การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2559
ข้อสอบกระบวนวิชา PHI 1001 วัฒนธรรมและศาสนา
คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)
1 วัฒนธรรมสําคัญอย่างไร
(1) ทําให้คนเป็นมนุษย์
(2) ดํารงเชื้อชาติ
(3) แสดงถึงความเจริญ
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 5, 12, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมมีความสําคัญ ดังนี้
1 ทําให้คนเป็นมนุษย์ เพื่อปกปิดสัญชาตญาณธรรมชาติ อันเป็นสัญชาตญาณดิบ เช่น ไม่กินทันทีแม้กระหายอยากจะกิน แต่ต้องรอให้ถึงเวลากิน และกินอย่างมีระเบียบตามรูปแบบแห่งวัฒนธรรม
2 ดํารงเชื้อชาติ โดยจะเป็นกระจกเงาที่ส่องความเป็นมาของชนชาตินั้น ๆ เช่น ชาวอิสราเอล รักษาวัฒนธรรมมากกว่า 3,000 ปี, ชาวมอญสืบต่อวัฒนธรรมมาเกือบพันปี, ชาวเขาดํารงพิธีกรรมความเชื่อมาหลายร้อยปี
3 แสดงถึงความเจริญของชาติ สัญลักษณ์ ภูมิปัญญา และวิถีชีวิตของคนในชาติ เป็นต้น
2 ข้อใดเป็นวัฒนธรรม
(1) แผ่นดินไหว
(2) คลื่นยักษ์ถล่มเมืองชายฝั่งทะเล
(3) ฝูงชนมาช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตจากภัยธรรมชาติ
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 3 หน้า 8 – 10, (คําบรรยาย) วัฒนธรรม หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ที่อยู่รวมกันในรูปขององค์กรทางสังคมสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้ดํารงชีวิตอยู่ร่วมกันได้ หรือหมายถึง วิถีชีวิตความ เจริญงอกงาม มรดกแห่งสังคม หรือการกระทําใด ๆ ของมนุษย์ในส่วนรวม ถ่ายทอดกันได้ เอาอย่างกันได้ เช่น การที่ฝูงชนมาช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตจากภัยธรรมชาติ การนับถอยหลังหรือ เคาท์ดาวน์ (Countdown) การสวดมนต์ข้ามปี การปล่อยโคมลอย การผลิตยารักษาโรค (เช่น ชาวเขากินฝันแก้ปวดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ, แพทย์ปัจจุบันใช้มอร์ฟีนระงับอาการปวดของคนไข้) อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ฯลฯ ซึ่งในวัฒนธรรมทุกชนชาตินั้นย่อม แสดงถึงสัญลักษณ์ ความเจริญ เอกลักษณ์และภูมิปัญญาของคนในชาตินั้น แต่วัฒนธรรมจะไม่รวมถึงสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ เห็นว่าเป็นสิ่งไม่ดี (เช่น นักวิทยาศาสตร์ผลิตยาบ้าเรืองแสงได้, การเล่นหวย) รวมทั้งพฤติกรรมที่เกิดจากสัญชาตญาณหรือพฤติกรรมตามธรรมชาติ (สัตว์และพืช) หรือสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น คนตาย ข้าวเปลือก อินทผลัม อูฐ วัว ควาย คลื่นยักษ์
แผ่นดินไหว ภูเขาไฟ เกาะ ทะเลทราย แม่น้ำ ถ้ำ ฯลฯ
3 ข้อใดไม่เป็นวัฒนธรรม
(1) ชาวเขากินฝิ่นแก้ปวดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
(2) แพทย์ปัจจุบันใช้มอร์ฟีนระงับอาการปวดของคนไข้
(3) นักวิทยาศาสตร์ผลิตยาบ้าเรืองแสงได้
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 2 ประกอบ
4 ข้อใดไม่ใช่วัฒนธรรมพื้นบ้าน
(1) การแสดงโขนหน้าพระเมรุ
(2) การรําถวายพระพรหมที่สี่แยกราชประสงค์
(3) การรําถวายพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร
(4) การแสดงละครชาตรีที่ศาลหลักเมือง
ตอบ 1 หน้า 61 – 62, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมท้องถิ่นหรือวัฒนธรรมพื้นบ้านแต่ละภาค มีดังนี้
1 ภาคเหนือ เช่น การแอ่วสาว การไหว้ผี การผูกข้อมือ การจุดโคมลอย การประดับตุง เรือนกาแล ฯลฯ
2 ภาคกลาง เช่น เพลงกล่อมเด็ก เพลงลูกทุ่ง เพลงอีแซว เพลงรําวง นิทานพื้นบ้าน ลิเก ลําตัด รํากลองยาว การรําถวาย พระพรหมที่สี่แยกราชประสงค์, พระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร) การแสดงละครชาตรีที่ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ฯลฯ
3 ภาคอีสาน เช่น การผิดผี การไหว้ผีปู่ตา การรําผีฟ้า รําซิ่ง การไล่ผีปอบ การแห่ผีตาโขน การแห่บั้งไฟ ผ้าไหมแพรวา ฯลฯ
4 ภาคใต้ เช่น ประเพณีเพลงบอก การสวดโอ้เอ้วิหารราย หนังตะลุง ลิเกป่า ลิเกตันหยงรํามโนราห์ ฯลฯ
5 ข้อใดเป็นวัฒนธรรมหลวง
(1) การขับร้องเห่เรือสุพรรณหงส์
(2) การร้องขับเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน
(3) ประชาชนพร้อมใจจุดเทียนถวายพระพรในหลวงคืนวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 1 หน้า 180 – 182, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมหลวง ได้แก่ พิธีแรกนาขวัญ (พิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ) พิธีโล้ชิงช้า การแสดงโขนหน้าพระเมรุ การขับร้องเห่เรือสุพรรณหงส์ เพลงสรรเสริญพระบารมี การอภัยโทษ การพระราชทานเพลิงศพ พิธีสมรสพระราชทาน เป็นต้น
6 เทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ข้อใดไม่เป็นวัฒนธรรม
(1) Countdown
(2) สวดมนต์ข้ามปี
(3) ปล่อยโคมลอย
(4) ซื้อหวยเลขท้าย ปี พ.ศ.
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 2 ประกอบ
- วัฒนธรรมสหธรรม ประเทศที่จะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกครั้งต่อไปคือ
(1) จีน
(2) ญี่ปุ่น
(3) อินเดีย
(4) ออสเตรเลีย
ตอบ 2 หน้า 125, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมสหธรรม เป็นวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับสังคมส่วนรวม ครอบครัวสาธารณชนและประเทศชาติ ได้แก่ ขนบธรรมเนียมประเพณี การละเล่นท้องถิ่น การแข่งขัน กีฬา และจรรยามารยาทหรือกิริยามารยาทต่าง ๆ ในสังคม เช่น การเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก ครั้งต่อไปที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020), การเดินทางไปท่องเที่ยว,การประกวดต่าง ๆ, การเป็นประเทศในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ฯลฯ
8 วัฒนธรรมสหธรรม ได้แก่
(1) การเดินทางท่องเที่ยว
(2) การแข่งขันกีฬา
(3) การประกวดต่าง ๆ
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 7. ประกอบ
9 เอกลักษณ์ไทย ได้แก่
(1) รักในหลวง
(2) ไม่เป็นไร-ให้อภัย
(3) เมตตาอารี-ช่วยเหลือ
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 63 – 64, 67 – 68, (คําบรรยาย) ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของคนไทย ได้แก่ เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ รักพระเจ้าอยู่หัว (ในหลวง) สุภาพอ่อนน้อม ยิ้มแย้มเป็นมิตร ยิ้มสู้ ยิ้มได้เมื่อภัยมา มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ใจบุญ เมตตากรุณา โอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก สนุกสนาน ลืมง่าย มักให้อภัยเสมอ โกรธไม่นาน ซึ่งคนไทยให้อภัยจนชอบพูดติดปากเสมอว่า “ไม่เป็นไร”
- สัญลักษณ์ไทย ได้แก่
(1) ธงไตรรงค์
(2) ตราครุฑ
(3) พระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง
4 ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 (คําบรรยาย) สัญลักษณ์ของประเทศไทย ได้แก่
1 ธงไตรรงค์ (ธงชาติไทย)
2 ตราครุฑ
3 พระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง
4 เรือสุพรรณหงส์
5 ศาลาไทย
6 ช้างไทย
7 อักษรไทย เป็นต้น
11 ข้อใดจัดเป็นการผสมผสานทางวัฒนธรรม
(1) พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท อาคารเป็นตึกปูนหลังคาปราสาท
(2) พระที่นั่งอนันตสมาคม สถาปัตยกรรมยุโรปสร้างด้วยหินอ่อนอิตาลี
(3) อนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้า
(4) สนามแข่งม้า
ตอบ 1 หน้า 22, (คําบรรยาย) การผสมผสานทางวัฒนธรรม (Acculturation) เป็นวิธีการที่รับเอาวัฒนธรรมของสังคมอื่นมาปฏิบัติ เช่น พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2419 ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมไทยกับสถาปัตยกรรม ยุโรป โดยตัวอาคารเป็นตึกปูนมีรูปแบบสถาปัตยกรรมยุโรป แต่หลังคาปราสาทเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมไทย จนเป็นที่มาของชื่อ “ฝรั่งสวมชฎา” เป็นต้น
12 วัฒนธรรมพื้นบ้านภาคกลาง
(1) เพลงลูกทุ่ง
(2) เพลงอีแซว
(3) เพลงรําวง
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 4 ประกอบ
13 วัฒนธรรมความเชื่อภาคอีสาน ข้อใดไม่ใช่
(1) ผีฟ้า
(2) ผีปอบ
(3) ผีกระสือ
(4) ผีตาโขน
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 4 ประกอบ
- ดินแดนเดิมของอาณาจักรทวาราวดี ได้แก่จังหวัดใด
(1) ราชบุรี
(2) เพชรบุรี
(3) สระบุรี
(4) จันทบุรี
ตอบ 1 หน้า 72 – 73 อาณาจักรทวาราวดี เป็นอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองทางอารยธรรมและวัฒนธรรมอย่างสูงในบริเวณภาคกลางของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันได้แก่ บริเวณจังหวัดนครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และดินแดนแถบลุ่มแม่น้ําแม่กลอง ไทรโยค แควใหญ่ และแควน้อย โดยชนชาติมอญครอบครองอาณาจักรนี้มาช้านาน ต่อมาเมื่ออาณาจักรทวาราวดีอ่อนแอลงจึง ได้ผนวกเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรไทยและมีการผสมกลมกลืนของวัฒนธรรม โดยส่วนใหญ่ แล้ววัฒนธรรมของอาณาจักรทวาราวดีนั้นได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมอินเดีย ซึ่งที่สําคัญคือการรับคติความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์และพุทธ
15 ชนชาติใดครอบครองอาณาจักรทวาราวดีเดิม
(1) ขอม
(2) มอญ
(3) พม่า
(4) ลาว
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 14 ประกอบ
16 เทศกาล “กินเจ-แห่เจ้า” ที่มีชื่อเสียงมากอยู่ที่จังหวัด
(1) ภูเก็ต
(2) เชียงใหม่
(3) นครราชสีมา
(4) นครศรีธรรมราช
ตอบ 1 (คําบรรยาย) เทศกาล “กินเจและแห่เจ้า” เป็นประเพณีที่มีชื่อเสียงมากของจังหวัดภูเก็ตซึ่งจะตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ ตามปฏิทินจีนของทุก ๆ ปี โดยจะจัดขึ้นเป็นเวลาทั้งสิ้น 9 วัน เพื่อเป็นการชําระล้างบาปเคราะห์ ละเว้นจากการละเมิดศีลห้า รักษากายวาจาใจให้บริสุทธิ์สะอาด
17 วัฒนธรรมท้องถิ่นที่ถูกควบคุมความปลอดภัย ได้แก่
(1) การปล่อยโคมลอย
(2) การยิงบั้งไฟ
(3) การจุดประทัดไฟพะเนียงวันลอยกระทง
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 (คําบรรยาย) วัฒนธรรมท้องถิ่นที่ถูกควบคุมความปลอดภัย ได้แก่
1 การปล่อยโคมลอยและโคมควัน
2 การยิงบั้งไฟ
3 การจุดพลุ ตะไล ประทัด ไฟพะเนียง หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ฯลฯ
18 วรรณกรรมใดอยู่ในปัญญาสชาดก
(1) สังข์ทอง
(2) อิเหนา
(3) พระอภัยมณี
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 1 หน้า 78 – 81 ปัญญาสชาดก ชาดก 50 เรื่อง คือ วรรณกรรมพุทธศาสนานอกพระไตรปิฎกในสมัยอาณาจักรล้านนา ซึ่งถือเป็นต้นกําเนิดของวรรณคดีไทยหลายเรื่อง เช่น สุธนชาดก (พระสุธน-มโนราห์), รถเสนชาดก (พระรถเสน-เมรี-นางสิบสอง) และสุวัณณสังขชาดก(สังข์ทอง-รจนา) เป็นต้น ส่วนอิเหนาและพระอภัยมณี เป็นวรรณกรรมในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์)
19 วรรณกรรมใดที่แสดงถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน ขุนนาง และทหาร
(1) ขุนช้าง-ขุนแผน
(2) อิเหนา
(3) พระอภัยมณี
(4) สามก๊ก
ตอบ 1 หน้า 89, (คําบรรยาย) “ขุนช้างขุนแผน” เป็นวรรณกรรมไทยในสมัยอาณาจักรอยุธยาที่แสดงถึงวัฒนธรรมความเชื่อในเรื่องผีสางเทวดา (ผีนางตะเคียน, ผีนางตานี, กุมารทอง, เปรต นางวันทอง) ไสยศาสตร์ (เวทมนตร์, คาถา, การทําเสน่ห์, การเปลี่ยนชื่อสะเดาะเคราะห์) คติความเชื่อของศาสนาพุทธและพราหมณ์ เป็นวรรณกรรมที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นวรรณคดี อมตะที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตระดับสังคมชาวบ้านพื้น ๆ ที่มีฐานะปานกลาง ชีวิตของขุนนาง และทหาร สภาพสังคม การปกครอง วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวไทยในสมัยอยุธยาทุกแง่ทุกมุม
- วรรณกรรมใดที่มีเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับผีเวทมนตร์คาถา
(1) ขุนช้าง-ขุนแผน
(2) อิเหนา
(3) พระอภัยมณี
(4) สามก๊ก
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 19 ประกอบ
21 วัฒนธรรมมอญเข้ามาในเมืองไทยมากในสมัยรัชกาลที่
(1) รัชกาลที่ 1
(2) รัชกาลที่ 2
(3) รัชกาลที่ 4
(4) รัชกาลที่ 5
ตอบ 3 หน้า 92 ในสมัยรัชกาลที่ 4 (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) วัฒนธรรมทางศาสนาของไทยได้รับอิทธิพลจากพระสงฆ์ชาวมอญมาก รวมทั้งวัฒนธรรมด้านขนบธรรมเนียมประเพณีพิธีหลวง พิธีในราชสํานัก และโหราศาสตร์ก็ได้รับอิทธิพลจากคติความเชื่อของชนชาติมอญมาก
22 สัญลักษณ์ที่สื่อถึงวัฒนธรรมมอญคือ
(1) ครุฑ
(2) นาค
(3) หงส์
(4) สิงโต
ตอบ 3 หน้า 67 ในสมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศาสนานิกายธรรมยุตินิกายของชาวมอญได้เข้ามามีอิทธิพลในเมืองไทยอย่างมาก เช่น มีการสวดมนต์ปัดรังควานในพระบรมมหาราชวังทุก 7 วัน มีพิธี ทําน้ำมนต์ร้อยปี การสร้างหงส์ประดับตกแต่งในเจดีย์และพระราชวัง ราชบัลลังก์ ฯลฯ
- การแต่งกายและทรงผมของวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาเมืองไทยเริ่มมากขึ้น โดยทรงสนับสนุนส่งเสริม
(1) รัชกาลที่ 1
(2) รัชกาลที่ 3
(3) รัชกาลที่ 5
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 3 หน้า 92 – 93, 186, (คําบรรยาย) รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงพระปรีชาสามารถอย่างสูงในการนําประเทศให้อยู่รอดปลอดภัยจนได้รับการยกย่องให้เป็นพระปิยะมหาราช ทรงสนับสนุนส่งเสริม ปรับปรุง แก้ไขวัฒนธรรมบางอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่าไทยคืออารยประเทศ หลังจากที่พระองค์เสด็จกลับจากประพาสประเทศต่าง ๆ ในตะวันตกหรือยุโรปแล้ว โดยพระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงและยกเลิกครั้งสําคัญ คือ การเลิกทาส การแต่งกาย ทรงผม และพิธีการเข้าเฝ้า
- ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา นายบารัก โอบามา ชื่นชมวัดของไทยจึงมาเยี่ยมชมวัด….
(1) วัดพระแก้ว
(2) วัดอรุณฯ
(3) วัดโพธิ์
(4) วัดธรรมกาย
ตอบ 3 (คําบรรยาย) นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ได้นําคณะเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 18 – 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ในโอกาสครบรอบ 180 ปี ของมิตรภาพระหว่างสหรัฐอเมริกาและราชอาณาจักรไทย ซึ่งในโอกาสดังกล่าวนายบารัก ได้เดินทางไปที่วัดเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ “วัดโพธิ์” เพื่อเยี่ยมชมภายในวัด โดยได้กล่าวชื่นชมว่าวัดโพธิ์เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ และเขาโชคดีแล้วที่ได้มาเยี่ยมชมวัดโพธิ์เป็นการส่วนตัว
25 ชาวอินเดียมักถูกคนไทยเรียกว่า
(1) แขก
(2) ชาวฮินดู
(3) ชาวภารตะ
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 1 หน้า 23, (คําบรรยาย) ประเทศอินเดียแต่เดิมมีชื่อเรียกว่า “ชมพูทวีป” ซึ่งแปลว่า ประเทศหรือดินแดนแห่งต้นหว้า (หรือภารตวรรษหรือดินแดนภารตะ) ซึ่งคําว่า “ชมพู” นั้นได้มาจาก เนื้อในของลูกหว้าที่มีสีชมพู โดยชาวอินเดียมักถูกเรียกว่า “ชาวฮินดูหรือชาวภารตะ” แต่คนไทยมักจะเรียกชาวอินเดียว่า “แขก”
26 ประเทศใดที่ไม่ได้แบ่งแยกดินแดนมาจากดินแดนเดิมของประเทศอินเดีย (1) ทิเบต
(2) ปากีสถาน
(3) อัฟกานิสถาน
(4) บังกลาเทศ
ตอบ 1 หน้า 23, (คําบรรยาย) ประเทศที่แบ่งแยกดินแดนมาจากดินแดนเดิมของประเทศอินเดียได้แก่ ปากีสถาน อัฟกานิสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา เนปาล เป็นต้น
27 ชาวอินเดียมีชนเผ่ามาก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมจึงมีมากที่สุดในโลก
(1) ภาษา
(2) เครื่องดนตรี
(3) พันธุ์ข้าว
(4) รถยนต์หลายยี่ห้อ
ตอบ 1 หน้า 23, (คําบรรยาย) ชาวอินเดียประกอบด้วยชนหลายเผ่าพันธุ์ หลายความเชื่อ และมีภาษาหลายร้อยภาษา ซึ่งนับเป็นประเทศที่มีภาษามากที่สุดในโลก ด้วยเหตุนี้จึงทําให้ วัฒนธรรมอินเดียมีความหลากหลายและมีวัฒนธรรมแยกย่อยไปตามกลุ่มชน เผ่า ภาษาและความเชื่อต่าง ๆ มากมาย
28 ประเทศที่ได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมอินเดีย ได้แก่
(1) สิงคโปร์
(2) มาเลเซีย
(3) อินโดนีเซีย
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 23, 51, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมอินเดียมีอิทธิพลครอบคลุมและเป็นแม่แบบวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆ ในทวีปเอเชีย ได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า มอญ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน ทิเบต ญี่ปุ่น เป็นต้น โดยวัฒนธรรมอินเดียนั้นจะเข้ามามีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมชาติต่าง ๆ โดยผ่านทางศาสนามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อ พิธีกรรม การบูชาเทพเจ้า และอื่น ๆ
- ความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมอินเดีย ได้แก่
(1) ศิลปะ
(2) ประเพณี
(3) อาหาร
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 23 – 24, (คําบรรยาย) รากฐานที่มาแห่งวัฒนธรรมอินเดียส่วนใหญ่มาจากความเชื่อทางลัทธิศาสนาเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ซึ่งเป็นศาสนาเก่าแก่ คู่มากับประวัติศาสตร์ชนชาติอินเดีย แม้ว่าในสมัยหลังจะมีอิทธิพลของศาสนาอื่น ๆ และ วัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาในอินเดีย แต่วัฒนธรรมดั้งเดิมที่มาจากรากฐานแห่งความเชื่อของ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ก็ยังไม่เสื่อมคลายไปจากสังคมของชนชาตินี้ โดยสามารถเห็นได้จากวิถีชีวิตความเป็นอยู่ อาหารการบริโภค ประเพณี ตลอดจนผลงานทางศิลปะต่าง ๆ
30 ความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมไทย ได้แก่
(1) ศิลปะ
(2) ประเพณี
(3) อาหาร
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 59, (คําบรรยาย) อิทธิพลความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูที่มีต่อวัฒนธรรมไทยได้แก่ อาหาร ภาษา ที่อยู่อาศัย ความเชื่อ พีธีกรรม การบูชาเทพเจ้า ประเพณี ศิลปะการละเล่นและเทศกาลต่าง ๆ เป็นต้น
31 ชาวฮินดูวรรณะจัณฑาลทํางานใดไม่ได้ในร้านอาหาร
(1) คนเสิร์ฟอาหาร
(2) คนล้างจาน
(3) คนเช็ดโต๊ะอาหาร
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 24, 31, 267, (คําบรรยาย) ชาวฮินดูวรรณะจัณฑาล เกิดจากการแต่งงานกันของคนวรรณะสูงกับคนวรรณะต่ำ เป็นพวกที่ถูกดูถูกเหยียดหยามและรังเกียจของคนทั่วไป ซึ่งอาชีพที่พวกนี้ทํามักเป็นอาชีพที่ต่ำ ลําบาก และคนทั่วไปไม่อยากจะทํากัน เช่น กวาดถนน เก็บขยะ ล้างส้วม สัปเหร่อ ดูแลป่าช้า เก็บศพ แบกศพ ขุดหลุมศพ ฝังศพ เผาศพ เก็บเถ้ากระดูก ขอทาน เป็นต้น (ส่วนอาชีพกรรมกร คนรับใช้ ผู้ใช้แรงงาน ลูกจ้าง คนเสิร์ฟอาหาร คนล้างจาน คนเช็ดโต๊ะอาหาร ฯลฯ มักเป็นอาชีพของวรรณะศูทร)
32 ชาวฮินดูวรรณะศูทรทํางานใดได้ในร้านอาหาร
(1) คนเสิร์ฟอาหาร
(2) คนล้างจาน
(3) คนเช็ดโต๊ะอาหาร
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 31 ประกอบ
33 พิธีทําศพเด็กของชาวฮินดูโดยทั่วไปจะ
(1) เผา
(2) ฝัง
(3) ทิ้งถ่วงน้ำในแม่น้ำ
(4) ให้แร้งกิน
ตอบ 3 หน้า 31 วัฒนธรรมการทําศพเด็กของชาวฮินดูนั้น พ่อแม่จะไม่นิยมเผา แต่จะนําผ้าขาวมาพันหรือห่อศพแล้วใส่เรือไปทิ้งกลางแม่น้ำ โดยใช้หินถ่วงศพให้จมลงสู่ก้นแม่น้ำคงคา ซึ่งวิธีนี้ นอกจากจะใช้กับศพที่เป็นเด็กอายุน้อยแล้วยังใช้กับศพที่ยากจนไม่มีเงินพอที่จะซื้อถ่านหรือพื้นที่มีราคาแพงมาเผาศพได้
34 การเลี้ยงอาหารตามวัฒนธรรมชาวฮินดู ถ้าเสิร์ฟ แสดงว่างานสิ้นสุด
(1) โยเกิร์ต
(2) กาแฟ
(3) หมาก
(4) ผลไม้
ตอบ 3 หน้า 34 – 35 ธรรมเนียมปฏิบัติในการรับประทานอาหารในครอบครัวอินเดีย จะรับประทานพร้อมกันทั้งครอบครัว เมื่อรับประทานเสร็จล้างมือแล้วมักจะเคี้ยวหมากล้างปาก ซึ่งในการ เลี้ยงอาหารต่าง ๆ ของอินเดีย เมื่อมีการนําถาดใส่หมากพลูมาเสิร์ฟ ก็แสดงว่าการรับประทาน อาหารสิ้นสุดลงแล้ว
35 ประธานาธิบดีของจีนคนปัจจุบันคือ การประกอบอาหาร
(1) หลี ผิง
(2) สี จิ้นผิง
(3) หู จิ่นเทา
(4) เจียง เจ๋อหมิง
ตอบ 2 (คําบรรยาย) ประธานาธิบดีของจีนคนปัจจุบัน คือ นายสี จิ้นผิง (Xi Jinping) ซึ่งปัจจุบันเขายังดํารงตําแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน, ประธานคณะกรรมาธิการกลางการทหาร, อธิการบดีโรงเรียนพรรคกลาง และดํารงตําแหน่งเป็นสมาชิกระดับสูงสุดของสํานักงานเลขาธิการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน
36 บรรพบุรุษจีนมีลักษณะนิสัยเป็นอัตลักษณ์ ข้อใดไม่ใช่
(1) ขยัน
(2) รักการค้า
(3) ให้อภัยศัตรู
(4) กตัญญู
ตอบ 3 หน้า 38 บรรพบุรุษของชาวจีนมีลักษณะนิสัยเป็นอัตลักษณ์ของชนชาติ ได้แก่ มีนิสัยกตัญญูชอบทําการค้า ขยันขันแข็ง มานะอดทน เป็นนักการค้าที่เก่งและมีวัฒนธรรมในการค้าขาย คือ สุภาพอ่อนน้อมต่อลูกค้า นอกจากนี้ยังมีคตินิยมในการดํารงชีวิตเป็นลักษณะเฉพาะของตน มีปรัชญาและความเชื่อของตนเอง มีระเบียบวินัย ขนบธรรมเนียมประเพณี และพิธีกรรมต่าง ๆมานานหลายพันปี
37 “น้ำชา” เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตชาวจีนในเรื่องใด
(1) เซ่นไหว้
(2) แต่งงาน
(3) อวยพร
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 45, 172, (คําบรรยาย) ในประเทศจีน “น้ำชา” ถือเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจําวัน และมีความสําคัญต่อวิถีชีวิตของชาวจีน โดยในวัฒนธรรมจีนนั้นจะใช้น้ำชา ในงานพิธีต่าง ๆ เช่น พิธีแต่งงาน การอวยพรของผู้ใหญ่ การเซ่นไหว้เจ้าในวันตรุษจีน เทศกาลเชงเม้ง เป็นต้น
38 ข้อใดแสดงถึงความกตัญญของชาวจีน
(1) ตรุษจีน
(2) เชงเม้ง
(3) สารทจีน
(4 ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 44, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมทางจิตใจที่แสดงถึงความกตัญญของชาวจีน เช่น เทศกาลตรุษจีน เชงเม้ง สารทจีน พิธีกงเต็ก เป็นต้น
39 ข้อใดแสดงถึงความเชื่อเรื่องผีสาง-เทวดาของชาวจีน
(1) เชงเม้ง
(2) พิธีล้างป่าช้า
(3) ศาลเจ้าพ่อเสือ
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 38 – 40, (คําบรรยาย) ชาวจีนมีความเชื่อแบบวิญญาณนิยม (Animism) นับถือผีสางเทวดาวิญญาณบรรพบุรุษ วิญญาณวีรชนหรือวีรบุรุษและสัตว์ต่าง ๆ ได้แก่ การเซ่นไหว้วันตรุษจีน สารทจีน เชงเม้ง พิธีล้างป่าช้า การสร้างศาลเจ้าพ่อเสือ ศาลเจ้าพ่อกวนอู ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวศาลเจ้าแม่ทับทิม ซำปอกง ฯลฯ
40 ชาวจีนตั้งรกรากได้มั่นคง มั่งคั่ง ณ ที่ใดก็จะสร้างในชุมชนชาวจีน
(1) โรงจำนำ
(2) โรงน้ำชา
(3) โรงเจ
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 41, (คําบรรยาย) เมื่อชาวจีนตั้งถิ่นฐานได้มั่นคง มั่งคั่งเป็นชุมชนชาวจีนขึ้นมาไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใดในโลก สิ่งแรกที่ชาวจีนจะสร้าง คือ ศาลเจ้า จากนั้นก็จะมีสุสานบรรพบุรุษ โรงเจ(โรงทาน) โรงรับจํานํา โรงงิ้ว และโรงน้ำชา เป็นต้น
41 วรรณกรรมอมตะเรื่อง “ไซอิ๋ว” เกี่ยวข้องกับศาสนา
(1) เต่า
(2) ขงจื้อ
(3) พุทธ
(4) ชินโต
ตอบ 3 หน้า 39 เมื่อพุทธศาสนานิกายมหายานเผยแผ่เข้ามาในประเทศจีน ความเชื่อในเรื่องพระโพธิสัตว์ก็เข้ามามีอิทธิพลต่อความเชื่อดั้งเดิมของชาวจีน เกิดการผสมผสานจนกลายเป็นความเชื่อเรื่อง ปีศาจ ผีสาง เทวดา เซียนเพิ่มขึ้นมา ทําให้เกิดตํานานเทพนิยาย และนิทานพื้นเมืองเกี่ยวกับความเชื่อดังกล่าวมากมายซึ่งที่รู้จักกันทั่วไปได้แก่ ตํานานเรื่อง “ไซอิ๋ว”
42 ชาวจีนจะเชิดสิงโตในงานต่าง ๆ ยกเว้น
(1) แต่งงาน
(2) เปิดร้าน กิจการค้า
(3) พิธีกงเต็ก
(4) วันคล้ายวันเกิดแซยิด
ตอบ 3 หน้า 40 – 41, (คําบรรยาย) ชาวจีนมีประเพณีการเชิดสิงโตในงานฉลองรื่นเริงมงคลต่าง ๆเช่น เทศกาลตรุษจีน สารทจีน งานวันเกิด งานวันแซยิด (ครบรอบอายุ 60 ปี) งานแต่งงาน งานเปิด ร้านค้ากิจการใหม่ เป็นต้น (ส่วนเทศกาลเชงเม้ง พิธีล้างป่าช้า พิธีกงเต็ก และงานทิ้งกระจาดจะไม่มีการเชิดสิงโต)
43 ข้อใดเป็นการแสดงถึงความนับถือวีรบุรุษผู้เป็นบรรพชน
(1) ศาลเจ้าพ่อกวนอู
(2) ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
(3) ซําปอกง
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 39 ประกอบ
44 “มังกร” เกี่ยวข้องกับ…ในวัฒนธรรมจีน
(1) ฮ่องเต้
(2) เจ้าแม่กวนอิม
(3) แม่น้ำฮวงโห
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 40 ชาวจีนมีความเชื่อว่า มังกรเป็นเทพเจ้า เป็นพาหนะของเจ้าแม่กวนอิม และยังเชื่อว่าการที่น้ำในแม่น้ำฮวงโหไหลบ่าท่วมท้นเป็นเพราะมังกรพิโรธ นอกจากนี้ชาวจีนยังนํามังกรมาเป็นสัญลักษณ์แห่งฮ่องเต้ เช่น ประเพณีสําคัญที่ยิ่งเต้ต้องสวมเสื้อคลุมปักเป็นรูปมังกร เรียกว่า“เสื้อลายมังกร” ในวันที่ทําพิธีราชาภิเษกขึ้นครองราชย์ และประทับนั่งบนบัลลังก์มังกรด้วย
45 กลุ่มกรีนพีซ (Greenpeace) ต่อต้านการล่าวาฬของชาว
(1) จีน
(2) ญี่ปุ่น
(3) เกาหลี
(4) เวียดนาม
ตอบ 2 (ความรู้ทั่วไป) กลุ่มกรีนพีซ (Greenpeace) เป็นองค์การสาธารณประโยชน์นานาชาติที่ดําเนินการด้านสิ่งแวดล้อมและสันติภาพ โดยมีสํานักงานประจําประเทศและภูมิภาคอยู่ใน 41 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในปัจจุบันพบว่าประเด็นที่กลุ่มกรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กําลังดําเนิน การรณรงค์ต่อต้าน ได้แก่ การต่อต้านการล่าวาฬของชาวญี่ปุ่น, การต่อต้านการล่าปลาฉลามและการกินอุ้งตีนหมีของชาวจีน, การต่อต้านการกินเนื้อสุนัขของชาวเวียดนาม ฯลฯ
46 กลุ่มกรีนพีซ (Greenpeace) ต่อต้านการล่าปลาฉลามของชาว
(1) จีน
(2) ญี่ปุ่น
(3) เกาหลี
(4) เวียดนาม
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 45 ประกอบ
47 กลุ่มกรีนพีซ (Greenpeace) ต่อต้านการกินอุ้งตีนหมีของชาว
(1) จีน
(2) ญี่ปุ่น
(3) เกาหลี
(4) เวียดนาม
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 45 ประกอบ
48 กลุ่มกรีนพีซ (Greenpeace) ต่อต้านการกินเนื้อสุนัขของชาว
(1) จีน
(2) ญี่ปุ่น
(3) เกาหลี
(4) เวียดนาม
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 45 ประกอบ
49 ประเทศที่มีประชากรสูงอายุมากที่สุดคือ
(1) จีน
(2) ญี่ปุ่น
(3) เกาหลี
(4) เวียดนาม
ตอบ 2 (ความรู้ทั่วไป) ในกลุ่มอาเซียน (อาเซียน +3) ประเทศที่มีประชากรอายุยืนมากที่สุด คือ ญี่ปุ่น โดยคนญี่ปุ่นจะมีอายุขัยเฉลี่ยถึง 82 ปี ซึ่งถือว่ามีอายุยืนยาวมากที่สุดในโลก และนับเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีสัดส่วนของผู้สูงอายุมากที่สุดในโลกอีกด้วย
50 ประเทศที่มีประชากรเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศมากที่สุดคือ
(1) จีน
(2) ญี่ปุ่น
(3) เกาหลี
(4) เวียดนาม
ตอบ 1 (คําบรรยาย) จีน เป็นประเทศที่มีประชากรเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศมากที่สุดปีละกว่า 200 ล้านคน ส่วนประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศมากที่สุดคือ ฝรั่งเศส ซึ่งมีจํานวนมากถึง 83.7 ล้านคนต่อปี
51 ลักษณะเฉพาะเป็นอัตลักษณ์ของชาวญี่ปุ่น ข้อใดไม่ใช่
(1) ชาตินิยมมากที่สุดชาติหนึ่งในโลก
(2) มีภัยธรรมชาติมากจนชาวญี่ปุ่นท้อแท้
(3) มีความสามารถทําการประมงเก่งมาก
(4) เจริญทางเทคโนโลยีหุ่นยนต์สูงมาก
ตอบ 2 หน้า 48, (คําบรรยาย) ลักษณะเฉพาะซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของชาวญี่ปุ่น ได้แก่
1 มีความเป็นชาตินิยมสูงมากที่สุดชาติหนึ่งในโลก
2 มีความสามารถทําการประมงเก่งมาก
3 มีความเจริญทางเทคโนโลยีหุ่นยนต์สูงมาก
4 ประสบภัยธรรมชาติมากจนทําให้ชาวญี่ปุ่นเป็นคนทรหดอดทน ต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ อย่างจริงจัง เป็นต้น
52 ชาวญี่ปุ่นมีตํานานความเชื่อว่าจักรพรรดิองค์แรกมาจุติโดยนําของวิเศษมาด้วย ข้อใดไม่ใช่
(1) ดวงแก้ว
(2) ดาบ
(3) หน้ากากทองคํา
(4) กระจก
ตอบ 3 หน้า 49, 235 ชาวญี่ปุ่นมีตํานานเชื่อว่าจักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่น ก็คือ สมเด็จพระจักรพรรดิยิมมูหรือยิมมูเทนโน ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากสุริยเทพอะมะเตระสุ โดยจุติที่เกาะคิวชูพร้อมกับเพชร 1 เม็ด (หรือดวงแก้ว) ดาบ และกระจกเป็นของวิเศษสําคัญประจําตัวติดตัวมาจากสวรรค์ด้วย
53 ศาลเจ้าญี่ปุ่นที่ทางเข้าจะมีประตูเสาไม้ทาสีแดงอยู่ 2 ข้าง เรียกว่า โทริ คือ
(1) ประตูสวรรค์
(2) ประตูวิญญาณ
(3) ประตูเทพ
(4) ประตูโชคลาภ
ตอบ 2 หน้า 240 – 241, (คําบรรยาย) ตามศาสนสถานของศาสนาชินโตนั้น ก่อนจะถึงบริเวณของศาลเจ้าญี่ปุ่นที่ทางเข้าจะมีการสร้างประตูขึ้นเป็นสัญลักษณ์ เรียกว่า “โทริ” (TORI) อันถือว่าเป็น ประตูวิญญาณ โดยประตูนี้สร้างขึ้นเป็นรูปประตูประกอบจากเสาไม้ 2 ข้าง และมีไม้ 2 อันวางขวางอยู่ข้างบน และมักจะทาสีแดง
54 วัฒนธรรมคติธรรมญี่ปุ่น ข้อใดไม่ใช่
(1) ถึงอดโซก็โซอย่างเสือ
(2) น้ำร้อนปลาเป็นน้ำเย็นปลาตาย
(3) ถึงเน่าก็เน่าอย่างปลากะพง
(4) ใช้กุ้งตกปลากะพง
ตอบ 2 หน้า 55 – 56 ชาวญี่ปุ่นนิยมกินปลาซีบรีม ซึ่งเป็นปลาที่มีลักษณะคล้ายปลากะพงแดงมากโดยปลานี้จะมีสีสดใส มีรสเป็นเลิศ ชาวญี่ปุ่นจึงยกให้เป็นราชาแห่งปลา และมีความเชื่อว่าเป็นปลามงคลล้ำค่า ขาดไม่ได้ในงานมงคลต่าง ๆ เป็นปลาที่นิยมกินกันมากที่สุดตั้งแต่สมัยโบราณ จนมีคติธรรมหรือคําพังเพยเปรียบเทียบเกี่ยวกับปลาชนิดนี้ว่า “ถึงเน่าก็เน่าอย่างปลากะพง” คือ ถึงอดโซกโซอย่างเสือ และ “ใช้กุ้งตกปลากะพง” คือ ยอมเสียกําเพื่อเอากอบ
55 ลัทธิบูชิโดมีอิทธิพลต่อข้อใดน้อยที่สุด
(1) ฮาราคีรี
(2) นินจา
(3) ยากูซ่า
(4) กามิกาเซ่
ตอบ 2 หน้า 51, (คําบรรยาย) อิทธิพลของลัทธิบูชิโดที่มีต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่น ได้แก่
1 วิถีทางแห่งนักรบซามูไร คือ “ยอมตายอย่างมีเกียรติดีกว่าอยู่อย่างไร้เกียรติ”
2 พิธีกรรมฆ่าตัวตายที่เรียกว่า “ฮาราคีรี”
3 การสละชีวิตตนเองของนักบินโดยการ ขับเครื่องบินพุ่งชนฝ่ายตรงข้ามให้ระเบิดไปพร้อมกันที่เรียกว่า “กามิกาเซ่”
4 ซามูไรไร้สังกัด หรือโรนิน ได้พัฒนาการมาเป็น “ยากูซ่า” ในปัจจุบัน เป็นต้น ส่วน “นินจา” นั้นถือกําเนิดมาจากจีน ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 6 ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าถังไท้จงแห่งราชวงศ์ถังของจีน)
56 ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งของศาสนาชินโต
(1) พระโพธิสัตว์
(2) จักรพรรดิ
(3 เซียน
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 1 หน้า 52 วัฒนธรรมอินเดียเข้ามามีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่นโดยทางอ้อม โดยผ่านทางพุทธศาสนามหายานที่จีนและเกาหลีเผยแผ่มาสู่ชาวญี่ปุ่น ด้วยเหตุที่พระพุทธศาสนามีลักษณะไม่บังคับและยังปรับตัวให้เข้ากับลัทธิความเชื่อดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น พระในพุทธศาสนาก็ไปร่วมพิธีทางลัทธิชินโต จนต่อมาชาวญี่ปุ่นจํานวนมากนับถือว่าพระโพธิสัตว์เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งของศาสนาชินโต
57 ศิลปะของญี่ปุ่นที่ได้รับการยกย่องไปทั่วโลก ได้แก่
(1) หุ่นยนต์ (Robot)
(2) ทําดาบซามูไร
(3) จัดสวน
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 53 – 55, (คําบรรยาย) ศิลปะของญี่ปุ่นที่ได้รับยกย่องและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ได้แก่ การแกะสลักไม้ การทําหุ่นยนต์ (Robot) การทําดาบซามูไร การจัดสวน การจัดดอกไม้การชงน้ำชา การแสดงละครสวมหน้ากาก “โน” ฯลฯ
58 วัฒนธรรมอาหารของญี่ปุ่น ได้แก่ การรับประทาน
(1) เนื้อดิบ
(2) ปลาดิบ
(3) ไข่ดิบ
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 55, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมในการบริโภคนั้น ชาวญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมในการดํารงชีวิตแบบเรียบง่าย กินอาหารตามสภาพธรรมชาติ ปรุงแต่งน้อย นิยมกินผักดิบ เนื้อดิบ ปลาดิบ ไข่ดิบ กินข้าวปั้นก้อน ๆ ใช้จานไม้และไม้ไผ่ และบริโภคอาหารด้วยมือ
59 “ชาเขียว” ชาวญี่ปุ่นใช้เป็นส่วนผสมของ
(1) เครื่องสําอาง
(2) ขนม
(3) เครื่องดื่ม
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 54, (คําบรรยาย) ชาเขียวถือเป็นวัฒนธรรมอาหารของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงรู้จักไปทั่วโลกซึ่งชาวญี่ปุ่นนิยมใช้ชาเขียวในพิธีชงชาต้อนรับแขก นอกจากนี้ยังถูกใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ในหลาย ๆ ชนิด เช่น เครื่องสําอาง ขนม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เป็นต้น
60 ปลาอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่น
(1) ปลานิล
(2) ปลาทับทิม
(3) ปลามังกร
(4) ปลาคาร์พ
ตอบ 3 (คําบรรยาย) ปลาที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่น ได้แก่
1 ปลานิล เป็นปลาที่ญี่ปุ่นส่งพันธุ์มาให้ไทยนําไปเพาะเลี้ยง
2 ปลาทับทิม เป็นปลาที่ได้จากการผสมพันธุ์ของปลานิลญี่ปุ่น
3 ปลาคาร์พเป็นปลาสวยงาม มีราคาแพง นิยมเลี้ยงไว้ที่สวนและสระน้ำ โดยจะไม่นํามารับประทาน
61 ข้อใดไม่ถูกต้องกับความหมายของ “หยิน-หยาง”
(1) ฟ้า-ดิน
(2) หญิง-ชาย
(3) อ่อน-แข็ง
(4) ดํา-ขาว
ตอบ 1 หน้า 241, (คําบรรยาย) ในสมัยโบราณชาวจีนมีความเชื่ออันเป็นความภาคภูมิของประเทศ คือเชื่อว่า ประเทศจีนอยู่ใจกลางของโลก จึงทําให้เกิดความเชื่อว่าโลกมีวิญญาณสถิตอยู่ มีเพศเป็นหญิง เรียกว่า “หยิน” ซึ่งเป็นวิญญาณแห่งดิน ความมืด กลางคืน ดวงจันทร์ ฯลฯ และเนื่องจากการที่มนุษย์อาศัยอยู่บนโลก ชาวจีนจึงยกย่อง “หยิน” ว่ามีอํานาจเหนือกว่า “หยาง” ซึ่งเป็นเพศชายอันเป็นวิญญาณแห่งฟ้า ความสว่าง กลางวัน ดวงอาทิตย์ ฯลฯ ดังนั้นจึงกล่าว ได้ว่า “หยิน-หยาง” หมายถึง หญิง-ชาย, ดิน-ฟ้า, ความมืด-ความสว่าง, กลางคืน-กลางวัน,ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์, อ่อน-แข็ง, ดํา-ขาว ฯลฯ
62 ขงจื๊อสอนเรื่องผีสางเทวดาไว้ว่า “จงเคารพบูชาผีและเทพเจ้า แต่ควร ”
(1) ประจบใกล้ชิดสม่ำเสมอ
(2) ขอโชคลาภเสมอ ๆ
(3) อยู่ให้ห่าง ๆ
(4) อยู่ใกล้ ๆ ศาลเจ้า
ตอบ 3 หน้า 248 249, (คําบรรยาย) ปรัชญาและหลักคําสอนที่สําคัญของขงจื้อ ได้แก่
1 สอนให้ประชาชนทําพิธีเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ และให้ถือว่าการเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษเป็นหน้าที่ของลูกหลานผู้สืบสกุล ต้องทําเป็นประจําทุกปี และทุกเทศกาล
2 สอนให้ชาวจีนทําพิธีบวงสรวงเทพเจ้าตามจารีตประเพณีของชาวจีนในสมัยโบราณ แต่สอนว่า “จงเคารพบูชาผีและเทพเจ้า แต่ควรอยู่ให้ห่าง ๆ”
3 สอนหลักการปกครอง โดยมีความเห็นว่า การปกครองโดยนิติธรรมเนียม ควรนํามาใช้มากกว่าการปกครองแบบอํานาจและอาชญา เป็นต้น
63 ชาวจีนเชื่อตามลัทธิเต๋าว่า…สําคัญที่สุด
(1) สถานที่เกิด
(2) สถานที่ตาย
(3) สถานที่ฝังศพ
(4) สถานที่เผาศพ
ตอบ 3 หน้า 41, (คําบรรยาย) ชาวจีนมีความเชื่อตามลัทธิเต๋าว่า สุสานหรือสถานที่ฝังศพของบรรพบุรุษนั้นถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสําคัญที่สุด เพราะเชื่อว่าเป็นที่สถิตแห่งดวงวิญญาณและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของวงศ์ตระกูล ดังนั้นถ้าหากฝังศพไว้ในที่ดินที่ถูกโฉลกและเซ่นไหว้บวงสรวงอย่างดีแล้วก็จะทําให้ลูกหลานร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง และมีความสุข
64 ข้อใดไม่ใช่ความรู้ความสามารถของนักบวชเต๋า
(1) ทําหลุมศพ
(2) ทําคลอด
(3) ทํากงเต็ก
(4) ทํายาอายุวัฒนะ
ตอบ 2 หน้า 257 – 258, (คําบรรยาย) ศาสนาเต๋าในระยะหลัง ๆ เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องไสยศาสตร์มากขึ้น ทําให้นักบวชในศาสนาเต๋ากลายเป็นผู้มีความชํานาญพิเศษในการประกอบพิธีกรรม เกี่ยวกับไสยศาสตร์ สามารถทํานายดวงชะตาและเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ มีญาณติดต่อเทพเจ้าและ เซียนได้ มีพลังจิตสะกดวิญญาณและปราบผีปีศาจได้ ทําคุณไสย ทําหลุมศพ ทํากงเต็ก และมีความสามารถในการทํายาอายุวัฒนะ
65 ข้อใดไม่ใช่พรสวรรค์พิเศษของนักบวชเต๋า
(1) มีญาณติดต่อเทพ-เซียนได้
(2) มีพลังจิตสะกดวิญญาณได้
(3) ทํานายดวงชะตา
(4) ช่วยคนตายใหม่ ๆ ให้ฟื้นได้
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 64 ประกอบ
66 ข้อใดมีความหมายตรงกับ “ฮวงจุ้ย”
(1) ลม-น้ำ
(2) ดิน-ฟ้า
(3) รุ่งเรือง-ร่ำรวย
(4) อายุ-ยืนนาน
ตอบ 1 (คําบรรยาย) คําว่า “ฮวงจุ้ย” มีความหมายตรงกับคําว่า ลม (ฮวง) และน้ำ (จุ้ย) เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว ซึ่งถือเป็นศาสตร์แห่งการพยากรณ์ของชาวจีนในการเลือกสรรทําเลที่ตั้งของสถานที่ทั้งสําหรับคนเป็นและคนตาย โดยยึดหลักแห่งความสมดุลของสภาพแวดล้อมให้มีความกลมกลืนกันเพื่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองแก่คนในครอบครัวและลูกหลาน
67 การทําศพของผู้นับถือศาสนาโซโรอัสเตอร์เกี่ยวข้องกับ
(1) นกพิราบ
(2) นกแร้ง
(3) นกเหยี่ยว
(4) นกอินทรี
ตอบ 2 หน้า 425 คติความเชื่อเกี่ยวกับความตายของศาสนาโซโรอัสเตอร์ คือ การห้ามไม่ให้เผาศพห้ามนําศพไปทิ้งน้ำ และห้ามนําศพไปฝังดิน ทั้งนี้เพราะเชื่อว่าศพนั้นเป็นสิ่งสกปรกซึ่งจะทําให้ ไฟ น้ำ และดินที่พวกเขานับถือต้องสกปรก แต่ให้ทําพิธีศพโดยการนําศพไปวางทิ้งไว้บนหอสูงเรียกว่า “หอคอยแห่งความสงบสุข” แล้วปล่อยให้นกแร้งมาจิกกินเป็นอาหาร
68 ความเชื่อเรื่องบูชาพระเจ้าของชาวโซโรอัสเตอร์เกี่ยวข้องกับ..
(1) ดิน
(2) น้ำ
(3) ลม
(4) ไฟ
ตอบ 4 หน้า 421 ศาสนาโซโรอัสเตอร์ เป็นศาสนาที่มีพิธีบูชาพระเจ้าด้วยไฟ เซ่นสังเวยพระเจ้าด้วยเหล้าศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งพระเจ้าของศาสนาโซโรอัสเตอร์มีพระนามว่า เทพเจ้าอนุรา มาสดา (Ahura Mazda)
69 ศาสนาโซโรอัสเตอร์มีอายุร่วมสมัยกับศาสนาใด
(1) กรีกโบราณ
(2) อียิปต์โบราณ
(3) ยูดาห์
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 (คําบรรยาย) ศาสนาที่เกิดร่วมสมัยกับศาสนาโซโรอัสเตอร์ ได้แก่ กรีกโบราณ อียิปต์โบราณ ยูดาห์ ฮินดู อินคา เป็นต้น
- 70. ศาสนาโซโรอัสเตอร์ถือว่าบาปที่สุดคือ
(1) เล่นการพนัน
(2) ลักขโมย
(3) พูดเท็จ
(4) เมาสุรา
ตอบ 3 หน้า 423 424 ศาสดาของศาสนาโซโรอัสเตอร์ได้สั่งสอนไม่ให้คนโกหก กล่าวเท็จเป็นพยานเท็จ และประณามผู้โกหก กล่าวเท็จอย่างมากว่าบาปที่สุด จนเป็นกฎบัญญัติให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดของศาสนานี้
71 ศาสดามหาวีระของศาสนาเชนอยู่ร่วมสมัยกับศาสดาของศาสนาใด
(1) ฮินดู
(2) พุทธ
(3) ซิกข์
(4) โซโรอัสเตอร์
ตอบ 2 หน้า 291, 329 ศาสดามหาวีระของศาสนาเชนเกิดในยุคสมัยเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของศาสนาพุทธ โดยทั้งสองศาสนาจะมีความคล้ายกันหลายประการ เช่น เป็นศาสนาแห่งเหตุผล สั่งสอนไม่ให้คนหลงงมงาย ชาติกําเนิดและชีวประวัติของศาสดา (มีชื่อพระชายา ยโสธรา เหมือนกัน) รวมทั้งหลักธรรมคําสอนก็คล้ายคลึงกันมากจนมีนักวิชาการหลายท่านคิดว่าเป็นศาสนาเดียวกัน
72 ชื่อศาสดา “มหาวีระ” มีความหมายว่า
(1) ฉลาดมาก
(2) ปัญญามาก
(3) กล้าหาญมาก
(4) บารมีมาก
ตอบ 3 หน้า 330, (คําบรรยาย) พระมหาวีระ ศาสดาของศาสนาเชนมีพระนามเดิมว่าเจ้าชายวรรธมานะหรือวัธมานะ เกิดในวรรณะกษัตริย์ พระนาม “มหาวีระ” แปลว่า มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่กล้าหาญ ซึ่งเหตุที่ได้รับขนานนามว่า พระมหาวีระผู้กล้าหาญมาก เพราะในขณะเมื่อยังทรงพระเยาว์อยู่นั้น พระองค์เคยปราบช้างตกมันที่วิ่งพลัดเข้ามาในอุทยาน โดยสามารถขึ้นขี่ช้างพลายนั้นและบังคับไปสู่โรงช้างได้อย่างเรียบร้อย โดยมิได้แสดงพระอาการเกรงกลัวแต่อย่างใด
73 ชาวเชนมีความเชื่อว่าเป็นการตัดกิเลสและจะได้บุญมาก
(1) เดินทางแสวงบุญจนตาย
(2) ทรมานทําร้ายร่างกายจนตาย
(3) อดอาหารจนตาย
(4) สวดสรรเสริญจนตาย
ตอบ 3 หน้า 338, (คําบรรยาย) ชาวเชนมีความเชื่อว่า ความตายที่บริสุทธิ์คือการอดอาหารตายและถือเป็นการบําเพ็ญเพียรเพื่อตัดกิเลสและจะได้บุญมาก
74 ผู้นับถือศาสนาเชนผู้หญิง จะทําข้อใด
(1) กินมังสวิรัติ
(2) เป็นนักบวช
(3) บรรลุธรรมสูงสุด
(4) ตัดกิเลสด้วยการเปลือยกาย
ตอบ 1 หน้า 337 338, 340, (คําบรรยาย) ศาสดามหาวีระของศาสนาเชนไม่ให้มีนักบวชหญิงและปฏิเสธการปฏิบัติธรรมของสตรี โดยเห็นว่า “สตรีเพศเป็นเหตุแห่งบาป” และเป็นที่ตั้งแห่งกิเลส ทั้งหลาย ซึ่งนิกายทิคัมพรในศาสนาเชนนั้นเชื่อว่าสตรีไม่สามารถบรรลุธรรมสูงสุดได้ อีกทั้ง นักบวชในนิกายนี้ต้องเปลือยกาย ดังนั้นหากสตรีเพศต้องเปลือยกายอาจจะทําให้นักบวชชายเกิดกิเลสได้ ส่วนการกินมังสวิรัตินั้นผู้ที่นับถือศาสนาเชนทุกคนไม่ว่าชายหรือหญิงสามารถทําได้
75 ศาสดามหาวีระเกิดในวรรณะใด
(1) พราหมณ์
(2) กษัตริย์
(3) แพศย์
(4) ศูทร
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 72 ประกอบ
76 ผู้นับถือศาสนาซิกข์คนแรกมีความสัมพันธ์เป็น….ของศาสดาซิกข์
(1) มารดา
(2) พี่สาว
(3) น้องสาว
(4) ภรรยา
ตอบ 2 หน้า 342 คุรุนานัก ผู้ก่อตั้งศาสนาซิกข์ (ศาสดาองค์ที่ 1 ของศาสนาซิกข์) มีพี่สาวคนหนึ่งชื่อนานกี (แปลว่า หลานตา) ซึ่งรักท่านครูนานักมากจึงได้เอาชื่อของตนไปตั้งชื่อให้แก่น้องชายว่า “นานัก” และคงเป็นเพราะว่ารักน้องชายมากนี้เอง ต่อมานางนานกีจึงได้สมัครเป็นชาวซิกข์คนแรกด้วย
77 ชาวซิกข์จะไม่ใส่เสื้อผ้าชุดสี
(1) ดํา
(2) ขาว
(3) แดง
(4) เหลือง
ตอบ 3 หน้า 348 349 คุรุโควินทสิงห์ เป็นศาสดาของศาสนาซิกข์ที่ให้ศีล 21 ข้อ ซึ่งเป็นศีลประจําชีวิตที่ศิษย์ของท่านทุกคนถือปฏิบัติ เช่น
1 มี “ก 5 ประการ” ไว้กับตน คือ เกศ กังฆา กฉา กรา และกฤปาน
2 ห้ามใช้สีแดง เพราะเป็นสีที่หมายถึงความรัก ความเมตตา ซึ่งขัดต่อนิสัยนักรบ
3 ให้ใช้คําว่า “สิงห์” ต่อท้ายตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
4 ห้ามเปลือยศีรษะ นอกจากเวลาอาบน้ำ
5 ห้ามตัดหรือโกนผม หนวด และเครา
6 ให้ถือว่าการขี่ม้า ฟันดาบ และมวยปล้ำ เป็นกิจที่ต้องทําอยู่เป็นนิจ ฯลฯ
78 ชาวซิกข์ในประเทศอินเดียส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในแคว้น
(1) โอริสสา
(2) แคชเมียร์
(3) ปัญจาบ
(4) มคธ
ตอบ 3 หน้า 341 ในปัจจุบันผู้นับถือศาสนาซิกข์มีอยู่กระจัดกระจายทั่วโลก ในประเทศอินเดียผู้นับถือศาสนาซิกข์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในแคว้นปัญจาบ ทั้งนี้เพราะแคว้นปัญจาบเป็นแหล่ง ที่เกิดของศาสนา และที่สําคัญก็คืออักษรและภาษาของแคว้นปัญจาบที่เป็นภาษาประจําถิ่น ก็มาจากศาสนาซิกข์ นอกจากนี้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาซิกข์ที่สําคัญส่วนใหญ่สร้างขึ้นในแคว้นปัญจาบแทบทั้งสิ้น
79 การดํารงชีวิตของชาวซิกข์ ได้แก่
(1) กล้าหาญ
(2) มีการรยาคนเดียว
(3) สตรีไม่ต้องคลุมหน้า
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 340, 345, 353, (คําบรรยาย) หลักการดํารงชีวิตของชาวซิกข์ ได้แก่
1 เป็นผู้กล้าหาญและผู้เสียสละ
2 ชายมีภรรยาได้แค่คนเดียว
3 สตรีไม่ต้องคลุมหน้าเมื่อออกนอกบ้าน
4 สามี-ภรรยามีสิทธิเท่าเทียมกัน
5 หญิงไม่ต้องจ่ายค่าสินสอดสู่ขอชาย ฯลฯ
80 ศาสดาของศาสนาซิกข์ชื่อ ท่าน
(1) รพิณทรนาถ
(2) นานัก
(3) วรรธมานะ
(4) โควินทะ
ตอบ 2 หน้า 342, 345 – 347 ศาสนาซิกข์มี “คุรุ” หรือศาสดาทั้งหมด 10 ท่าน ได้แก่
1 นานัก 2 อังคัพ 3 อมรทาส 4 รามทาส 5 อรชุน 6 หริโควินท์ 7 หริไร 8 หรึกฤษัน 9 เฒฆพหฑูร์ 10 โควินทสิงห์
81 ศาสนายูดาห์เป็นศาสนาของชนชาติ
(1) อิสราเอล
(2) ยิว
(3) ฮิบรู
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 359, (คําบรรยาย) ศาสนายูดาห์ เป็นศาสนาของชนชาติอิสราเอลหรือยิวหรือฮิบรูมีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นลึกซึ้งต่อประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชนชาติอิสราเอล จนอาจกล่าวได้ว่าศาสนายูดาห์เกิดขึ้นเพื่อชนชาติอิสราเอลโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังถือเป็น ศาสนาที่สําคัญศาสนาหนึ่งของโลก เพราะมีอายุยืนนานกว่า 4,000 ปี และยังคงมีผู้คนนับถือสืบต่อมาอย่างไม่ขาดสายจนถึงปัจจุบัน
82 ศาสดาองค์ใดนําบัญญัติ 10 ประการ มาสู่มนุษย์
(1) อับราฮัม
(2) โมเสส
(3) เยซู
(4) นบีมูฮัมหมัด
ตอบ 2 หน้า 364 365 บทบาทสําคัญของโมเสสที่มีต่อประชาชนชาวอิสราเอล คือ ช่วยให้ชาวอิสราเอลพ้นจากความเป็นทาสของอียิปต์ รวมทั้งโมเสสยังเป็นผู้รับโองการจากพระเจ้า เรียกว่า บัญญัติ 10 ประการ ซึ่งพระเจ้าประทานแก่ชาวอิสราเอล โดยโมเสสได้สลักลงใน แผ่นศิลา 2 แผ่น ให้ขาวอิสราเอลถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดแล้วจะพบดินแดนแห่งสัญญาแต่ถ้าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามแล้วพระเจ้าก็จะลงโทษ
83 ศาสดาองค์ใดที่กําหนดไม่ให้กินเนื้อหมูเป็นคนแรก
(1) อับราฮัม
(2) โมเสส
(3) เยซู
(4) นบีมูฮัมหมัด
ตอบ 1 หน้า 370, (คําบรรยาย) ศาสดาอับราฮัมของศาสนายูดาห์ เป็นคนแรกที่สอนมนุษย์ไม่ให้กินเนื้อหมู เนื้อหมา เนื้อหนู เนื้องู ปลาหมึก ปลาไหล และกุ้ง ทั้งนี้เพราะเป็นสัตว์ที่กินของสกปรก
84 วันพระของศาสนายูดาห์คือ วัน
(1) ศุกร์
(2) เสาร์
(3) อาทิตย์
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 2 หน้า 364, 367, (คําบรรยาย) วันเสาร์ถือเป็นวันพระของศาสนายูดาห์ เรียกว่า วันแซบบาธหรือวันซะบาโต คือวันที่พระเจ้าทรงสร้างโลกและจักรวาลเสร็จ และทรงหยุดพักผ่อนในวันที่ 7 โดยวันแซบบาธเป็นวันที่ชาวอิสราเอลทั้งหลายจะหยุดทํางาน และการทํากิจการต่าง ๆ ทุกชนิด แม้แต่การก่อไฟในเตาก็งดเว้น เพื่อบูชาพระเจ้าตามที่ปรากฏในบัญญัติ 10 ประการ คือห้ามทําการสิ่งใดในวันที่ 7 และให้ถือเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ด้วย
85 วันพระของศาสนายูดาห์ ชาวอิสราเอลจะไม่ทําข้อใด
(1) ทําความสะอาดบ้าน
(2) ปรุงอาหารเลี้ยง
(3) จัดงานแต่งงาน
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 84 ประกอบ
86 จังหวัดใดไม่ได้ใช้กฎหมายอิสลาม
(1) ระนอง
(2) สตูล
(3) นราธิวาส
(4) ปัตตานี
ตอบ 1 หน้า 391 ประเทศไทยมีชาวมุสลิมผู้นับถือศาสนาอิสลามอยู่ทั่วทุกจังหวัด และมีมากที่สุดใน 4 จังหวัดภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล โดยรัฐบาลไทยได้อนุญาตให้ใช้กฎหมายอิสลามใน 4 จังหวัดภาคใต้ดังกล่าวนี้
87 ข้อใดไม่ใช่วัฒนธรรมอาหรับ
(1) อิฐ
(2) พรม
(3) ภาษา
(4) นิทานอาหรับราตรี
ตอบ 1 หน้า 392 393 วัฒนธรรมของชาวอาหรับ ได้แก่ การทําพรม ภาษาอาหรับ ความรู้เรื่องดาราศาสตร์ นิทานอาหรับราตรี อาลาดินกับตะเกียงวิเศษ ฯลฯ (ดูคําอธิบายข้อ 2 ประกอบ)
88 มุสลิมคนแรกคือ….ของนบีมูฮัมหมัด
(1) มารดา
(2) พี่สาว
(3) ภรรยา
(4) ลูกสาว
ตอบ 3 (คําบรรยาย) มุสลิม (ผู้นับถือศาสนาอิสลาม) คนแรกของโลก คือ นางคาดียะฮ์ (Khadiah) ซึ่งเป็นภรรยาคนแรกของท่านนบีมูฮัมหมัด โดยท่านนบีรักและเคารพภรรยาผู้นี้มาก และได้ กล่าวถึงว่า “เมื่อข้าพเจ้ายากจน เธอทําให้ข้าพเจ้าร่ํารวยขึ้น เมื่อคนอื่นกล่าวว่าข้าพเจ้าพูดเท็จเธอเท่านั้นที่เชื่อในข้าพเจ้า”
89 “ดาโต๊ะยุติธรรม” ต้องมีอายุตั้งแต่ ปีขึ้นไป
(1) 25 ปี
(2) 30 ปี
(3) 35 ปี
(4) 40 ปี
ตอบ 1 หน้า 410 411, (คําบรรยาย) ตําแหน่งดาโต๊ะยุติธรรมนั้น คัดเลือกจากอิสลามศาสนิกชนผู้มีคุณสมบัติดังนี้
1 มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป
2 มีภูมิรู้ในศาสนาอิสลามพอที่จะ เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายอิสลามเกี่ยวกับครอบครัวและมรดก
3 มีความรู้ภาษาไทยอ่านออกเขียนได้
90 นบีมูฮัมหมัดได้รับยกย่องตั้งแต่วัยเยาว์ว่าเป็น
(1) ผู้ชาญฉลาด
(2) ผู้กล้าหาญ
(3) ผู้ไว้ใจได้
(4) ผู้มีรูปงาม
ตอบ 3 หน้า 394 395 ศาสดาผู้ก่อตั้งศาสนาอิสลาม คือท่านศาสดา “นบีมูฮัมหมัด” ซึ่งคําว่า “นบี”แปลว่า ผู้ประกาศข่าว อันหมายถึง บุคคลผู้เป็นศาสดาแห่งศาสนาอิสลาม โดยในช่วงวัยเยาว์นั้น ท่านนบีได้ขยันช่วยงานอาชีพของลุงท่านเป็นอย่างดี อีกทั้งยังสุขุม เยือกเย็น สุภาพอ่อนโยน และรักความยุติธรรมผิดกับเด็กอื่น ๆ ที่อยู่ในวัยเดียวกัน จนคนทั่วไปนิยมเชื่อถือท่านว่ามีความซื่อสัตย์และได้ขนานนามท่านว่า “อัล-อามิน” ซึ่งแปลว่า ผู้ไว้ใจได้ตั้งแต่วัยเยาว์
91 “ใช้ชีวิตแบบคนป่วย” เป็นหลักการดํารงชีวิตของศาสนาใด
(1) ฮินดู
(2) เชน
(3) ซิกข์
(4) โซโรอัสเตอร์
ตอบ 2 หน้า 338, (คําบรรยาย) พระมหาวีระ ศาสดาของศาสนาเชน กล่าวว่า “คนมีคุณธรรมย่อมถือความสบายเท่ากับความเจ็บป่วย” นั่นคือ ทรงสอนให้ใช้ชีวิตแบบคนป่วย หรือให้สมถะพอเพียงไม่อยากได้สิ่งที่ไม่จําเป็น คนไม่ว่าจะร่ํารวยเพียงใดก็ตามต้องไม่หมกมุ่นกับตัณหาของตน
92 ศาสนาใดมีอายุน้อยที่สุด
(1) เชน
(2) ซิกข์
(3) อิสลาม
(4) คริสต์
ตอบ 2 หน้า 340 341 ศาสนาซิกข์ เป็นศาสนาที่มีอายุน้อยที่สุดในบรรดาศาสนาทั้งหลายในประเทศอินเดีย เป็นศาสนาที่เกิดจากการถูกบีบบังคับทางการเมืองและถูกคนในศาสนาอื่นบังคับ ขู่เข็ญ อีกทั้งยังเป็นศาสนาที่ผู้นับถือชายเกือบทุกคนเป็นนักรบในสมัยที่ตั้งศาสนาตอนแรก ๆจึงกลายเป็นศาสนาของผู้กล้าหาญ ผู้เสียสละ และเป็นศาสนาของทหารหรือนักรบ โดยทหารซิกข์ นับเป็นทหารชั้นหนึ่งของอินเดียจนกระทั่งได้รับสมญาว่า “แขนคือดาบ”
93 “นกมีหู-หนูมีปีก” หมายถึงศาสนาใด
(1) เชน
(2) ซิกข์
(3) อิสลาม
(4) คริสต์
ตอบ 2 หน้า 341, 344, (คําบรรยาย) คุรุนานัก เดิมนั้นนับถือศาสนาฮินดู แต่ท่านได้หาวิธีที่จะทําให้ชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดูและศาสนาอิสลาม มีความสมัครสมานสามัคคีเป็นพวกเดียวกัน เลิกรบราฆ่าฟันและเป็นศัตรูกัน โดยได้ก่อตั้งศาสนาซิกข์ขึ้นมา ซึ่งท่านนําหลักการของทั้งฮินดูและ อิสลามมาประยุกต์ปรับปรุงให้เข้ากันแล้วเพิ่มหลักธรรมของท่านลงไป ซึ่งทําให้จักรพรรดิโอรังเซป กษัตริย์มุสลิมทรงประณามศาสนาซิกข์ว่าเป็นเหมือนค้างคาว หรือพวก “นกมีหู หนูมีปีก” คือ เป็นฮินดูก็ไม่ใช่ เป็นอิสลามก็ไม่ใช่
94 “สุวรรณวิหาร” เป็นศาสนสถานที่สําคัญที่สุดของศาสนาใด
(1) ฮินดู
(2) เชน
(3) ซิกข์
(4) พุทธ
ตอบ 3 หน้า 346 คุรุอรชุน เป็นผู้สร้าง “สุวรรณวิหาร” หรือหริมณเฑียรขึ้นกลางสระอมฤต ซึ่งเป็นวิหารหรือวัดที่สวยงามมาก มีประตูสี่ด้าน ไม่มีรูปเคารพใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นสีทองอร่ามไปทั่วทั้ง วิหารทั้งภายนอกและภายใน ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา และถือเป็นศาสนสถานที่สําคัญที่สุดของศาสนาซิกข์
95 สามี-ภรรยาเท่าเทียมกัน คือ หลักการดํารงชีวิตของชาว
(1) ชาวยิว
(2) ชาวซิกข์
(3) ชาวพุทธ
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 79 ประกอบ
96 วัดที่จะรับกฐินได้ต้องมีพระจําพรรษาอยู่ไม่น้อยกว่ารูป
(1) 3 รูป
(2) 5 รูป
(3) 7 รูป
(4) 9 รูป
ตอบ 2 หน้า 151 – 152, 155 การทําบุญถวายผ้ากฐิน หรือที่ชาวบ้านทั่วไปมักเรียกว่า “ทอดกฐิน”นับเป็นการทําบุญที่ยิ่งใหญ่และทําเพียงปีละครั้ง โดยวัดที่จะรับผ้ากฐินได้ต้องมีพระสงฆ์จําพรรษา อยู่ไม่น้อยกว่า 5 รูป จึงจะรับผ้ากฐินได้ ทั้งนี้กฐินทานเป็นทานพิเศษประเภทหนึ่งที่ถวายได้เฉพาะกาล คือ ตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันเพ็ญเดือน 12
97 “สตรีเป็นเหตุแห่งบาป” เป็นคําสอนของศาสดา
(1) มหาวีระ
(2) นานัก
(3) เยซู
(4) โมเสส
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 74 ประกอบ
98 ศาสดาองค์ใดเป็นชาวอิสราเอล
(1) อับราฮัม
(2) โมเสส
(3) เยซู
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 360 361, 372 อับราฮัม และโมเสส เป็นชาวอิสราเอลและถือเป็นศาสดาของศาสนายูดาห์รวมทั้งพระเยซู ศาสดาผู้ก่อตั้งศาสนาคริสต์ ก็เป็นชาวอิสราเอลและนับถือศาสนายูดาห์มาตั้งแต่เกิดจนตาย
99 ศาสดาองค์แรกที่ประกาศว่าพระเจ้าให้ชายขริบอวัยวะเพศ
(1) นบีมูฮัมหมัด
(2) อับราฮัม
(3) โมเสส
(4) เยซู
ตอบ 2 หน้า 368 369, (คําบรรยาย) ศาสดาอับราฮัมของศาสนายูดาห์ ได้ให้คํามั่นสัญญากับพระเจ้าว่า ลูกชายชาวอิสราเอล (ชาวยิวหรือชาวฮิบรู) ทุกคนต้องทําการขริบปลายอวัยวะเพศ เพื่อเป็น สัญลักษณ์ที่ยืนยันว่าชนชาติอิสราเอลเป็นชนชาติแรกที่พระเจ้าทรงเลือก (The Chosen People) และยังถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธสัญญากับพระเจ้า
100 ปี พ.ศ. 2559 มหาวิทยาลัยรามคําแหงได้กฐินพระราชทานไปถวายกฐินที่จังหวัด…
(1) เพชรบุรี
(2) ราชบุรี
(3) สุพรรณบุรี
(4) กาญจนบุรี
ตอบ 3 (คําบรรยาย) มหาวิทยาลัยรามคําแหง ถวายผ้าพระกฐินพระราชทานประจําปี 2559 ณ วัดสองพี่น้อง พระอารามหลวง จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 10.00 น. โดยมีคณะผู้บริหาร คณาจารย์ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ นักศึกษาและศิษย์เก่า รวมทั้งประชาชนเข้ารวมในพิธี