การสอบซ่อมภาค 1 ปีการศึกษา 2548
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2011
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยตัวแทน นายหน้า
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี 3 ข้อ
ข้อ 1 นายหนึ่งตั้งนายสองเป็นตัวแทนไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับนายสาม นายสองกับนายสามตกลงกันว่านายสามจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของนายสามออกไปจากที่ดินของนายหนึ่งภายใน 1 เดือน โดยนายหนึ่งจะยอมจ่ายค่ารื้อถอนให้แก่นายสาม 2,000 บาท หากนายสามไม่รื้อถอนตามกำหนด นายสามไม่มีสิทธิได้ค่ารื้อถอนและยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายหนึ่งเป็นรายเดือนๆละ 200 บาท ไปจนกว่าจะรื้อถอนเสร็จ การทำสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นกิจกรรมที่กฎหมายบังคับให้มีหลักฐานเป็นหนังสือ
ให้ท่านวินิจฉัยว่าหากนายหนึ่งตั้งนายสองเป็นตัวแทนโดยมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือแล้ว ผลของสัญญาประนีประนอมยอมความที่ว่านี้จะเป็นอย่างไร และหากทั้งสองฝ่ายคือทั้งนายหนึ่งและนายสามเกิดผิดสัญญาต่อกัน จะฟ้องร้องกันได้หรือไม่ อย่างไร
ธงคำตอบ
มาตรา 798 กิจการอันใดท่านบังคับไว้โดยกฎหมายว่าต้องทำเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องทำเป็นหนังสือด้วย
กิจการอันใดท่านบังคับไว้ว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย
วินิจฉัย
นายหนึ่งตั้งนายสองเป็นตัวแทนไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับนายสาม ซึ่งสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นสัญญาที่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ (มาตรา 51) ดังนั้นการตั้งตัวแทนเพื่อกิจการนี้ก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วยตามมาตรา 798 เมื่อตามปัญหานายหนึ่งตั้งนายสองเป็นตัวแทนโดยมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ผลก็คือสัญญาประนีประนอมยอมความ ที่นายสองทำไว้กับนายสามไม่ผูกพันทั้งนายหนึ่งและนายสาม กล่าวคือ
1 แม้นายสามรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามกำหนด แต่นายหนึ่งไม่จ่ายค่ารื้อถอน นายสามจะฟ้องเรียกค่ารื้อถอนกันไม่ได้
2 หรือหากนายสามไม่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกตามสัญญา นายหนึ่งจะฟ้องเรียกค่าเสียหายรายเดือนจากนายสามไม่ได้เช่นกัน
สรุป นายหนึ่ง และนายสามไม่อาจฟ้องบังคับกันและกันได้
ข้อ 2 รัฐบาลประเทศเอกราชได้ทำสัญญาว่าจ้างให้นางพานทองพูมเป็นผู้ก่อสร้างสนามบินสุวรรณเขต โดยคิดค่าก่อสร้างกว่าสามหมื่นล้านบาท ปรากกว่านางพานทองพูมต้องเดินทางไปประมูลงานก่อสร้างที่ต่างประเทศ จึงได้มอบหมายให้นายจตุรทิศเป็นผู้ดูแลการลงนามในสัญญาจ้างและควบคุมการก่อสร้างครั้งนี้ทั้งหมด ก่อนทำการก่อสร้างนายจตุรทิศได้ทำสัญญาจ้างนายอดิศรซึ่งเป็นวิศวกรมาเป็นผู้ช่วยในการก่อสร้าง โดยตกลงค่าจ้างเป็นเงิน 500,000 บาท
ต่อมานายจตุรทิศได้ทำสัญญาซื้อวัสดุก่อสร้างจากเฮียตงเป็นเงิน 3,000 ล้านบาท โดยมีนายเบญจรงค์เป็นผู้ค้ำประกันการชำระค่าวัสดุก่อสร้าง นายจตุรทิศได้ยักยอกเงินนางพานทองพูมไปใช้เป็นการส่วนตัวจนเป็นเหตุให้ใช้วัสดุก่อสร้างไม่ตรงตามที่ตกลงในสัญญาจ้างก่อสร้าง เป็นเหตุให้เกิดการแตกร้าวบริเวณสนามบิน เมื่อก่อสร้างเสร็จประเทศเอกราชไม่ยอมรับมอบงานและไม่จ่ายค่าจ้างให้นางพานทองพูม ให้นักศึกษาวินิจฉัยว่า
1 นายอดิศรจะฟ้องเรียกค่าจ้าง 500,000 บาท จากนางพานทองพูมและนายจตุรทิศได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
2 ถ้าหากเมื่อหนี้ตามสัญญาซื้อวัสดุก่อสร้างถึงกำหนดชำระ เฮียตงได้ฟ้องให้นายเบญจรงค์รับผิดตามสัญญาค้ำประกันและนายเบญจรงค์ได้ชำระเงินไป ดังนี้นายเบญจรงค์จะฟ้องไล่เบี้ยให้นางพานทองพูมและนายจตุรทิศ คืนเงิน 3,000 ล้านบาทได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 797 อันว่าสัญญาตัวแทนนั้น คือสัญญาซึ่งให้บุคคลคนหนึ่งเรียกว่าตัวแทน มีอำนาจทำการแทนบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าตัวการและตกลงจะทำการดังนั้น
อันความเป็นตัวแทนนั้นจะเป็นโดยตั้งแต่แสดงออกชัดหรือโดยปริยายก็ย่อมได้
มาตรา 800 ถ้าตัวแทนได้รับมอบอำนาจแต่เฉพาะการ ท่านว่าจะทำการแทนตัวการได้แต่เพียงในสิ่งจำเป็น เพื่อให้กิจอันเขาได้มอบหมายแก่ตนนั้นสำเร็จลุล่วงไป
มาตรา 820 ตัวการย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจการทั้งหลายอันตัวแทนหรือตัวแทนช่วงได้ทำไปภายในขอบอำนาจแห่งฐานตัวแทน
มาตรา 823 ถ้าตัวแทนกระทำการอันใดอันหนึ่งโดยปราศจากอำนาจก็ดี หรือทำนอกทำเหนือขอบอำนาจก็ดี ท่านว่าย่อมไม่ผูกพันตัวการเว้นแต่ตัวการจะให้สัตยาบันแก่การนั้น
ถ้าตัวการไม่ให้สัตยาบัน ท่านว่าตัวแทนย่อมต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกโดยลำพังตนเอง เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าบุคคลภายนอกนั้นได้รู้อยู่ว่าตนทำการโดยปราศจากอำนาจ หรือทำนอกเหนือขอบอำนาจ
วินิจฉัย
นางพานทองพูมได้มอบอำนาจให้นายจตุรทิศเป็นตัวแทนในการทำสัญญารับจ้างก่อสร้างสนามบินสุวรรณเขตกับรัฐบาลประเทศเอกราช และให้นายจตุรทิศดูแลการก่อสร้าง ถือได้ว่านายจตุรทิศเป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจเฉพาะการของนางพานทองพูมตัวการ ซึ่งตัวแทนผู้รับมอบอำนาจเฉพาะการมีอำนาจทำการแทนตัวการได้เฉพาะในสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้การก่อสร้างซึ่งเป็นกิจการที่ได้มอบหมายสำเร็จลุล่วงไปตามาตรา 800 ประกอบมาตรา 797
1 การที่นายจตุรทิศได้ทำสัญญาจ้างนายอดิศรวิศวกรมาเพื่อเป็นผู้ช่วยในการดูแลการก่อสร้าง โดยตกลงค่าจ้างเป็นเงิน 500,000 บาท ถือว่าเป็นการกระทำในสิ่งจำเป็นเพื่อให้กิจการที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงไป ดังนั้นเมื่อนายจตุรทิศตัวแทนได้กระทำการภายในของอำนาจนางพานทองพูมตัวการต้องผูกพันในการจ่ายค่าจ้างให้นายอดิศรตามสัญญาตามมาตรา 820 แม้ว่านายจตุรทิศตัวแทนจะทำการยักยอกเงินนางพานทองพูมไปเป็นเหตุให้ใช้วัสดุก่อสร้างไม่ตรงตามสัญญาจ้างก่อสร้างก็ตาม ก็เป็นเรื่องความรับผิดที่นายจตุรทิศตัวแทนต้องรับผิดต่อนางพานทองพูมตัวการไม่เกี่ยวกับนายอดิศรบุคคลภายนอก
2 ส่วนกรณีที่นายจตุรทิศตัวแทนได้ทำสัญญาซื้อวัสดุก่อสร้างจากเฮียตง โดยมีนายเบญจรงค์เป็นผู้ค้ำประกัน ก็ถือว่าสัญญาซื้อวัสดุก่อสร้างเป็นการกระทำในสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้การก่อสร้างสำเร็จลุล่วงไป ดังนั้นเมื่อนายจตุรทิศตัวแทนได้กระทำการภายในขอบอำนาจนางพานทองพูมตัวการต้องผูกพันในการจ่ายค่าวัสดุก่อสร้างตามสัญญาซื้อขายต่อเฮียตงบุคคลภายนอก แต่เมื่อปรากฏว่าเฮียตงได้เรียกร้องให้นายเบญจรงค์รับผิดตามสัญญาค้ำประกันไป นายเบญจรงค์ก็รับช่วงสิทธิไปเรียกร้องจากนางพานทองพูมได้ ไม่อาจเรียกให้นายจตุรทิศตัวแทนรับผิดได้ เพราะการทำสัญญาซื้อวัสดุก่อสร้างมิใช่เป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจหรือนอกขอบอำนาจ ซึ่งตัวแทนจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกโดยลำพังตามมาตรา 823 ดังนั้นนางพานทองพูมตัวการจึงต้องผูกพันชำระเงิน 3,000 ล้านบาทต่อนายเบญจรงค์ตามมาตรา 820
สรุป
1 นายอดิศรมีสิทธิฟ้องเรียกค่าจ้างจากนางพานทองพูมตัวการได้
2 นายเบญจรงค์มีสิทธิฟ้องเรียกค่าวัสดุก่อสร้างจากนางพานทองพูมตัวการได้
ข้อ 3 นายแดงต้องการซื้อที่ดิน 1 แปลงแถวมีนบุรีเพื่อปลูกบ้านอยู่อาศัย จึงได้ติดต่อให้นายดำเป็นผู้หาที่ดินที่ตนต้องการ โดยตกลงว่าจะออกค่าใช้จ่ายให้แก่นายดำ นายดำขับรถผ่านที่ดินของนายเขียวเห็นป้ายประกาศขายที่ดินของนายเขียวพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ นายดำจึงพานายแดงไปดูที่ดินแปลงดังกล่าว นายแดงพอใจจึงตกลงทำสัญญาซื้อขายและไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดิน หลังจากนั้นนายดำจึงไปขอค่าบำเหน็จจากนายเขียวโดยอ้างว่าตนเป็น ผู้ชี้ช่องและจัดการให้ได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินจนเสร็จ ดังนี้อยากทราบว่านายเขียวจะต้องจ่ายค่าบำเหน็จให้แก่นายดำหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 845 วรรคแรก บุคคลผู้ใดตกลงจะให้ค่าบำเหน็จแก่นายหน้า เพื่อที่ชี้ช่องให้ได้เข้าทำสัญญาก็ดี จัดการให้ได้ทำสัญญากันก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จก็ต่อเมื่อสัญญานั้นได้ทำกันสำเร็จ เนื่องแต่ผลแห่งการที่นายหน้าได้ชี้ช่องหรือจัดการนั้น ถ้าสัญญาที่ได้ทำกันไว้นั้นมีเงื่อนไขเป็นเงื่อนบังคับก่อนไซร้ ท่านว่าจะเรียกร้องบำเหน็จค่านายหน้ายังหาได้ไม่จนกว่าเงื่อนไขนั้นสำเร็จแล้ว
วินิจฉัย
นายเขียวต้องการขายที่ดินด้วยตนเองจึงได้ติดป้ายประกาศขายที่ดินพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ เมื่อนายดำเห็นป้ายจึงพานายแดงมาซื้อที่ดิน แม้การซื้อขายจะเกิดจากการชี้ช่องและจัดการของนายดำจนทำให้สัญญาซื้อขายสำเร็จ แต่นายเขียวก็ไม่ได้ตกลงให้นายดำเป็นนายหน้าที่ดิน และไม่ได้ตกลงว่าจะจ่ายค่าบำเหน็จให้ตามมาตรา 845 วรรคแรก
ดังนั้น นายเขียวจึงไม่ต้องจ่ายค่าบำเหน็จให้แก่นายดำ