือ
1.1 กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินเป็นประจักษ์ กล่าวคือ มองเห็นได้หรือมีการแก้ไขไม่แนบเนียนหรือเห็นเป็นประจักษ์นั่นเอง โดยมิได้รับความยินยอมจากคู่สัญญาทุกคนในตั๋วเงินนั้น ย่อมเป็นผลให้ตั๋วเงินนั้นเสียไป แต่ยังคงใช้ได้กับผู้ทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือผู้ที่ยินยอมด้วยกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลง และหรือผู้สลักหลังภายหลังการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้น (มาตรา 1007 วรรคแรก)
1.2 กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินไม่ประจักษ์ กล่าวคือ มองไม่เห็น หรือมีการแก้ไขอย่างแนบเนียน หรือไม่เห็นเป็นประจักษ์ และตั๋วเงินนั้นตกอยู่ในมือผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย กรณีย่อมเป็นผลให้ผู้ทรงที่ชอบด้วยกฎหมายนั้นสามารถจะเอาประโยชน์จากตั๋วเงินนั้นก็ได้ เสมือนว่าตั๋วเงินนั้นมิได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเลย และจะบังคับการใช้เงินตามตั๋วเงินนั้นตามเนื้อความเดิมก็ได้ (มาตรา 1007 วรรคสอง)
(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1007 วรรคสองและวรรคสาม แต่หากตั๋วเงินใดได้มีผู้แก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ แต่ความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ประจักษ์และตั๋วเงินนั้นตกอยู่ในมือผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายไซร้ ท่านว่าผู้ทรงคนนั้นจะเอาประโยชน์จากตั๋วเงินนั้นก็ได้เสมือนดังว่ามิได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเลย และจะบังคับการใช้เงินตามเนื้อความแห่งตั๋วนั้นก็ได้
กล่าวโดยเฉพาะ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านถือว่าเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ คือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างใดๆ แก่วันที่ลง จำนวนเงินอันจะพึงใช้ เวลาใช้เงิน สถานที่ใช้เงินกับทั้งเมื่อตั๋วเงินเขารับรองไว้ทั่วไปไม่เจาะจงสถานที่ใช้เงิน ไปเติมความระบุสถานที่ใช้เงินเข้าโดยที่ผู้รับรองมิได้ยินยอมด้วย
วินิจฉัย
กรณีตามอุทาหรณ์ การที่ผู้ทรงเช็คเป็นผู้แก้ไขจำนวนเงินในเช็คพิพาทจากน้อยไปมากเพียงใด ย่อมถือว่าเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นผู้ทรงซึ่งมิชอบด้วยกฎหมาย กรณีย่อมไม่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องจำนวนเงินในเช็คทั้งจำนวนที่แก้ไขใหม่ และจำนวนเงินเดิมก่อนการแก้ไข ตามนัยมาตรา 1007 วรรคสองและวรรคสาม ดังนั้นธนาคารจึงหักบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของผู้สั่งจ่ายไม่ได้ แม้ตามเนื้อความเดิม เนื่องจากเป็นผู้ทรงเช็คที่มิชอบด้วยกฎหมาย
สรุป ธนาคารหักบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของผู้สั่งจ่ายไม่ได้